“TACGA” ระบุ ตลาดจีนน่าเปิดช่องทำตลาดโฆษณาแอนิเมชัน ล่าสุดดึง “เกรแฮมคลาร์ก” กูรูแอนิเมชันชื่อดังจากฮอลลีวูดปั้นผู้ประกอบไทยผลิตงาน 3 มิติ ป้อนตลาดโลก พร้อมวอนภาครัฐสนับสนุนธุรกิจแอนิเมชัน หลังเจออุปสรรคเรื่องงบประมาณ ระบุปีที่ผ่านมาธุรกิจแอนิเมชันโตแค่ 5%
นายนิธิพัฒน์ สมสมาน นายกสมาคมผู้ประกอบการแอนิเมชันและคอมพิวเตอร์กราฟิกส์ไทย หรือ TACGA กล่าวว่า ในปี 2554 ประเทศไทยมีมูลค่าตลาดของภาพยนตร์แอนิเมชัน 3 มิติ ราว 5,000 ล้านบาท โดยเป็นการส่งออกภาพยนตร์แอนิเมชันไปยังตลาดต่างประเทศทั้งสิ้น 700 กว่าล้านบาท จากภาพรวมของเม็ดเงินในอุตสาหกรรมดิจิตอลคอนเทนต์มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1.4 หมื่นล้านบาท
“สมาคมฯ คาดการณ์ว่าในปี 2555 ธุรกิจในตลาดแอนนิเมชันจะเติบโตไม่มากในประเทศไทย ซึ่งคาดว่าจะเติบโตจากปี 2554 ราว 5% ของมูลค่าตลาดแอนิเมชัน ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดในส่วนนี้ออกมาแม้ว่าจะผ่านมาเกือบ 9 เดือนแล้วก็ตาม”
ทั้งนี้ ตลาดแอนิเมชันในประเทศไทยในปี 2556 ก็น่าจะเติบโตไม่มากนัก เนื่องจากมีปัญญาด้านงบประมาณการลงทุนสนับสนุนการทำภาพยนตร์แอนิเมชัน ซึ่งเป็นธุรกิจที่จะต้องใช้เงินทุนมากพอสมควร โดยดูจากในปีที่ผ่านมามีภาพยนตร์เพียง 2 เรื่อง จากบริษัท กันตนา และเวิร์คพอยท์ ที่ผลิตภาพยนตร์แอนิเมชัน เรื่องยักษ์ และเอ็คโก ซึ่งทำรายได้ไม่ดีนัก
ในขณะที่ปัจจัยด้านฝีมือถือว่าคนไทยมีฝีมือเป็นอันดับต้นของโลก จะเห็นได้จากการทำภาพยนตร์โฆษณาแอนิเมชันที่ติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก ซึ่งในต่างประเทศนั้นรัฐบาลมีการสนับสนุนด้านงบประมาณ และมีสถาบันการเงินที่สามารถกู้โดยมีอัตราดอกเบี้ยต่ำ โดยอยากให้ภาครัฐให้การสนับสนุนในด้านนี้เช่นเดียวกัน
นายนิธิพัฒน์กล่าวว่า ปัจจุบันกระแสความนิยมในการชมภาพยนตร์ 3 มิติ เพิ่มสูงขึ้นไปทั่วโลก โดยปี 2555 มีการผลิตภาพยนตร์และแอนนิเมชัน 3 มิติ ที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วโลกมากถึง 44 เรื่อง ประกอบกับโรงภาพยนตร์ โทรทัศน์ได้เพิ่มความสามารถในการรับชมภาพยนตร์ในรูปแบบ 3 มิติเพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงกระแสความนิยมรับชมภาพยนตร์และแอนนิเมชัน 3 มิติของผู้ชมทั่วโลก
จากแนวโน้มการเติบโตของอุตสาหกรรมภาพยนตร์และแอนิเมชันในตลาดโลก สมาคมฯ โดยการสนับสนุนจากสำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟแวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือซิป้า และกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จัด “โครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (Workshop) 3 มิติ Stereoscopic for Movie and Animation” สำหรับผู้ประกอบการทั่วไทย เพื่อให้มีศักยภาพเทียบเท่าระดับสากล และเพื่อเป็นการส่งเสริมการขยายตลาดแอนิเมชันและภาพยนตร์ในรูปแบบ 3 มิติ ของไทย รวมถึงเป็นการเปิดโอกาสให้ประเทศไทยกลายเป็นแห่งผลิตคอนเทนต์ 3 มิติของโลกอีกด้วย
นายเกรแฮม คลาร์ก หัวหน้าฝ่าย Stereography บริษัท Stereo D. กล่าวว่า ตลาดโลกเริ่มตอบรับกับภาพยนตร์ 3 มิติมากขึ้น อาทิ ภาพยนตร์เรื่อง อแวนเจอร์ ที่มีรายได้ทั้งหมด 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 60% เป็นรายได้จากภาพยนตร์ 3 มิติ โดยภาพยนตร์ 3 มิติ เป็นที่นิยมในหลายประเทศ โดยเฉพาะตลาดภาพยนตร์ที่มีความสำคัญ ได้แก่ จีน, เกาหลี, รัสเซีย
อย่างไรก็ตาม สำหรับประเทศไทยเป็นโอกาสในตลาดของโฆษณาในโรงหนังก่อนฉายภาพยนตร์ 3 มิติ ซึ่งมีช่องว่างทางการตลาดอีกมาก เนื่องจากบริษัทในต่างประเทศ มักให้ความสำคัญกับตัวภาพยนตร์มากกว่า รวมถึงใช้งบในการลงทุนไม่สูง
Company Relate Link :
TACGA