ช่อง3 - ผู้ประกอบการวิ่งวุ่น ยื่นหนังสือศาลปกครองขอคุ้มครองชั่วคราว ได้ผลสรุปยืดระยะเวลาออกไปถึงวันที่ 11 ตุลาคม พร้อมส่งตัวแทนบีอีซี-มัลติมีเดีย ส่งหนังสือสอบถามไปยัง กสท.เรื่องการออกคู่ขนาน ส่วนผู้จัดละครตบเท้ายื่นหนังสือ สคบ.-นายกฯ
วานนี้ (26 ก.ย.) เมื่อเวลา 08.45 น. นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธ์ รองกรรมการบริหารสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 พร้อมทีมกฎหมาย นำโดย นายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ ที่ปรึกษากฎหมายช่อง 3 พร้อมด้วย นายวีระยุทธ สัจพันโรจน์ ทนายความพร้อมคณะ เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อศาลปกครองเพื่อขอให้มีคำสั่งไต่สวนฉุกเฉินและคุ้มครองชั่วคราว ให้ช่อง 3 แอนะล็อก สามารถแพร่ภาพผ่านระบบเคเบิลทีวี และจานดาวเทียมได้ หลัง กสท.มีมติสั่งห้ามแพร่ภาพภายใน 15 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 30 ก.ย.นี้แล้ว โดยขออำนาจศาลคุ้มครองจนกว่าจะมีคำพิพากษาเป็นที่สิ้นสุด
โดยการยื่นเอกสารได้ฟ้องจำเลยที่ 1 คือ สำนักงาน กสทช. / จำเลยที่ 2 คณะกรรมการ กสทช. / จำเลยที่ 3 คณะกรรมการ กสท. โดยคาดหวังว่าศาลจะเรียกไต่สวนภายในวันนี้ เพราะตามหลักการสามารถไต่สวนโจทก์ฝ่ายเดียวได้ และอาจมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราววันนี้ทันที หรืออย่างช้าคือ วันจันทร์ที่ 29 ก.ย.นี้
นอกจากนี้ คณะจากสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย นำโดย นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมฯ พร้อมด้วย นายธัญญา โพธิ์วิจิตร หรือเป็ด เชิญยิ้ม ได้มายื่นฟ้องต่อศาลปกครองในกรณีเดียวกันแต่เป็นในนามภาคประชาชน และผู้ประกอบการที่ทำรายการออกอากาศทางช่อง 3 แอนะล็อก ซึ่งได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า ได้รับความเดือดร้อน ถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพในการได้รับชมข่าวสาร และความบันเทิงต่างๆ โดยจำเลยที่ 1 คือ กสทช. จำเลยที่ 2 คือ กสท. ฝ่ายโจทก์คือ ประชาชนที่ชมช่อง 3 ผ่านเคเบิล และจานดาวเทียม รวมทั้งผู้ประกอบการที่เสี่ยงจะสูญเสียรายได้ และขาดทุน หลังจากนี้ ตัวแทนสมาคมทนายความแห่งประเทศไทยทั่วประเทศจะทยอยยื่นหนังสือต่อศาลจนครบศาลทั่วประเทศทั้ง 9 ภาค
ขณะที่ในเวลา 11.00 น. ตัวแทนช่อง 3 ได้เดินทางมายื่นหนังสือในนามบริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด ตามคำสั่งของ กสท.หลังจากที่เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ผู้บริหารช่อง 3 ได้ยื่นหนังสือสอบถามมาแล้วครั้งหนึ่งในนามบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด แต่บอร์ด กสท.แนะนำให้ทำหนังสือมาใหม่ในนาม บริษัท บีอีซี- มัลติมีเดีย จำกัด และจะมีการพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง โดยการยื่นจดหมายครั้งที่ 2 นี้ มีนายสมบัติ ลีลาพตะ รักษาการรองเลขาธิการ กสทช.เป็นผู้รับหนังสือแทนประธาน กสท.
ส่วนทางสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย ก็ได้ยื่นหนังสือต่อกรรมการ กสท.เพื่อขอให้ยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาต 2% และเงินนำส่งเข้ากองทุน 2% เนื่องจากผู้ประกอบการเคเบิลทีวีมีต้นทุนสูงในช่วงการเปลี่ยนผ่านทีวีดิจิตอล
นายณัฎฐชัย อักษรดิษฐ นายกสมาคมฯ กล่าวว่า พฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะกลุ่มที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี นิยมดูทีวีผ่านอินเทอร์เน็ต และหากช่อง 3 จอดับจริง เชื่อว่าเคเบิลทีวีที่มีสัดส่วนผู้ชม 70% ต้องลดลงไป เนื่องจากจะเสียส่วนแบ่งการตลาดให้แก่ทีวีที่ใช้เสาหนวดกุ้ง ก้างปลา และอีกส่วนหนึ่งจะหันไปดูทีวีออนไลน์ เพราะต้องการดูช่อง 3
***ผู้จัดเดินสายพบ สคบ.-นายกฯ
ขณะที่ในช่วงบ่าย กลุ่มตัวแทนผู้จัดละคร และผู้ผลิตรายการของสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เช่น นายวิทวัส สุนทรวิเนตร์ เจ้าของรายการ “ตีสิบ” นางมยุรฉัตร เหมือนประสิทธฺเวช น.ส.อรุโณชา ภาณุพันธุ์ นางกอบสุข จารุจินดา ผู้จัดละครทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เข้ายื่นหนังสือ พร้อมด้วยรายชื่อผู้จัดละคร ผู้ผลิตรายการ และดาราช่อง 3 กว่า 200 รายชื่อ ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เพื่อขอความเป็นธรรมการงดออกอากาศสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ผ่านระบบเคเบิล และดาวเทียม
โดยขอร้องเรียนว่า การระงับการออกอากาศช่อง 3 ทางระบบดาวเทียม และเคเบิล ส่งผลกระทบต่อองค์กร และบุคลคลหลายฝ่าย เช่น ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ ผู้จัดรายการโทรทัศน์ ศิลปินดารา เอเยนซีโฆษณา เจ้าของสินค้า หรือบริการต่างๆ ที่ลงโฆษณาทางช่อง 3 รวมถึงประชาชนผู้รับชมรายการโทรทัศน์ โดยก่อนหน้าที่จะมายื่นที่ทำเนียบรัฐบาล ทางทีมผู้จัดได้เดินทางไปยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) มาแล้วในช่วงเช้า ซึ่งได้รับเรื่องไว้พิจารณาแล้วเช่นกัน
***ศาลรับไต่สวนฉุกเฉิน
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ช่อง 3 ได้ยื่นหนังสือถึงศาลปกครองดังกล่าวไปเมื่อเวลา 08.45 น. ปรากฏว่า ศาลยอมรับช่อง 3 เป็นคดีดำหมายเลขที่ 1561/2557 และได้ไต่สวนเวลา 14.00 น.โดยมี นายดนัย ศรีโมรา ตุลาการผู้พิจารณาคดี เป็นผู้พิจารณา โดยฝ่ายช่อง 3 ประกอบด้วย นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธ์ รองกรรมการผู้จัดการ ช่อง 3 นายไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายพร้อมทีมทนาย นอกจากนี้ ยังมีตัวแทนฝ่ายกฎหมายของ บริษัท ซีทีเอช และทรู วิชั่นส์ ผู้ให้บริการโครงข่ายเคเบิลเข้าร่วมด้วย ขณะที่กรรมการ กสท. ทั้ง 3 คน ประกอบด้วย พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ ก็ถูกเชิญมาไต่สวนด้วย
***ขยายเวลาช่อง 3 จอดำ 11 ต.ค.
ทั้งนี้ ในเวลา 16.47 น. ศาลดำเนินการไต่สวนเสร็จ จากนั้นจึงใช้เวลาพูดคุยกันต่อ ขณะที่เวลา 17.54 น.ไฟดับบริเวณหน้าห้องพิจารณาที่ไต่สวน เป็นเวลากว่า 10 นาที แต่ในห้องไต่สวนกลับไม่ดับ จากนั้นเวลา 19.10 น. กรรมการ กสท. ออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
พล.ท.พีระพงษ์ กล่าวว่า ศาลปกครองพิจารณาให้ทุเลาคำสั่งมติเมื่อวันที่ 8 ก.ย. ที่สั่งให้ดาวเทียม และเคเบิลนำช่อง 3 แอนะล็อกออกจากระบบ ภายในวันที่ 30 ก.ย. ออกไปจนถึงวันที่ 11 ต.ค. เวลา 16.30 น. เพราะทางช่อง 3 ยินดีออกคู่ขนานแต่ต้องใช้เวลา ศาลจึงขยายเวลาให้ หากถามเรื่องการเยียวยาเราให้ไปก่อนแล้วนั่นคือ การลดค่าธรรมเนียม ดังนั้น ตอนนี้คิดว่าช่อง 3 คงไม่คิดถึงเรื่องทางเศรษฐศาสตร์แล้ว
ส่วน น.ส.สุภิญญา กล่าวว่า เพื่อให้เวลาช่อง 3 ออกคู่ขนานได้ทัน ระหว่างนี้เป็นเรื่องของ 2 ฝ่ายในการดำเนินการเจรจากันเพื่อให้เรื่องนี้ยุติ และต้องแจ้งให้ศาลทราบด้วย
“จริงๆ อยากให้ทุกอย่างจบก่อนวันที่ 10 ต.ค. เพราะเป็นวันที่ทางสำนักงาน กสทช.จะแจกคูปองดิจิตอล” นายธวัชชัย กล่าว
อย่างไรก็ตาม การรับไต่สวนพิเศษของศาลปกครองในครั้งนี้ทำให้จากเดิมที่กรรมการ กสท.กำหนดให้มีการประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องช่อง 3 ต้องถูกยกเลิกไป
Company Relate Link :
กสทช.
