ซัมซุงใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่ปีในการก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาดมือถือทั้งฟีเจอร์โฟนและสมาร์ทโฟน ล่าสุดสร้างกระแสฮือฮาอีกครั้งในงาน Samsung Mobile Unpacked 2013 Episode2 เปิดตัว 3 โปรดักส์ใหม่พร้อมกันทั้ง Galaxy Note 3 ,Galaxy Gear และ Galaxy Note10.1 โชว์นวัตกรรมที่ทำให้ทั้ง 3 โปรดักส์ใช้งานร่วมกันได้อย่างลงตัว เปิดใจ 'วิชัย พรพระตั้ง' นายใหญ่ในไทย เผยไม่เกินสิ้นเดือนก.ย.นี้คนไทยยลโฉม Galaxy Note 3 แน่
ซัมซุงใช้เวที Samsung Mobile Unpacked 2013 Episode2 ประเทศเยอรมนี เปิดตัว 3 โปรดักส์ใหม่เมื่อวันที่ 4 ก.ย.ที่ผ่านมา ก่อนหน้าแอปเปิลที่เปิดตัวไอโฟนใหม่หนึ่งสัปดาห์ เริ่มจาก Galaxy Note 3 มาพร้อมฝาหลังที่มองเหมือน 'วัสดุประเภทหนัง' เรียบหรูบนดีไซน์ที่ยังยึดเอกลักษณ์ดั้งเดิมของสมาร์ทโฟนตระกูลกาแล็กซีบนความสามารถด้านมัลติทาสกิงที่เหนือชั้นกว่าเดิม ขณะที่นาฬิกาอัจฉริยะ Galaxy Gear มาพร้อม 70 แอปพลิเคชัน ด้าน Galaxy Note 10.1 เป็นรุ่น 2014 Edition หน้าจอความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซล พร้อมอัปสเปกซีพียูเป็น 8 Core ความเร็ว 1.9 GHz พร้อมแรม 3GB โดยฝาหลังเครื่องใช้พลาสติกที่ทำลวดลายให้เหมือนวัสดุหนังเช่นเดียวกับ Note 3
วิชัย พรพระตั้ง รองประธานธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าวว่า โปรดักส์ทั้ง 3 ตัวนี้จะเป็นเรือธงในการทำตลาดของซัมซุงในปีนี้ โดยในประเทศไทยจะเปิดตัว Note 3 ก่อนประมาณวันที่ 25 ก.ย.นี้ พร้อมๆกับอีก 149 ประเทศทั่วโลก ส่วนอีก 2 ตัวจะทยอยเข้ามาติดๆเรียกว่าห่างกันไม่กี่สัปดาห์ โดยในช่วงแรก Note 3 ราคาไม่น่าจะแพงกว่า Note 2 ที่ 22,900 บาท มากนัก อาจจะขยับขึ้นบ้างเล็กน้อย โดย Note 3 จะเป็นขนาดความจุ 32GB ไม่ใช่ 16GB
**Note3 ดีกว่า Note 2 ตรงไหน
วิชัย เล่าให้ฟังว่า จุดเริ่มต้นของ Note คือการสร้าง category ใหม่จากแนวคิดที่ว่าแค่สมาร์ทโฟนไม่พอแล้ว ไลฟ์สไตล์คนจะถูกเติมเต็มด้วยโซเชียลเน็ตเวิร์ก หากต้องการบริโภคคอนเทนต์ให้สะดวก ก็ต้องการหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นกว่า 5 นิ้ว Note จึงเข้ามาตอบโจทย์ตรงนี้ บวกกับพฤติกรรมของคนที่ยังติดอยู่กับการขีดเขียน S- Pen จึงถูกออกแบบมารองรับ
Note 3 เน้นไปที่ประสบการณ์การใช้งาน สิ่งใหม่ที่จะเกิดกับ Note 3 คือ 1.Air Command แบบใหม่ ที่เมื่อจ่อปากกา S-Pen ลงไปที่หน้าจอแล้วจะมีเมนูเรียก Action Memos, S Finder, Scrapbook และ Pen Windows ขึ้นมา ที่น่าสนใจมากที่สุดอยู่ที่ Action Memos ผู้ใช้สามารถเขียนเบอร์โทรศัพท์และชื่อเจ้าของเบอร์โทร. จากนั้นสามารถแปลงลายมือเหล่านั้นเป็นตัวอักษรและบันทึกลงไปที่ Contacts ในระบบของ Note 3 ได้ หรือแม้แต่การใช้ปากกาเขียนสถานที่ที่ต้องการไป จากนั้นระบบจะทำการแปลงข้อความและเข้าไปค้นหาใน Google Maps ให้อัตโนมัติ
2.Scrapbook ทำให้ผู้ใช้สามารถบันทึกหน้าเว็บที่ชื่นชอบแล้วไปจัดหมวดหมู่ผ่าน Scrapbook ได้ แน่นอนว่า Scrapbook จะแตกต่างจากการใช้งานจับภาพ Screenshot ตรงที่สามารถจดจำลิงค์และรายละเอียดของข้อความที่เราเซฟไว้ได้ 3.แอป S Note ใหม่สำหรับใช้จดบันทึกจะมีการวาง UI ใหม่ให้ใช้งานง่ายขึ้นรวมถึงสามารถใช้งานผ่านคลาวด์ได้เช่น Evernote และ 4.new MultiWindows ที่มาพร้อมความสามารถในการเปิดแอป เดียวกันขึ้นมา 2 หน้าจอจากนั้นสามารถคัดลอกข้อความจากหน้าจอหนึ่งไปยังหน้าจอหนึ่งได้ง่ายขึ้น หรือแม้แต่การส่งคอนเทนต์ระหว่างหน้าจอก็ทำได้ง่ายขึ้น
Galaxy Note 3 หน้าจอ 5.7 นิ้ว Super AMOLED 1080p ซีพียู 2.3GHz quad-core Qualcomm Snapdragon 800 สำหรับรุ่น 4G LTE ส่วน 3G ใช้ซีพียู 1.9GHz octa-core Samsung processor แบตเตอรี 3,200 mAh น้ำหนัก 168 กรัม วัสดุ back cover ด้านหลังเป็นหนัง (ไม่ใช่หนังแท้) มีสามสี ดำ สีขาวคลาสสิค และสีชมพู กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซลมาพร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหวและในส่วนวิดีโอรองรับความละเอียด 4K
'เราไม่ได้มองว่า S- Pen เป็นแค่ปากกาแต่เป็นความอัจฉริยะที่ถูกพัฒนาขึ้นตามลำดับของ Note 1-2-3 แค่เขียนก็วิ่งเข้าหาข้อมูลได้ทุกอย่าง เรียกได้ว่าอยากรู้อะไรในโลกก็ได้หมด S-Pen กลายเป็นตัวเปิดโลกให้เราเข้าหาสิ่งที่เราต้องการ Note ไม่ใช่แค่หน้าจอที่ใหญ่ขึ้นแต่ Note ถูกสร้างขึ้นจากความต้องการใช้งานจริงและพัฒนาเป็นนวัตกรรม แค่เขียนชื่อหรือเบอร์โทร.ก็จะวิ่งไปหาข้อมูลของคนคนนั้นทันที'
วิชัย กล่าวว่า Note 1 และ 2 ประสบความสำเร็จมาก ทำให้มั่นใจว่า Note 3 จะได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาดเช่นกัน ในแง่ของเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาให้เป็นพรีเมี่ยมมากยิ่งขึ้น โดยคาดว่า Note 3 ราคาจะไม่ถึง 3 หมื่นบาทแน่นอน อาจจะต่างจาก Note 2 ที่ขายในราคา 22,900 บาทนิดหน่อย ในไทยจะทำตลาด Note 3 ที่ 32GB ส่วน 64GB ต้องขอดูความต้องการของตลาดก่อน ส่วนสีคาดว่าจะเป็นขาวกับดำก่อน โดยเริ่มจากรุ่น 3G ส่วนรุ่น 4G ต้องดูก่อนเช่นกัน
'ตัวเครื่อง 4G LTE มีอยู่แล้ว ถ้าจะเอาเข้ามาทำตลาดหรือไม่ต้องทดสอบก่อนว่าเน็ตเวิร์กรัน 4G ใช้ได้จริงหรือไม่ เราถึงจะนำเข้ามาแต่ถ้าทดสอบแล้ววิ่งไม่ได้ตามสเปกนั้นจริงเราก็อาจไม่นำเข้ามา 4G มีหลายความถี่ แต่ละค่ายไม่เหมือนกัน ต้องทดสอบก่อนนำเข้าอยู่แล้ว'
ด้านการตลาด ผู้บริหารซัมซุง กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ว่าทั้ง 3 ตัวจะทำตลาดคู่กัน โดยเฉพาะ Smartwatch อย่าง Galaxy Gear ที่ซัมซุงไม่ได้มองว่าแค่เป็นอุปกรณ์เสริมหรือ accessoryแต่ Galaxy Gear จะเป็นอีกหนึ่งในดีไวซ์ที่จะมาตอบโจทย์และเติมเต็มทั้งในชีวิตจริงและการทำงานได้มากที่สุด ส่วนราคานั้นคาดว่าจะไม่แพงอย่างที่คิด
'คนโดยทั่วไปไม่มีใครถือโทรศัพท์ตลอดเวลา บางพื้นที่เราปิดเสียด้วยซ้ำ แต่ Gear จะเตือนเราตลอดเวลาว่ามีโทรศัพท์เข้ามาหรือไม่ และอยู่ที่ว่าเราจะรับไหมเท่านั้น เป็นช่องว่างที่ Gear เข้ามาเติมเต็มได้ในชีวิตจริงไม่พลาดสิ่งที่ไม่ควรพลาด แม้ขณะขับรถก็สื่อสารผ่าน Gear ได้ ในช่วงเวลาที่ครอบครัวต้องการเก็บภาพประทับใจ บางครั้งการหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปอาจทำให้เสียบรรยกาศ หรือคนที่ถูกถ่ายจะไม่เป็นธรรมชาติขึ้นมาทันที่ แต่เมื่อใช้ Gear ความรู้สึกแบบนั้นจะไม่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับการใช้ Gear เพื่อบันทึกเสียงเด็กก็ให้ความรู้สึกที่ดีมากกว่าการหยิบโทรศัพท์หรือเทปขึ้นมาบันทึกเสียงในขณะนั้น'
Samsung Galaxy Gear Smartwatch ถูกออกแบบมาให้ใช้งานร่วมกับ Note 3 และ Note 10.1 2014 Edition รวมถึงสมาร์ทโฟนของซัมซุงรุ่นก่อนหน้าอย่าง Galaxy S4 S3 และ Note 2 เพียงแต่ต้องติดตั้งแอปพลิเคชันเพิ่มเติม โดย Galaxy Gear มาพร้อมหน้าจอ 1.63 นิ้ว Super AMOLED แบบสัมผัส ความละเอียด 320 x 320 พิกเซล ซีพียู Exynos 800MHz สามารถในการเป็นทั้งนาฬิกาบอกเวลา อ่านข้อความที่มาจากสมาร์ทโฟน ควบคุมการเล่นเพลง แสดงการแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟน มีกล้องความละเอียด 1.9 ล้านพิกเซล ไมโครโฟนและลำโพงสามารถใช้สนทนาโทรศัพท์ได้ เชื่อมต่อจะใช้ผ่าน Bluetooth 4.0 พร้อมแบตเตอรี 315 mAh
เมื่อถามถึงการแข่งขันในตลาดโดยเฉพาะอุปกรณ์ประเภทหน้าจอ 5 นิ้ว ผู้บริหารซัมซุง กล่าวว่า คอนเทนต์จะเป็นเรื่องสำคัญ คนจะมีความสุขกับแอปพลิเคชั่นที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อคนพิเศษมากยิ่งขึ้น ทุกวันนี้แอปพลิเคชั่น Galaxy Gift มียอดผู้ใช้กว่า 8 แสนกว่าคน และมีคนใช้ประจำถึง6แสนคนต่อเดือน Galaxy Gift ตอบโจทย์ให้สาวกซัมซุงได้เป็นอย่างดีว่าทุกวันนี้ ซัมซุงไม่ได้มุ่งทำตลาดแค่ดีไวซ์เพียงอย่างเดียว แต่มีซีรีส์หนังเป็นร้อยเรื่องให้ดูได้ตลอดเวลา บน Galaxy Gift
'เรามองการแข่งขันของตลาดไม่ได้แข่งที่ขนาดหน้าจอเป็นหลักแต่เรามองที่ไลฟ์สไตล์การใช้งานจริงของแต่ละคนมากกว่า'
วิชัย กล่าวว่า ปัจจุบัน ประเทศไทย รวมถึงอาเซียนมีความสำคัญในสายตาของซัมซุงมากขึ้นทุกวัน ไทยถูกมองว่าเป็นหัวหอกของซัมซุงโกบอล โปรดักส์หลายตัวเปิดตัวในไทยพร้อมกับประเทศสำคัญอื่นๆทั่วโลกของซัมซุง โดยซัมซุงในไทยจะมีการทำงานอย่างใกล้ชิดกับซัมซุงสำนักงานใหญ่ Galaxy Gift เป็นตัวอย่างหนึ่งของการทำงานใกล้ชิดและเป็นประเทศแรกในโลกที่มีบริการเช่นนี้ให้ประเทศอื่นเรียนรู้
'2 - 3 ปีมานี้ผมไม่เคยถามตัวเองเลยว่าจะขายได้เท่าไร แต่มองว่าจะทำอย่างไรให้คนเข้าถึงนวัตกรรมของซัมซุงได้มากที่สุดเราไม่เคยมีตั้งเป้าหมายยอดขายมา 3 ปีแล้ว เป้าหมายเป็นสิ่งปลายทางที่เราจะทำ แต่ภารกิจแรกที่เราจะทำคือทำอย่างไรให้คนไทยเข้าถึงเทคโนโลยีของเราได้มากที่สุดส่วนดีไวซ์เป็นเรื่องตามมา'
***คิดอย่างไรกับไอโฟนที่นำรุ่นเก่ามาปรับราคาลง
วิชัย กล่าวว่า การที่ไอโฟนลงมาเล่นในตลาดอีกระดับราคา โดยคาดว่าจะเปิดตัวเครื่องราคาถูกลงว่าเป็นเรื่องปกติยิ่งแข่งขันมากยิ่งเป็นสิ่งที่ทำให้เราได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน แต่คาดว่าไม่ส่งผลกระทบกับการทำตลาดของซัมซุง
ขณะที่อีกค่ายคือไมโครซอฟท์ที่ประกาศซื้อโนเกีย มองว่าจริงๆแล้วไมโครซอฟท์กับโนเกียก็ทำงานร่วมกันมานานแล้ว ก็ถือเป็นอีกแพลตฟอร์มหนึ่งเท่านั้นเอง ใครจะรวมกับใครไม่ใช่เรื่องสำคัญในวันนี้ แต่ใครมีแอปพลิเคชันที่โดนใจมากที่สุดมากกว่าเป็นเรื่องสำคัญ วันนี้ Galaxy Gift มีสิ่งใหม่ๆ ออกมาตลอดเวลาธรรมชาติของการทำธุรกิจ สิ่งที่ซัมซุงให้ความสำคัญคือตัวลูกค้า เราจะทำอย่างไรให้ลูกค้าแฮปปี้กับเราได้มากที่สุด
'คนที่ใช้วินโดว์สส่วนใหญ่จะอยู่กับที่ เพราะอยู่บน PC เป็นหลัก ส่วนคนที่ใช้ แอนดรอยด์จะเคลื่อนที่ เป็นคนละตลาดอยู่แล้ว'
ล่าสุดทางซัมซุงได้จัดงานแถลงข่าวกลับบล็อกเกอร์กลุ่มเล็กๆพร้อมให้ข้อมูลว่าเครื่อง Note 3 ที่นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยจะเป็นเวอร์ชัน Exynos ที่ใช้หน่วยประมวลผลแบบ octa-core รองรับเฉพาะ 3G เท่านั้น โดยจะเริ่มเปิดจองในช่วงสัปดาห์หน้า และเร่ิมทยอยรับเครื่องวันที่ 25 - 28 กันยายน ส่วนการเปิดจำหน่ายทั่วไปจะเริ่มวันที่ 3 ตุลาคม ในราคา 23,500 บาท ส่วน Galaxy Gear 8,900 บาท
Company Relate Link :
Samsung
