xs
xsm
sm
md
lg

ไม่ใช่สงคราม จากนี้โลกจะจดจำเวียดนามเพราะ “Flappy Bird”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ลีลาในเกม ที่ให้อารมณ์เหมือนการเล่นเกมย้อนยุคของ Flappy Bird
ต้องยอมรับว่า “แฟลปปี้ เบิร์ด (Flappy Bird)” แอปพลิเคชันสุดฮอตที่ชาวโลกกำลังนิยมสุดขีดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นแอปพลิเคชันที่ทำให้โลกไอทีหันมามองเวียดนามอย่างเต็มตา ท่ามกลางกระแสข่าวมากมายเกี่ยวกับเกมนี้ที่ชวนให้น่าสับสนเหลือเกิน โดยเฉพาะเมื่อผู้สร้างเกมแฟลปปี้ เบิร์ดชาวเวียดนามตัดสินใจยกเลิกให้บริการเกมนี้แล้ว บนเหตุผลว่า”ไม่สามารถรับได้กับความสำเร็จครั้งนี้”

ก่อนหน้านี้ ด่อง เหงียน (Dong Nguyen) ชาวเวียดนามผู้สร้างเกมแฟลปปี้ เบิร์ดสำเร็จในเวลาข้ามคืน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเทคอินเอเชีย (Tech In Asia) ว่าชาวโลกมักจดจำเวียดนามได้เพราะสงครามเวียดนาม จุดนี้ทำให้เหงียนต้องการเปลี่ยนแปลงให้เวียดนามถูกจดจำในฐานะประเทศแห่งนวัตกรรม จึงหวังให้แอปพลิเคชันที่สร้างขึ้นนี้เป็นตัวช่วยในการเปลี่ยนภาพลักษณ์ประเทศเวียดนามอีกทาง

แน่นอนว่าแฟลปปี้ เบิร์ดสามารถทำสำเร็จในระดับหนึ่งแล้ว โดยแอปพลิเคชันนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นซอฟต์แวร์ชิ้นโบแดงจากเวียดนามที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก (ขณะนั้น) และตัวแอปพลิเคชันมียอดดาวน์โหลดมากกว่า 50 ล้านครั้งแล้วบนร้านจำหน่ายแอปพลิเคชันแอปสโตร์ (App Store) ของแอปเปิล

เรื่องนี้อุตสาหกรรมเทคโนโลยีของเวียดนามตื่นเต้นกันมาก เพราะนักพัฒนาเวียดนามรายนี้สามารถสร้างสรรค์เกมนี้ด้วยตัวคนเดียว แต่ทำให้มีผู้คลิกดาวน์โหลดแอปพลิเคชันวันละมากกว่า 2-3 ล้านครั้ง ท่ามกลางบทความรีวิวแอปมากกว่า 500,000 รีวิว

ทั้งหมดนี้ ทำให้นักพัฒนาเมืองญวนมีรายได้มากกว่า 5 หมื่นเหรียญสหรัฐต่อวัน โดยแอปพลิเคชันอย่างแฟลปปี้เบิร์ดสามารถครองอันดับแอปยอดนิยมอันดับ 2 ในชาร์ตของร้านแอปสโตร์ ทั้งที่เจ้าพ่ออย่างเฟซบุ๊ก (Facebook) นั้นเปิดตัวแอปพลิเคชันอย่างเปเปอร์ (Paper) ออกมาแล้ว

สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ คือแฟลปปี้ เบิร์ด ทำให้นักลงทุนทั่วโลกหันมามองเวียดนามมากขึ้น ทั้งนักลงทุนในเอเชียเองและในสหรัฐฯ ซึ่งก่อนหน้านี้ นักลงทุนมักมองข้ามเวียดนามและหันไปหาสตาร์ทอัปสิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซียมากกว่า

อย่างไรก็ตาม ผู้สร้างแฟลปปี้ เบิร์ดกลับส่งข้อความทวีตขอร้องให้สื่อมวลชนอย่ายกระดับความสำเร็จของเขาให้มากเกินจริง โดยข้อความทวีตในวันที่ 5 กุมภาพันธ์มีเนื้อหาขอร้องให้สื่อมวลชนเลิกติดต่อและปล่อยให้เขาได้อยู่อย่างสงบ

ล่าสุด 9 กุมภาพันธ์ เหงียนส่งข้อความทวีตขอโทษผู้ใช้แฟลปปี้ เบิร์ด โดยระบุว่าจะงดให้บริการเกมเนื่องจาก "cannot take this anymore" หรือไม่สามารถรับมือกับภาวะนี้ได้อีกต่อไป

การกระทำเช่นนี้ทำให้นักสังเกตการณ์บางส่วนเชื่อว่า นักพัฒนาเวียดนามรายนี้มีโลกส่วนตัวที่ไม่ชอบให้สื่อมวลชนก้าวก่าย ขณะเดียวกัน มีการตั้งข้อสังเกตว่าการปิดบริการแฟลปปี้ เบิร์ด อาจเป็นการหาทางออกให้ตัวเองเพื่อให้พ้นผิดจากข้อหาการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สร้างยอดคะแนนรีวิวแอปที่หลอกลวงขึ้นมา

จากการตรวจสอบของเว็บไซต์ bluecloudsolutions.com พบว่าประวัติการให้คะแนนแอปพลิเคชันแฟลปปี้ เบิร์ด นั้นมีพิรุธ ขณะที่ข้อความรีวิวแอปพลิเคชันนั้นมีคำซ้ำกันสูงมากจนผิดปกติ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้ไม่สามารถตรวจสอบซ้ำได้เมื่อผู้สร้างแอปตัดสินใจปิดบริการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันไปแล้ว

ถึงแม้หลายคนจะมองว่าแฟลปปี้ เบิร์ดสามารถทำให้โลกให้ความสนใจอุตสาหกรรมแอปพลิเคชันเวียดนามมากขึ้นในระยะสั้นเท่านั้น แต่อย่างน้อย นาทีนี้ก็ชัดเจนแล้วว่า แฟลปปี้ เบิร์ด ทำให้ปี 2014 เป็นปีที่ยิ่งใหญ่ของอุตสาหกรรมไอทีเวียดนามอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน.

***รู้หรือไม่

Flappy Bird เป็นเกมนกกระโดดที่ถูกเปิดตัวในปี 2013 ที่ผ่านมา เกมนี้ถูกวิจารณ์ว่าเป็นเกมที่ชวนให้ผู้เล่นรู้สึกแค้นใจและเกิดความต้องการอยากเล่นมากขึ้น เนื่องจากตัวเกมถูกออกแบบมาให้เล่นได้ยากและต้องอาศัยดวงเข้ามาช่วยด้วย ตัวเกมไม่เน้นแก่นสารเรื่องราวของตัวละคร หน้าที่หลักของผู้เล่นคือการพานกสีเหลืองให้พ้นสิ่งกีดขวางให้ได้ เปิดให้บริการฟรีและหารายได้จากค่าแบนเนอร์โฆษณาเป็นหลัก แอปรองรับทั้งอุปกรณ์ระบบปฏิบัติการ iOS และ Android รวมถึงการเล่นผ่านเว็บเบราวเซอร์
ข้อความทวีตในวันที่ 5 กุมภาพันธ์มีเนื้อหาขอร้องให้สื่อมวลชนเลิกติดต่อและปล่อยให้เขาได้อยู่อย่างสงบ
9 กุมภาพันธ์ เหงียนส่งข้อความทวีตขอโทษผู้ใช้แฟลปปี้ เบิร์ด โดยระบุว่าจะงดให้บริการเกมเนื่องจาก cannot take this anymore
เว็บไซต์ บลูคลาวด์โซลูชันส์ ดอทคอม พบว่าประวัติการให้คะแนนแอปพลิเคชันแฟลปปี้ เบิร์ด นั้นมีพิรุธ
กำลังโหลดความคิดเห็น