“เพย์ โซลูชั่น”’ ผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซและโซลูชันเพย์เมนต์ เผยแผนพัฒนาระบบแบบครบวงจร อุบเปิดบริการใหม่ในอีก 2 เดือนข้างหน้า หวังโกยฐานลูกค้าในประเทศมูลค่ารวมกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท ลั่นต้นปีหน้าขอเติบโตแบบก้าวกระโดดกว่า 400% ก่อนบุกตลาด AEC ในอีก 2 ปีข้างหน้า หลังเปลี่ยนชื่อจาก‘ไทยอีเพย์’ (ThaiePay) จากการเข้าซื้อกิจการเมื่อหลายเดือนก่อน
นายศุภชัย กาญจนศักดิ์ชัย กรรมการผู้จัดการบริษัท เพย์ โซลูชั่น จำกัด กล่าวว่า “ไทยอีเพย์ (ThaiePay) เป็นอีคอมเมิร์ซรายแรกของประเทศไทย และมีประสบการณ์ในการให้บริการมานานกว่า 10 ปี อีกทั้ง ยังเป็นผู้บุกเบิกระบบชำระเงินผ่านบัตรเครดิตออนไลน์แบบพร้อมใช้งาน (Payment Gateway) โดยการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ได้เล็งเห็นศักยภาพและความพร้อมที่จะสามารถพัฒนาและต่อยอดธุรกิจขึ้นไปให้รองรับความต้องการและเทคโนโลยีในอนาคตได้ จึงเข้าซื้อธุรกิจและเปลี่ยนชื่อเป็น เพย์ โซลูชั่น เพื่อก้าวเป็นผู้นำในกลุ่มผู้ให้บริการระบบอีคอมเมิร์ซ ที่มีบริการครอบคลุมทุกความต้องการ”
ศุภชัย กล่าวว่า ปัจจุบันมียอดค่าใช้จ่ายผ่านระบบอยู่ที่ประมาณ 30 - 40 ล้านบาทต่อเดือน หรือประมาณ 400 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจากแผนงานที่เตรียมไว้ ภายในต้นปีหน้าคาดว่า จะมียอดผู้เข้าใช้บริการอย่างน้อย 1,200 ร้านค้า ที่เข้ามาเป็นสมาชิก ถือเป็นตัวเลขการเติบโตกว่า 400% และมั่นใจว่าปลายปีไปจะมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นเนื่องจากตลาดการค้าออนไลน์จะเป็นที่นิยมและเปิดกว้างมากขึ้น และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพย์ โซลูชั่นเตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะออกมาให้บริการแบบครบวงจรภายใน 2 เดือนข้างหน้า ให้ผู้ค้าทุกกลุ่มบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก ซึ่งก็จะถือเป็นหนึ่งในแผนพัฒนาระบบและบริการอย่างครอบคลุมเพื่อสร้างแข็งแกร่งให้ตลาดในประเทศ
ขณะที่แผนการรุกตลาด AEC ของเพย์ โซลูชั่น หลังจากเตรียมงานและศึกษาผู้เล่นในตลาดมาระยะหนึ่ง พบว่ามีโอกาสและความเป็นไปได้สูงที่จะสามารถเจาะตลาดได้ เนื่องจากการทำงานของระบบชำระเงินแต่ละประเทศไม่ได้ต่างกันมาก อยู่ที่การนำเสนอและปรับใช้ให้เหมาะกับประเทศนั้นๆ มากกว่า ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของเพย์ โซลูชั่น ที่มีความใกล้ชิดกันทางวัฒนธรรมอยู่แล้วในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน จึงสามารถเจาะพฤติกรรมการใช้จ่าย การใช้ชีวิตของกลุ่มลูกค้า และจึงค่อยนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับลูกค้า โดยขณะนี้ก็ได้จัดทีมเพื่อเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ อาทิ ความพร้อมของระบบที่จะต้องรองรับการทำงานที่มากขึ้น การรักษาความปลอดภัยที่ดีขึ้น บุคลากรที่มีความสามารถทั้งทักษะและภาษา รวมถึงช่องทางในการติดต่อประสานงานในประเทศต่างๆ เพื่อให้ในอนาคตอันใกล้ เพย์ โซลูชั่นจะสามารถเติบโตไปยังต่างแดนและแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดอาเซียนได้ไม่เป็นรองใคร
ด้านนายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ผู้ก่อตั้งตลาดด็อทคอม ในฐานะที่ปรึกษาเพย์ โซลูชั่น กล่าวว่า ตลาดเพย์เมนต์ของไทยยังสามารถเติบโตได้อีกมาก โดยมูลค่าของตลาดอีคอมเมิร์ซที่ไม่นับรวมการโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์คาดการณ์ว่าในปี 2014 จะอยู่ที่ประมาณ 17,548 ล้านบาท และมีแนวโน้มในการเติบโตขึ้นทุกปี โดยภาวะการแข่งขันในตลาดนั้นยังถือว่ามีผู้เล่นน้อยราย การสร้างฐานลูกค้าในประเทศและโอกาสในการขยายฐานการบริการออกสู่ AEC นั้นก็ถือว่ามีโอกาสสูง เนื่องจากในบางประเทศยังไม่มีกฎระเบียบเคร่งครัดในการให้บริการ จึงถือเป็นโอกาสในการสร้างฐานลูกค้าในต่างประเทศได้โดยง่าย
“การสร้างตลาดอีคอมเมิร์ซให้เติบโตนั้น จำเป็นจะต้องมีบริการอย่างที่ เพย์ โซลูชั่นนำเสนออยู่นี้เกิดขึ้นมาอีกหลายๆ ราย เพื่อช่วยกันพัฒนาตลาดให้เติบโต โดยเมื่อมีหลายรายเกิดขึ้นมาในตลาดย่อมเกิดการแข่งขัน และผู้ซื้อก็จะได้รับความสะดวกในการซื้อสินค้ามากขึ้น ตลาดอีคอมเมิร์ซก็จะเติบโตขึ้น โดยปัจจุบันกลุ่มผู้ให้บริการเพย์เมนต์นั้นแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มได้แก่ 1. กลุ่มธนาคารที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตแบงค์กิง 2. กลุ่มผู้ให้บริการมือถือที่เริ่มเข้ามาเปิดบริการเพย์เมนต์บนสมาร์ทโฟนด้วย และสุดท้ายเป็นกลุ่มที่ไม่ใช่ผู้ให้บริการ ซึ่งมีเพียงรายใหญ่ 2 รายในประเทศไทยเท่านั้น ซึ่งนับว่ามีน้อยมากสำหรับการผลักดันให้ตลาดอีคอมเมิร์ซเติบโต” นายภาวุธ กล่าวเสริม
เพย์ โซลูชั่น ได้รับการพัฒนาระบบแบบครบวงจร เพื่อตอบสนองทุกกลุ่มผู้ซื้อและผู้ขาย ตั้งแต่ระบบชำระเงินออนไลน์ผ่านบัตรเครดิต ระบบร้านค้าออนไลน์สำเร็จรูป ระบบชอปปิงมอลล์ รวมไปถึงระบบการจองห้องพักออนไลน์ จองสนามกอล์ฟล่วงหน้า หรือแม้แต่ทำการกุศลออนไลน์ ให้สามารถใช้งานง่าย ไม่มีความซับซ้อน สามารถปรับแต่งรูปแบบได้อย่างอิสระ และมีความปลอดภัยสูง โดยวิธีการสมัครเป็นผู้ค้าเพียงแค่กรอกรายละเอียดภายในเว็บไซต์ โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาในทุกขั้นตอนรวมถึงวิธีการใช้งาน
Company Related Link :
Pay Solutions
CyberBiz Social