ใครที่ยังสงสัยว่า บริการซอฟต์แวร์สร้างเอกสารไมโครซอฟท์ออฟฟิศเวอร์ชันออนไลน์ราคาประหยัดที่ไมโครซอฟท์ (Microsoft) เพิ่งเปิดตัวล่าสุดในชื่อ Office 365 Personal นั้นน่าสนใจและเหมาะสมพอที่จะเสียเงินซื้อบริการหรือไม่ ต่อไปนี้คือ 5 ข้อมูลที่ผู้ใช้ทุกคนควรทราบก่อนตัดสินใจ
สำหรับ Office 365 Personal นั้นเป็นบริการซอฟต์แวร์ออนไลน์ตระกูล Office 365 ที่เปิดให้บุคคลทั่วไปสามารถ"เช่าใช้"โดยเสียค่าบริการเป็นรายเดือน ผู้ใช้จะสามารถเปิดโปรแกรม Microsoft Office ทั้ง Excel, PowerPoint และ Word ได้ผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องสิ้นเปลืองเนื้อที่ติดตั้งโปรแกรมในเครื่องของตัวเอง และไม่ต้องทนใช้งานโปรแกรมเวอร์ชันเก่าที่ซื้อมาตลอดไปแบบที่เคยเป็น โดยครั้งนี้ไมโครซอฟท์หั่นราคาลงเหลือ 6.99 เหรียญสหรัฐต่อเดือน (ราว 230 บาท) จากก่อนหน้านี้ที่ไมโครซอฟท์ให้บริการ Office 365 ที่ราคาเริ่มต้น 9.99 เหรียญสหรัฐต่อเดือน (Office 365 Home Premium)
ข้อมูลระบุว่า Office 365 Personal จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในช่วงกลางปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ Office 365 เริ่มให้บริการจริงจังในเดือนกรกฎาคม 2013 โดยนับแต่นั้นมา Office 365 มีผู้ใช้บริการมากกว่า 3.5 ล้านคนทั่วโลก
1. Office 365 Personal มีค่าใช้จ่าย 2,300 บาทต่อปี
แม้ไมโครซอฟท์จะกำหนดราคา Office 365 Personal ไว้ที่ 6.99 เหรียญสหรัฐต่อเดือน แต่ก็เปิดโอกาสให้ผู้ใช้เหมาจ่ายได้ในราคา 69.99 เหรียญต่อปี (ราว 2,300 บาท) เรียกว่าได้กำไรใช้ฟรี 2 เดือน
ผู้ใช้จะสามารถติดตั้งบนคอมพิวเตอร์พีซีหรือแมคอินทอชได้ 1 เครื่อง และในแท็บเล็ตอีก 1 เครื่องเท่านั้น โดยไมโครซอฟท์ยืนยันว่า Office 365 Personal จะสามารถเรียกดูบนสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการอื่นที่ไม่ใช่วินโดวส์โฟน (WindowsPhone) หลายรุ่นผ่านบริการ Office Mobile ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับปรุงบริการให้เฉพาะทางยิ่งขึ้นในอนาคต
เช่นเดียวกับผู้ใช้บริการ Office 365 เวอร์ชันอื่น ผู้ใช้ Office 365 Personal จะได้รับแถมพื้นที่เก็บข้อมูลบริการ OneDrive ฟรี 20GB และสามารถใช้บริการโทรผ่านบริการ Skype ได้ 60 นาทีต่อเดือน โดยทุกคนจะได้สิทธิ์การเข้าถึงโปรแกรม Office ที่ถูกอัปเดททันสมัยที่สุดอย่างเท่าเทียม
2. 365 Personal ใช้ได้บนแท็บเล็ต 1 เครื่อง? ต้องเป็นแท็บเล็ต Windows หรือไม่?
น่าเสียดายที่ Office 365 ยังจำกัดให้สามารถทำงานได้เฉพาะบนแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการวินโดวส์ของไมโครซอฟท์ ดังนั้นสาวกไอแพด (iPad) และแอนดรอยด์ (Android) จึงอาจสะดุดใจเมื่อได้อ่านมาพบข้อจำกัดนี้
แม้จะยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าในอนาคต Office 365 Personal และ 365 Home Premium จะสามารถทำงานได้บนแท็บเล็ตแอนดรอยด์และไอแพด รวมถึงแพลตฟอร์มอื่นหรือไม่ แต่อย่างน้อยข่าวลือมากมายในนาทีนี้ล้วนชี้ไปในทิศทางเดียวกัน ว่าไมโครซอฟท์อาจเปิดตัวชุดโปรแกรม Office สำหรับแท็บเล็ตแอนดรอยด์และไอแพดในช่วงกลางปีนี้ ซึ่งคาดว่าอาจเป็นการทำตลาดควบคู่กับ Office 365 Personal
3. ก่อนหน้านี้ไมโครซอฟท์มีโปรแกรมออนไลน์จำหน่ายไหม?
ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ให้บริการ Office 365 Home Premium ด้วยราคา 9.99 เหรียญสหรัฐต่อเดือน หรือเหมาจ่าย 99.99 เหรียญต่อปี (ราคาในประเทศไทย 249.99 ต่อเดือน และ 2499.99 ต่อปี) โดยบริการนี้เป็นบริการระดับเริ่มต้นที่ไมโครซอฟท์วางเป้าหมายที่กลุ่มผู้บริโภคบุคคลทั่วไป ผู้สมัครจะได้สิทธิ์ใช้งานบนคอมพิวเตอร์พีซีหรือแมคอินทอชจำนวน 5 เครื่อง และบนอุปกรณ์พกพา 5 ชิ้น ซึ่งหลังจาก Office 365 Personal เปิดตัวโดยลดราคาและจำนวนเครื่องลงเหลืออย่างละเครื่องเดียว บริการ Office 365 Home Premium จะถูกรีแบรนด์หรือเปลี่ยนชื่อบริการเป็น Office 365 Home
นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังทำตลาด Office Home and Student ซึ่งเป็นบริการจำหน่ายไลเซนส์โปรแกรมแบบสแตนอโลนในราคา 139.99 เหรียญ ซึ่งผู้ซื้อจะได้รับสิทธิ์ใช้งานแอปพลิเคชัน Office Online ที่เรียกดูได้ผ่านเบราวเซอร์ได้ฟรี จุดนี้เชื่อว่า บริการ Office 365 Personal จะเป็นบริการที่ไมโครซอฟท์ส่งมาเติมเต็มช่องว่างที่เหลืออยู่ระหว่าง Office Online และ Office 365 Home
4. จ่ายเพิ่มเพื่อเวอร์ชัน Home คุ้มไหม?
หากคุณไม่ได้มีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พกพาหรือตั้งโต๊ะหลากหลายเครื่องในบ้าน การจ่ายเงินเพิ่มเพื่อซื้อบริการ Office 365 Home อาจจะเกินจำเป็นไป อย่างไรก็ตาม การที่ราคา Office 365 Personal นั้นหนีจาก Office 365 Home เพียง 30 เหรียญต่อปี ไมโครซอฟท์จึงถูกวิจารณ์หนาหูว่าอาจไม่ได้รับเสียงตอบรับจากตลาดดีเท่าที่ควร เนื่องจากวันนี้ผู้บริโภคหันไปใช้งานโปรแกรมออฟฟิศออนไลน์คู่แข่งอย่าง iWork, Google Docs และอีกหลายตัวเลือกที่ให้บริการฟรีกันมากขึ้น ซึ่งคำวิจารณ์นี้จะเป็นจริงหรือไม่ เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์
5. บริการนี้ทำให้อะไรเปลี่ยนแปลงอีกบ้าง?
แน่นอนว่าในมุมไมโครซอฟท์ Office 365 จะสร้างโอกาสเติบโตให้ธุรกิจขายไลเซนส์ของไมโครซอฟท์อย่างไม่ต้องสงสัย รายได้ต่อปีเหล่านี้จะทำให้ไมโครซอฟท์ไม่ต้องรับเงินครั้งเดียวจากการขายไลเซนส์โปรแกรมเวอร์ชันเดียวอีกต่อไป แถมยังเป็นโอกาสให้ไมโครซอฟท์ได้นำส่งเทคโนโลยีใหม่แก่ผู้ใช้ในวงกว้างขึ้น
นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ได้ผูกรวมเครื่องมือและคุณสมบัติอื่นเพื่อการทำงานร่วมกันจากระยะไกลเข้าไปในบริการ Office 365 ฐานลูกค้าที่ไมโครซอฟท์หาได้จาก Office 365 ย่อมสะท้อนโอกาสต่อยอดที่มากขึ้นบนธุรกิจโปรแกรมออนไลน์ของบริษัทในอนาคต
ในมุมของผู้ใช้ Office 365 จะทำให้ระดับความอุ่นใจในการใช้งานเพิ่มขึ้น ความกังวลว่าเอกสารจะสูญหายเมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ถูกขโมยจะหายไปเพราะผู้ใช้สามารถจัดเก็บเอกสารไว้บนโลกออนไลน์ ซึ่งจะสามารถเรียกดูเพื่อแก้ไขหรือส่งต่อได้ตลอดเวลา ขณะเดียวกัน ปัญหาการใช้โปรแกรมที่ไม่ได้อัปเดทให้ทันสมัย จนอาจทำให้เกิดภัยไวรัสคอมพิวเตอร์ก็จะถูกสะสางไปด้วย เพราะไมโครซอฟท์สามารถอัปเดทหรือแก้ไขปัญหาในโปรแกรมออนไลน์ให้ทุกคนได้ใช้อย่างทันใจและเท่าเทียม
สำหรับ Office 365 Personal นั้นเป็นบริการซอฟต์แวร์ออนไลน์ตระกูล Office 365 ที่เปิดให้บุคคลทั่วไปสามารถ"เช่าใช้"โดยเสียค่าบริการเป็นรายเดือน ผู้ใช้จะสามารถเปิดโปรแกรม Microsoft Office ทั้ง Excel, PowerPoint และ Word ได้ผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องสิ้นเปลืองเนื้อที่ติดตั้งโปรแกรมในเครื่องของตัวเอง และไม่ต้องทนใช้งานโปรแกรมเวอร์ชันเก่าที่ซื้อมาตลอดไปแบบที่เคยเป็น โดยครั้งนี้ไมโครซอฟท์หั่นราคาลงเหลือ 6.99 เหรียญสหรัฐต่อเดือน (ราว 230 บาท) จากก่อนหน้านี้ที่ไมโครซอฟท์ให้บริการ Office 365 ที่ราคาเริ่มต้น 9.99 เหรียญสหรัฐต่อเดือน (Office 365 Home Premium)
ข้อมูลระบุว่า Office 365 Personal จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในช่วงกลางปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่ Office 365 เริ่มให้บริการจริงจังในเดือนกรกฎาคม 2013 โดยนับแต่นั้นมา Office 365 มีผู้ใช้บริการมากกว่า 3.5 ล้านคนทั่วโลก
1. Office 365 Personal มีค่าใช้จ่าย 2,300 บาทต่อปี
แม้ไมโครซอฟท์จะกำหนดราคา Office 365 Personal ไว้ที่ 6.99 เหรียญสหรัฐต่อเดือน แต่ก็เปิดโอกาสให้ผู้ใช้เหมาจ่ายได้ในราคา 69.99 เหรียญต่อปี (ราว 2,300 บาท) เรียกว่าได้กำไรใช้ฟรี 2 เดือน
ผู้ใช้จะสามารถติดตั้งบนคอมพิวเตอร์พีซีหรือแมคอินทอชได้ 1 เครื่อง และในแท็บเล็ตอีก 1 เครื่องเท่านั้น โดยไมโครซอฟท์ยืนยันว่า Office 365 Personal จะสามารถเรียกดูบนสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการอื่นที่ไม่ใช่วินโดวส์โฟน (WindowsPhone) หลายรุ่นผ่านบริการ Office Mobile ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับปรุงบริการให้เฉพาะทางยิ่งขึ้นในอนาคต
เช่นเดียวกับผู้ใช้บริการ Office 365 เวอร์ชันอื่น ผู้ใช้ Office 365 Personal จะได้รับแถมพื้นที่เก็บข้อมูลบริการ OneDrive ฟรี 20GB และสามารถใช้บริการโทรผ่านบริการ Skype ได้ 60 นาทีต่อเดือน โดยทุกคนจะได้สิทธิ์การเข้าถึงโปรแกรม Office ที่ถูกอัปเดททันสมัยที่สุดอย่างเท่าเทียม
2. 365 Personal ใช้ได้บนแท็บเล็ต 1 เครื่อง? ต้องเป็นแท็บเล็ต Windows หรือไม่?
น่าเสียดายที่ Office 365 ยังจำกัดให้สามารถทำงานได้เฉพาะบนแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการวินโดวส์ของไมโครซอฟท์ ดังนั้นสาวกไอแพด (iPad) และแอนดรอยด์ (Android) จึงอาจสะดุดใจเมื่อได้อ่านมาพบข้อจำกัดนี้
แม้จะยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าในอนาคต Office 365 Personal และ 365 Home Premium จะสามารถทำงานได้บนแท็บเล็ตแอนดรอยด์และไอแพด รวมถึงแพลตฟอร์มอื่นหรือไม่ แต่อย่างน้อยข่าวลือมากมายในนาทีนี้ล้วนชี้ไปในทิศทางเดียวกัน ว่าไมโครซอฟท์อาจเปิดตัวชุดโปรแกรม Office สำหรับแท็บเล็ตแอนดรอยด์และไอแพดในช่วงกลางปีนี้ ซึ่งคาดว่าอาจเป็นการทำตลาดควบคู่กับ Office 365 Personal
3. ก่อนหน้านี้ไมโครซอฟท์มีโปรแกรมออนไลน์จำหน่ายไหม?
ที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ให้บริการ Office 365 Home Premium ด้วยราคา 9.99 เหรียญสหรัฐต่อเดือน หรือเหมาจ่าย 99.99 เหรียญต่อปี (ราคาในประเทศไทย 249.99 ต่อเดือน และ 2499.99 ต่อปี) โดยบริการนี้เป็นบริการระดับเริ่มต้นที่ไมโครซอฟท์วางเป้าหมายที่กลุ่มผู้บริโภคบุคคลทั่วไป ผู้สมัครจะได้สิทธิ์ใช้งานบนคอมพิวเตอร์พีซีหรือแมคอินทอชจำนวน 5 เครื่อง และบนอุปกรณ์พกพา 5 ชิ้น ซึ่งหลังจาก Office 365 Personal เปิดตัวโดยลดราคาและจำนวนเครื่องลงเหลืออย่างละเครื่องเดียว บริการ Office 365 Home Premium จะถูกรีแบรนด์หรือเปลี่ยนชื่อบริการเป็น Office 365 Home
นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังทำตลาด Office Home and Student ซึ่งเป็นบริการจำหน่ายไลเซนส์โปรแกรมแบบสแตนอโลนในราคา 139.99 เหรียญ ซึ่งผู้ซื้อจะได้รับสิทธิ์ใช้งานแอปพลิเคชัน Office Online ที่เรียกดูได้ผ่านเบราวเซอร์ได้ฟรี จุดนี้เชื่อว่า บริการ Office 365 Personal จะเป็นบริการที่ไมโครซอฟท์ส่งมาเติมเต็มช่องว่างที่เหลืออยู่ระหว่าง Office Online และ Office 365 Home
4. จ่ายเพิ่มเพื่อเวอร์ชัน Home คุ้มไหม?
หากคุณไม่ได้มีอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พกพาหรือตั้งโต๊ะหลากหลายเครื่องในบ้าน การจ่ายเงินเพิ่มเพื่อซื้อบริการ Office 365 Home อาจจะเกินจำเป็นไป อย่างไรก็ตาม การที่ราคา Office 365 Personal นั้นหนีจาก Office 365 Home เพียง 30 เหรียญต่อปี ไมโครซอฟท์จึงถูกวิจารณ์หนาหูว่าอาจไม่ได้รับเสียงตอบรับจากตลาดดีเท่าที่ควร เนื่องจากวันนี้ผู้บริโภคหันไปใช้งานโปรแกรมออฟฟิศออนไลน์คู่แข่งอย่าง iWork, Google Docs และอีกหลายตัวเลือกที่ให้บริการฟรีกันมากขึ้น ซึ่งคำวิจารณ์นี้จะเป็นจริงหรือไม่ เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์
5. บริการนี้ทำให้อะไรเปลี่ยนแปลงอีกบ้าง?
แน่นอนว่าในมุมไมโครซอฟท์ Office 365 จะสร้างโอกาสเติบโตให้ธุรกิจขายไลเซนส์ของไมโครซอฟท์อย่างไม่ต้องสงสัย รายได้ต่อปีเหล่านี้จะทำให้ไมโครซอฟท์ไม่ต้องรับเงินครั้งเดียวจากการขายไลเซนส์โปรแกรมเวอร์ชันเดียวอีกต่อไป แถมยังเป็นโอกาสให้ไมโครซอฟท์ได้นำส่งเทคโนโลยีใหม่แก่ผู้ใช้ในวงกว้างขึ้น
นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ได้ผูกรวมเครื่องมือและคุณสมบัติอื่นเพื่อการทำงานร่วมกันจากระยะไกลเข้าไปในบริการ Office 365 ฐานลูกค้าที่ไมโครซอฟท์หาได้จาก Office 365 ย่อมสะท้อนโอกาสต่อยอดที่มากขึ้นบนธุรกิจโปรแกรมออนไลน์ของบริษัทในอนาคต
ในมุมของผู้ใช้ Office 365 จะทำให้ระดับความอุ่นใจในการใช้งานเพิ่มขึ้น ความกังวลว่าเอกสารจะสูญหายเมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์ถูกขโมยจะหายไปเพราะผู้ใช้สามารถจัดเก็บเอกสารไว้บนโลกออนไลน์ ซึ่งจะสามารถเรียกดูเพื่อแก้ไขหรือส่งต่อได้ตลอดเวลา ขณะเดียวกัน ปัญหาการใช้โปรแกรมที่ไม่ได้อัปเดทให้ทันสมัย จนอาจทำให้เกิดภัยไวรัสคอมพิวเตอร์ก็จะถูกสะสางไปด้วย เพราะไมโครซอฟท์สามารถอัปเดทหรือแก้ไขปัญหาในโปรแกรมออนไลน์ให้ทุกคนได้ใช้อย่างทันใจและเท่าเทียม
