ไทยคมขยายบริการบรอดแบนด์ไวไฟรุ่นใหม่ เพื่อให้บริการบนสายการบินนกแอร์ เผยมีความเร็วเท่า 3G บนภาคพื้นดิน พร้อมรองรับการใช้งานเว็บและโซเชียลมีเดีย แต่ยังจำกัดพวกวิดีโอสตรีมมิงและอัปเดตระบบปฏิบัติการ ชี้เป็นสายการบินแรกในเอเชียที่ได้ใช้ Next Generation Broadband บน KU Band จากปัจจุบันมีการให้บริการไวไฟบนเครื่องบินในภูมิภาคนี้ 80 ลำ ด้านนกแอร์เผยจะติดเพิ่มอีก 6-7 ลำในอีก 1 ปีข้างหน้า หวังคนใช้งานครั้งนี้ 70-80% จากผู้โดยสารบนเครื่อง
นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ไทยคมร่วมกับสายการบินนกแอร์ในการให้บริการไวไฟบนเครื่องบิน ซึ่งมีความเร็วเทียบเท่ากับ 3G บนภาคพื้นดิน มีความเร็วในการดาวน์โหลด 8 เมกะบิต และอัปโหลด 2 เมกะบิต จึงมั่นใจว่า จะสามารถรองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตของผู้โดยสารได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ทวิตเตอร์ และเว็บเบราว์เซอร์ต่างๆ ซึ่งนกแอร์ถือเป็นสายการบินแรกในเอเชียที่ได้ใช้ Next Generation Broadband บน KU Band
โดยการให้บริการไวไฟในครั้งนี้เป็นการเชื่อมต่อการสื่อสารผ่านดาวเทียมบนเครื่องบิน โดยมี บริษัท โกลบอล อีเกิ้ล เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ เป็นพันธมิตรในการร่วมพัฒนาอุปกรณ์และระบบการสื่อสาร ซึ่งปัจจุบันทั่วโลกมีสายการบินที่สามารถติดตั้งอุปกรณ์ให้บริการไว-ไฟได้ราว 3,000 ลำ มี 80 ลำ ที่อยู่ในเอเชียซึ่งหลังจากที่นกแอร์ให้บริการในแบบไวไฟเน็กซ์เจนแล้ว ก็มีอีกหลายสายการบินติดต่อเข้ามา
ทั้งนี้ การใช้งานนี้ยังคงมีข้อจำกัดอย่างเช่น การสตรีมมิ่ง ยูทูบ และการอัพเดตเวอร์ชันของระบบปฎิบัติการโทรศัพท์มือถือไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งในส่วนนี้สายการบินนกแอร์จะเป็นผู้ออกกฎการอนุญาตว่าสามารถใช้งานแอปพลิเคชันใดได้บ้าง ส่วนรายได้ในส่วนนี้ของไทยคมยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ก็ไม่ได้สูงมากนักซึ่งเบื้องต้นจะมีรายได้ 2 ทาง คือ รายได้จากการติดตั้งอุปกรณ์ไวไฟ และค่าเช่าใช้อุปกรณ์ โดยรายได้แม้ไม่ได้มากแต่เป็นเทรนด์ในอนาคตที่ทำร่วมกับคู่ค้าส่วนของนกแอร์นี้มีสัญญาร่วมกับไทยคม 5 ปี
ด้านนายเอกชัย ภัคดุรงค์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ไทยคม กล่าวว่า การให้บริการ ไวไฟ บนสายการบินนกแอร์ครั้งนี้ใช้คลื่นความถี่ย่าน 2.4 GHz ส่วนการให้บริการผ่านดาวเทียมจะเป็นการให้สัญญาณความถี่ KU Band โดยสายการบินนกแอร์จะให้บริการเป็นรายแรก ซึ่งการให้บริการนี้เป็นการให้บริการแบบอินเตอร์เนชันแนลเซอร์วิส ต้นทุนของสายการบินที่ใช้จะอยู่ในราวๆ ในหลักล้านบาท สำหรับการติดตั้งต่อ 1 ลำ
ด้านนายพาที สารสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริการไวไฟบนเครื่องบินนี้ ผู้โดยสารจะไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยจะเริ่มให้บริการตั้งแต่เดือน ต.ค.เป็นต้นไป ซึ่งในการเริ่มต้นนี้จะใช้บนเครื่องบิน “นกบุษราคัม” ซึ่งเป็นเครื่องบินแบบโบอิ้ง 737-800 ที่สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 189 ที่นั่ง และในระยะเวลา 1 ปีถึง 1 ปีครึ่งจะติดตั้งไวไฟบนเครื่องบนอีกอย่างน้อย 6-7 ลำ โดยการให้บริการไวไฟนั้นเชื่อว่าจะมีผู้โดยสาร 70-80% เข้ามาใช้บริการจากจำนวนผู้โดยสารทั้งหมด
ปัจจุบัน สายการบินนกแอร์มีเครื่องบินที่ใช้ ประกอบไปด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 จำนวน 16 ลำ และเครื่องบินเอทีอาร์ 72-500 จำนวน 2 ลำ และ คิว 400 เน็กซ์เจน จำนวน 1 ลำ มีเส้นทางบินภายในประเทศทั้งหมดครอบคลุม 24 จังหวัด และเส้นทางบินต่างประเทศ 1 เส้นทาง นอกจากนี้ นกแอร์ยังขยายฝูงบินเพิ่มโดยสั่งเครื่องบินบอมบาร์ดิเอร์ คิว 400 เน็กซ์เจน จำนวน 6 ลำ พร้อมด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 เน็กซ์-เจเนอเรชัน จำนวน 7 ลำ และเครื่องบินโบอิ้ง 737 แม็กซ์ จำนวน 8 ลำ
Company Relate Link :
Thaicom
Nokair