ฟอร์ติเนตชี้ผลสำรวจผู้บริหารไอทีใน 4 ประเทศเอเชีย ระบุบทบาทใหม่ของความปลอดภัยด้านไอทีได้กลายเป็นกลยุทธ์ที่จะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จมากขึ้น ขณะที่ซีอีโอเริ่มเข้ามาเป็นผู้ตัดสินใจขั้นเด็ดขาดเอง สวนทางบริษัทตะวันตกที่ซีไอโอมีอำนาจเต็มที่ในการตัดสินใจ พร้อมชี้เทรนด์ใหม่ของความปลอดภัยด้านไอทีจะมุ่งสู่ทิศทางการจัดการที่ง่ายและตอบสนองธุรกิจมากขึ้น โดยให้ความสำคัญที่ความปลอดภัยของดาตาเซ็นเตอร์เป็นสิ่งแรก
ทั้งหมดนี้เป็นผลสำรวจจากฟรอสต์แอนซัลลิแวนภายใต้หัวข้อ การใช้ระบบความปลอดภัยในองค์กรใน 4 ประเทศ ได้แก่ ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้บริหารไอทีระดับสูง เช่น CIO (Chief Information Officer) CTO (Chief Technology Officer) และหัวหน้าฝ่ายไอทีขององค์กรขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ ทั้งหมด 300 คน โดยแบ่งเป็นประเทศละ 75 คน จากอุตสาหกรรม 4 ประเภท ได้แก่ ธุรกิจการเงิน ผู้ให้บริการ หน่วยงานราชการ และสถานศึกษา ในช่วงเดือนตุลาคม 2556 ที่ผ่านมา
นายพีระพงศ์ จงวิบูลย์ ผู้จัดการประจำประเทศไทยแห่งฟอร์ติเนต พม่าและลาว กล่าวว่า ความพึงพอใจของลูกค้าเป็นปัจจัยที่สำคัญในการผลักดันให้องค์กรใช้ความปลอดภัยไอทีเป็นกลยุทธ์มากกว่าจะเป็นเพียงแค่การตั้งกฎหรือลดความเสี่ยงเท่านั้น โดยความปลอดภัยที่ใช้งานได้ง่ายขึ้นจะต้องมีความลึกที่สามารถแยกแยะฟีเจอร์ในระดับแอปพลิเคชันได้อย่างละเอียด ทำให้สามารถป้องกันการทำงานบางฟีเจอร์ที่ไม่เหมาะสมหรือไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับบริษัทได้โดยที่ไม่ต้องปิดแอปพลิเคชันทั้งหมด สอดคล้องกับบางประเทศที่เริ่มพิจารณาความปลอดภัยด้านไอทีบนอุปกรณ์พกพาส่วนตัว หรือ BYOD (Bring your own device) เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานในแง่ของความสะดวกมากยิ่งขึ้น
ขณะที่ซีอีโอเริ่มเข้ามามีบทบาทในการตัดสินใจมากขึ้น โดย 69% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าซีอีโอเป็นผู้ตัดสินใจการลงทุนด้านความปลอดภัยไอทีเอง ในจำนวนนี้ 40% ตอบว่าตัวเขาเป็นผู้ตัดสินใจ ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าการตัดสินใจเองของซีไอโอที่มีอยู่เพียง 40% และซีเอฟโอ 12% เท่านั้น ทั้งนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามทั้งไทยและมาเลเซียมีกว่า 40% ที่ตอบว่าซีอีโอเป็นผู้ตัดสินใจ สะท้อนให้เห็นถึงอำนาจการตัดสินใจที่ย้อนกลับมาที่ซีอีโอซึ่งมองว่าเป็นเรื่องของความคุ้มค่าที่องค์กรจะต้องลงทุน
“ด้วยรูปแบบของตำแหน่งซีไอโอในเอเชียที่มักจะเกิดขึ้นมาจากบุคลากรทางด้านเทคนิคเป็นส่วนใหญ่ ทำให้แนวความคิดด้านการบริหารต้นทุนเพื่อให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุดจึงมักสวนทางกับซีอีโอที่คิดภาพรวมทั้งหมดของบริษัท”
ทั้งนี้ สิ่งที่ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่าในอีก 12 ปีข้างหน้าความสำคัญจะอยู่ที่การจัดการด้านระบบคลาวด์ได้อย่างเต็มรูปแบบ โดย 16% ให้ความสำคัญต่อระบบดาตาเซ็นเตอร์ของตนเองเป็นศูนย์กลางด้านความปลอดภัย แนวโน้มนี้เห็นได้ชัดจากจำนวนผู้ตอบในมาเลเซียกว่า 21% และไทยกว่า 19% ที่เห็นตรงกัน โดยความปลอดภัยบนระบบคลาวด์จะต้องลงลึกไปถึงการป้องกันประเภท DDos หรือเว็บแอปพลิเคชันไฟร์วอลล์ ระบบความปลอดภัยให้แอปพลิเคชัน และระบบความปลอดภัยสำหรับเครือข่ายเป็นเทคโนโลยีหลัก โดยประเทศไทยยังคงให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยบนเครือข่ายเป็นอันดับ 1 ขณะที่ประเทศมาเลเซียให้ความสำคัญต่อการบริหารเครือข่ายเป็นอันดับ 1 ส่วนความปลอดภัยด้านเครือข่ายและเว็บแอปพลิเคชันมาเป็นอันดับ 2
ผลสำรวจชี้ชัดว่า การลงทุนด้านความปลอดภัยต้องคุ้มค่าการลงทุนมากที่สุด โดยส่วนใหญ่เห็นว่าโซลูชันที่เลือกจะต้องเบ็ดเสร็จทุกโซลูชันด้านความปลอดภัยในเครื่องเดียว และต้องให้ความปลอดภัยที่มากกว่า บริหารจัดการที่ง่ายกว่า และมีราคาต่ำกว่า ทั้งนี้ ได้มีการจัดลำดับความต้องการที่มีส่วนสำคัญต่อการตัดสินใจเลือกอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย โดยอันดับ 1 ได้แก่การสนับสนุนและบริการที่ดี อันดับ 2 ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า อันดับ 3 ราคาต่ำกว่า และสุดท้ายการจัดหาบริการเสริมต่างๆ เพิ่มเติมเป็นอันดับที่ 4
Company Related Link :
Fortinet