ไมโครซอฟท์ออกโรงเตือนผู้ใช้เอ็กซ์พีในประเทศไทยกว่า 2.5 ล้านเครื่องให้อัปเกรดระบบ ไม่งั้นจะได้รับความเสี่ยงจากภัยคุกคามที่เกิดขึ้น แต่เชื่อว่าผู้ใช้ส่วนใหญ่ใช้งานพีซีที่รองรับวินโดวส์ 7 หรือ 8.1 แต่ดาวน์เกรดลงมาใช้เอ็กซ์พีแทน
นายรชฏ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้จัดการกลุ่มธุรกิจและการตลาดวินโดวส์และเซอร์เฟซ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวย้อนไปถึงแนวโน้มภัยคุกคามในสมัยที่ไมโครซอฟท์กำลังพัฒนาระบบปฏิบัติการวินโดวส์ เอ็กซ์พี (Windows XP) ว่า ในช่วงปี 2001-2004 ภัยคุกคามส่วนใหญ่มาจากไวรัสเป็นหลัก
ส่งผลให้ระบบปฏิบัติการที่วางจำหน่ายในช่วงนั้นให้ความสำคัญต่อการป้องกันไวรัสเป็นหลัก แต่ในช่วงปี 2009 รูปแบบการโจมตีเริ่มเปลี่ยนแปลงไป ด้วยการนำมัลแวร์มาดักข้อมูลเพื่อนำไปใช้งานแทน ไม่ใช่การโจมตีตัวเครื่องแต่เพียงอย่างเดียว
“ระบบปฏิบัติการเก่าที่ออกแบบมาเมื่อ 12 ปีที่แล้วจะไม่สามารถดูแล และคุ้มครองลูกค้าได้ต่อไป จึงได้ทยอยประกาศให้ผู้บริโภครับรู้ว่ากำลังจะสิ้นสุดการอัปเดตในวันที่ 8 เมษายน 2014”
สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังวันที่ 8 คือ ผู้ใช้งานวินโดวส์ เอ็กซ์พียังสามารถใช้งานต่อไปได้ เพียงแต่จะไม่ได้รับการอัปเดตจากทางไมโครซอฟท์ ทั้งการป้องกันภัยคุกคาม หรือการแก้ไขปัญหาใดๆ ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งผู้ใช้ต้องรับความเสี่ยงส่วนนี้ด้วยตนเอง
“ในประเทศไทยตอนนี้มีปริมาณผู้ใช้งานวินโดวส์ เอ็กซ์พี ที่มีการอัปเดตอยู่ในช่วงที่ผ่านมาราว 2.5 ล้านเครื่อง โดยจะอยู่ในองค์กรขนาดกลางและใหญ่ราว 5-6 หมื่นเครื่อง และราว 5 แสนเครื่องอยู่ในกลุ่มองค์กรธุรกิจขนาดเล็ก ที่เหลือจะอยู่ในกลุ่มคอนซูเมอร์"
โดยในส่วนของผู้บริโภค สามารถเข้าไปที่เว็บไซต์ www.amirunningxp.com เพื่อตรวจสอบระบบปฏิบัติการที่ใช้อยู่ ถ้ายังเป็นเอ็กซ์พี และต้องการความปลอดภัยก็สามารถหันไปเลือกซื้อระบบปฏิบัติการอย่างวินโดวส์ 7 หรือ 8.1 มาติดตั้งใช้งานแทน แต่ทั้งนี้ถ้าเป็นคอมพิวเตอร์ยุคเก่าอาจจะไม่สามารถใช้งานได้ ก็อาจจะต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่แทน
ส่วนในกลุ่มลูกค้าองค์กร ก็สามารถติดต่อตัวแทนของทางไมโครซอฟท์ เพื่อหาโซลูชันในการอัปเดต เพราะเชื่อว่าคอมพิวเตอร์ในองค์กรส่วนใหญ่รองรับการใช้งานวินโดวส์ 7 หรือ วินโดวส์ 8 อยู่แล้ว เพียงแต่ดาวน์เกรดลงมาใช้วินโดวส์ เอ็กซ์พี ซึ่งถ้าต้องการโอนย้ายข้อมูล ทางไมโครซอฟท์ก็มีเครื่องมือสำหรับอำนวยความสะดวกให้
“ผู้ที่ซื้อพีซีในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เชื่อว่าจะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่อยู่แล้ว ดังนั้นก็แค่หาวินโดวส์เวอร์ชันที่ตรงกับที่ซื้อมาใช้งาน แต่ทั้งนี้ก็อาจจะมีผู้บริโภคหลายรายที่อาจจะรอดู ว่าหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร เพราะปัจจัยทางเศรษฐกิจตอนนี้ก็ไม่ค่อยอำนวยในการซื้อเครื่องใหม่"
Company Relate Link :
Microsoft