“อวาย่า” ขยายฐานจับองค์กรขนาดกลาง

'อวาย่า’ เห็นแนวโน้มองค์กรขนาดกลางเติบโตสูง เล็งขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมมากขึ้น เชื่อระบบการติดต่อสื่อสารที่ดีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่องค์กร พร้อมเล็งปรับสัดส่วนลูกค้าในประเทศไทยให้กลายเป็นภาคเอกชน 70% แทนภาครัฐที่ไม่นิ่ง

นายบัณฑิต วงษ์บัณฑูรย์ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อวาย่า ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ด้วยแนวทางของบริษัทที่จะหันไปรุกตลาดองค์กรธุรกิจขนาดกลางมากขึ้น หลังจากประสบความสำเร็จในการทำตลาดกลุ่มธุรกิจเอนเตอร์ไพรส์ และองค์กรขนาดเล็กมาระยะหนึ่งแล้ว ส่งผลให้ทางอวาย่า ประเทศไทยได้มีการเตรียมทีมงาน รวมถึงเฟ้นหาพาร์ตเนอร์ที่จะขยายตลาดไปในกลุ่มนี้ให้มากขึ้น

“เดิมสัดส่วนลูกค้ากว่า 70% ของอวาย่าจะเป็นหน่วยงานราชการ แต่จากสภาพการณ์ในปัจจุบัน รวมกับแนวทางขององค์กรทำให้มองว่าในปี 2557 จะต้องหันไปให้ความสำคัญต่อภาคเอกชนมากขึ้น และคาดว่าสัดส่วนของภาคเอกชนจะขึ้นมาอยู่ในระดับ 70% แทนภาครัฐ ภายใต้อัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% ต่อปี”

เบื้องต้นอวาย่าจะเน้นนำเสนอระบบโซลูชันที่จะเข้าไปช่วยติดต่อสื่อสารภายในองค์กรที่มีพนักงานต่ำกว่า 1,500 คน โดยจะเน้นไปในอุตสาหกรรมการผลิต ตามโรงงาน อุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการบริการ และกิจการที่มีเครือข่ายเป็นวงกว้าง จากเดิมที่เน้นอยู่เพียงอุตสาหกรรมโทรคมนาคม การเงิน และธนาคาร

โดยเหตุผลที่ทำให้ตลาดของกลุ่มองค์กรขนาดกลางมีความท้าทายในการเข้าไปทำธุรกิจคือ มีผลการสำรวจพบว่าพนักงานในกลุ่มองค์กรขนาดกลางกว่า 50% จะทำงานจากข้างนอกออฟฟิศ ทำให้ต้องการโซลูชันที่จะเข้ามาช่วยเชื่อมต่อการทำงานจากทั้งภายในและภายนอก และยังพบว่ากว่า 97.3% ของพนักงานมีโทรศัพท์ที่จะใช้เพื่อติดต่อเรื่องงานทั้งของส่วนตัว และของบริษัท ซึ่งทำให้ต้องมีโซลูชันที่จะเข้ามาช่วยเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยด้วย

นอกจากนี้ยังมีการสำรวจถึงงบการลงทุนทางด้านไอทีขององค์กรธุรกิจขนาดกลางในประเทศไทยจะอยู่ที่ราว 2 พันล้านบาท ทำให้ถือว่ามีโอกาสที่อวาย่าจะสามารถเข้าไปแนะนำโซลูชันในการติดต่อสื่อสารแบบครบวงจร ‘Avaya IP Office’ เพื่อเข้าไปทำตลาด และรักษาตำแหน่งผู้นำในกลุ่มโซลูชันดังกล่าวด้วย

ความโดดเด่นของ Avaya IP Office 9.0 ที่แต่เดิมนำมาใช้เจาะกลุ่มองค์กรธุรกิจขนาดเล็กคือ การเพิ่มความสามารถในการรองรับปริมาณใช้งานเพิ่มขึ้นเป็น 2,000 ราย มีความยืดหยุ่นในการติดตั้งสูง สามารถติดตั้งพร้อมใช้งานได้ภายใน 1 ชั่วโมง รองรับการทำงานบนระบบเวอร์ชวลไลเซชัน เพื่อใช้จัดระบบการติดต่อภายในองค์กรให้สะดวกที่สุด

ส่งผลให้ในการทำงานพนักงานไม่จำเป็นต้องอยู่ภายในออฟฟิศก็สามารถติดต่อสื่อสารด้วยเลขหมายออฟฟิศผ่านระบบอินเทอร์เน็ต หรือจะใช้ในการทำวิดีโอคอล การประชุมสายต่างๆ ก็สามารถทำได้ เพียงมีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ซึ่งปัจจุบันโครงข่ายในประเทศไทยมีเสถียรภาพมากขึ้นแล้ว

ทั้งนี้ อวาย่า ประเทศไทย ยังใช้แนวทางการทำตลาดผ่านพาร์ตเนอร์เป็นหลัก ซึ่งในการรุกเข้าไปในตลาดองค์กรขนาดกลางก็จะมีการขยายช่องทางจำหน่ายให้มากขึ้นจากตัวแทนจำหน่ายเดิม เพราะตัวระบบไม่มีความซับซ้อน ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้ความเชี่ยวชาญในระบบเหมือนการจำหน่ายให้แก่ธุรกิจเอนเตอร์ไพรส์

Company Relate Link :
Avaya