*** ซัมซุง อทีฟ บุ๊ก 9 ไลท์ จอทัชสกรีน
ซัมซุง อทีฟ บุ๊ก 9 ไลท์ (ATIV Book 9 Lite) โน้ตบุ๊กบางพิเศษที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 หน้าจอทัชสกรีนขนาด 13.3 นิ้ว รองรับการสัมผัสได้ถึง 10 จุด หน่วยประมวลผลแบบควอดคอร์ หน่วยความจำ 4 กิกะไบต์ และหน่วยจัดเก็บข้อมูลแบบ SSD (Solid State Disk) ความจุ 128 กิกะไบท์ น้ำหนักเพียง 1.58 กิโลกรัม และบางเพียง 17.4 มิลลิเมตร สามารถบูทเครื่องได้ภายในเวลาเพียง 7 วินาที และปลุกเครื่องให้พร้อมกลับมาใช้งานได้ในเวลา 1 วินาที ด้วยหน้าจอทัชสกรีน และมัลติทาสกิ้งฟังก์ชัน ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทั้งเล่นทั้งทำงานไปพร้อมๆ กัน
มาพร้อมกับแอปพลิเคชัน ไซด์ซิงค์ เทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะของซัมซุง ทำให้ผู้บริโภคสามารถเชื่อมต่อ 2 ระบบปฎิบัติการเข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ คือสามารถใช้โน้ตบุ๊กพีซีในระบบปฏิบัติการวินโดวส์ และสมาร์ทโฟนในระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เพื่อทำงานร่วมกันได้อย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยผู้ใช้งานสามารถสลับการทำงานจากโน้ตบุ๊กพีซีไปสู่สมาร์ทโฟนซัมซุงที่ใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ได้ และด้วยคุณสมบัติโฮมซิงค์ ไลท์ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถสำรองไฟล์ รูปภาพ และคลิปวีดิโอต่างๆ จากอุปกรณ์พกพาผ่านเซิร์ฟเวอร์มาเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ เปรียบเสมือน คลาวด์ส่วนบุคคล (Personal Cloud Server) และสามารถเรียกใช้งานไฟล์เหล่านี้ได้จากอุปกรณ์มือถือได้ตลอดเวลาอีกด้วยวางจำหน่ายสีเทาดำ ในราคา 24,900 บาท
***ซีเอ เผยสถิติ Channel Index 2013
ข้อมูลจาก Channel Index 2013 ยืนยันว่าโดยค่าเฉลี่ยแล้วพาร์ตเนอร์ของซีเอ เทคโนโลยีใช้เวลากว่า 33% ช่วยบริษัทลูกค้าในด้านโปรเจกต์นวัตกรรมเทคโนโลยีที่จะทำรายได้จากเซอร์วิสใหม่ๆ ต่อไปในอนาคต ซึ่งต่างจากแนวคิดเดิมแบบเก่าที่เคยเน้นแค่วางงบไอทีส่วนใหญ่ 80 %ไปที่งานดูแลระบบและงานดำเนินการจัดการทั่วไป และเหลือแค่ 20% ให้โครงการใหม่ๆที่กำลังพัฒนา ไลออนเนล ลิม ประธานประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น บริษัท ซีเอ เทคโนโลยี กล่าวว่า ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นกำลังให้ความสำคัญกับนวัตกรรม มีการพัฒนาเกิดขึ้นในชาติเอเชียมากมายและมองลึกลงไปจะเห็นว่าไอทีคือหัวใจของการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ดัชนี CA Technologies Channel Index 2013 ช่วยยืนยันในสิ่งที่เริ่มสังเกตุเห็นวิธีคิดที่เปลี่ยนไป โดยทั้ง CIO และผู้นำธุรกิจจำนวนมากได้ร้องขอให้ฝ่ายไอทีมีบทบาทสำคัญในการผลักดันนวัตกรรมใหม่ๆ และสร้างการเปลี่ยนแปลง
ความสำคัญ 3 อันดับต้นๆจากการลงทุนด้านไอทีที่พบจากงานวิจัยข้อมูลครั้งนี้ก็คือ การลงทุนด้านระบบโมบิลิตี้ระดับเอ็นเตอร์ไพรซ์ บิ๊กดาต้า และระบบคลาวด์ ดัชนี้ได้เผยให้เห็นว่ากว่า 87% พันธมิตรธุรกิจของซีเอ เทคโนโลยีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกต่างคาดว่าจะมียอดการใช้จ่ายด้านระบบโมบิลิตี้เอ็นเตอร์ไพรซ์เพิ่มขึ้นในปีหน้า และ 95% ที่ตระหนักดีว่าการเร่งใช้ระบบโมบิลิตี้จะช่วยสร้างโอกาสขยายธุรกิจ นอกจากนี้ยังมีพันธมิตรธุรกิจอีกกว่า 79% ที่มองว่าจะมีการลงทุนด้านบิ๊กดาต้าเพิ่มขึ้นอีกในช่วงเวลา 12 เดือนถัดจากนี้ไป
นอกจากนี้ระบบคลาวด์คืออีกหัวข้อสำคัญที่พันธมิตรธุรกิจของซีเอ เทคโนโลยีให้ความสำคัญมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ในการลงทุนด้านไอที โดยราว 3 ใน 4 ของพันธมิตรธุรกิจทั้งหมดที่มีการสำรวจคาดการณ์ว่าจะมีการเพิ่มขึ้นของยอดค่าใช้จ่ายด้านคอมพิวเตอร์ระบบคลาวด์เพิ่มมากขึ้นอีกในปีหน้า ข้อมูลรายงานการศึกษา CA Channel Index 2013 ฉบับเต็มสามารถดูได้ที่ http://www.ca.com/us/collateral/supporting-pieces/na/ca-technologies-channel-index-2013-supporting-press-materials.aspx
***ลูกค้าดีแทคยิ้ม Operator Billing ซื้อแอปพลิเคชั่นชำระผ่านบิลดีแทคได้แล้ว
ดีแทคมอบความสะดวก และปลอดภัยเอาใจลูกค้าผู้ใช้สมาร์ทโฟน ที่ต้องการซื้อแอพพลิเคชั่นได้ดาวน์โหลดมาใช้บนมือถือ ด้วยบริการ “Operator Billing” บริการซื้อแอปพลิเคชั่นแล้วชำระเงินโดยตัดบิลดีแทคได้เลย เริ่มแล้ววันนี้สำหรับผู้มือถือบนระบบปฏิบัติการ วินโดว์โฟน และจะทยอยเปิดให้บริการสำหรับระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ ไอโอเอส และแบล็กเบอรี่ได้ครบภายในสิ้นปีนี้ ให้ผู้ใช้งานเลือกดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นที่ชื่นชอบได้สะดวก ปลอดภัยมั่นใจได้และง่ายยิ่งขึ้น
***ทรูมูฟ เอช ชวน กด *201# ลุ้นทริปเชียร์แมนยูฯ ติดขอบสนามโอลด์แทรฟฟอร์ด
ทรูมูฟ เอช ชวนสาวกปีศาจแดงบินลัดฟ้าไปเชียร์
ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มันส์ติดขอบสนามโอลด์แทรฟฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ฟรีกับทริป
สุดเอ็กซ์คลูซีฟให้ชาวเอชร่วมลุ้นถึง 19 แมตช์ ลูกค้าทรูมูฟ เอช แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซิม
รับสิทธิ์ลุ้นทันที ไม่ต้องลงทะเบียน สำหรับลูกค้าทรูมูฟ เอช ลงทะเบียนร่วมสนุกหรือรับสิทธิ์ลุ้นเพิ่มง่ายๆ ยิ่งส่งมากยิ่งมีสิทธิ์มาก กด *201# โทร.ออก (ค่าบริการครั้งละ 1 บาท) รับ 1 สิทธิ์/ครั้ง ส่งแบบเหมาก็ได้ กด *201*20# โทร.ออก (ค่าบริการครั้งละ 20 บาท) รับ 20 สิทธิ์/ครั้ง หรือ กด *201*50# โทร.ออก (ค่าบริการครั้งละ 50 บาท) รับ 50 สิทธิ์/ครั้ง
พิเศษ ซื้อสมาร์ทโฟน ทรู บียอนด์ 4G รุ่นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รับทันที 200 สิทธิ์/เครื่อง หรือซื้อแอร์การ์ด รุ่นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รับทันที 20 สิทธิ์/เครื่อง เมื่อลงทะเบียน หลังจากนั้น
รับวันละ 1 สิทธิ์ ถึง 15 มีนาคม 2557 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.truemove-h.com
*** เทรนด์ไมโครจับมือเอสไอเอสรุกตลาดคลาวด์ ซิเคียวริตี้
บริษัท เทรนด์ไมโคร (ประเทศไทย) เปิดกลยุทธ์รุกตลาดคลาวด์ซิเคียวริตี้ครึ่งปีหลัง ผนึกกำลังพันธมิตรธุรกิจยักษ์ใหญ่ บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) นำเสนอโซลูชั่นเทรนด์ไมโคร ดีพ ซิเคียวริตี้ ยกระดับการรักษาความปลอดภัยบนระบบคลาวด์ให้กับกลุ่มลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่และเอสเอ็มบี พร้อมตั้งเป้ายอดขายโซลูชั่นคลาวด์ซิเคียวริตี้เพิ่มขึ้นประมาณ 20 % วิลเลี่ยม ตัน ผู้จัดการประจำประเทศไทยและภูมิภาคอินโดจีน บริษัท เทรนด์ไมโคร (ประเทศไทย) กล่าวว่า จากรายงานของบริษัทวิจัยข้อมูลเทคนาวิโอ ประเทศสหรัฐอเมริกาเปิดเผยถึงภาพรวมของตลาดซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยสำหรับระบบคลาวด์ทั่วโลกคาดว่าจะมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ประมาณ 963.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2557 ปัจจัยหลักๆ ที่ทำให้ตลาดคลาวด์ซิเคียวริตี้ทั่วโลกมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น คือการใช้บริการคลาวด์สำหรับการจัดเก็บข้อมูลที่สำคัญซึ่งกำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วของอาชญากรไซเบอร์ที่พุ่งเป้าโจมตีไปที่ระบบคลาวด์โดยเฉพาะ และในรายงานฉบับนี้ยังระบุด้วยว่าบริษัทเทรนด์ไมโครครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดเป็นอันดับ 1 ด้านซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยบนระบบคลาวด์ (2012 Technavio Global Cloud Security Software Market)
เทรนด์ไมโครมีแนวทางการทำตลาดที่เน้นให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์กับบริษัทคู่ค้า ล่าสุดร่วมกับบริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) ประกาศความพร้อมรุกตลาดคลาวด์ซิเคียวริตี้ครึ่งปีหลัง พร้อมเปิดตัวโซลูชั่น เทรนด์ไมโคร ดีพ ซิเคียวริตี้ 9 โซลูชั่นแรกและโซลูชั่นเดียวในอุตสาหกรรมที่มีคุณสมบัติเด่นด้านการปกป้องบนระบบเสมือนของ VMware โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งเอเจนท์ (agentless) ก็สามารถครอบคลุมครบทั้งระบบป้องกันการบุกรุก ระบบตรวจสอบความสมบูรณ์ของระบบ รวมถึงทำการปรับแต่งระบบเสมือนจริงได้โดยไม่ต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสใดๆ เพิ่มเติม ช่วยตอบสนองความต้องการในการรักษาความปลอดภัยสำหรับเซิร์ฟเวอร์ และนำไปปรับใช้ร่วมกับระบบคลาวด์แบบเปิด และไฮบริดได้ ที่สำคัญยังเสริมความคล่องตัวและประหยัดค่าใช้จ่าย ช่วยให้กลุ่มลูกค้าองค์กรสามารถปรับขยายศูนย์ข้อมูล รวมทั้งเพิ่มปริมาณโหลดของระบบไปยังระบบคลาวด์แบบที่องค์กรต้องการได้อย่างมั่นใจ โดยกลุ่มลูกค้าหลักจะเป็นกลุ่มธุรกิจการเงิน การธนาคาร หน่วยงานราชการ และภาคอุตสาหกรรมการผลิต
สมชัย สิทธิชัยศรีชาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) กล่าวถึงความร่วมมือในการรุกตลาดคลาวด์ซิเคียวริตี้ครั้งนี้ว่า เอสไอเอส มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นพันธมิตรธุรกิจร่วมกับบริษัท เทรนด์ไมโคร ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าองค์กรที่กำลังก้าวไปสู่ระบบคลาวด์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยกลุ่มสินค้าที่ทำตลาดร่วมกับเทรนด์ไมโคร คือ โซลูชั่นดีพ ซิเคียวริตี้ โซลูชั่นรักษาความความปลอดภัยสำหรับระบบคลาวด์ที่สมบูรณ์แบบ และเป็นกลุ่มสินค้าชั้นนำในตลาด มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดเป็นอันดับ 1 และด้วยความเชี่ยวชาญของเอสไอเอสซึ่งเป็นผู้แทนจำหน่ายในกลุ่มสินค้าเวอร์ช่วลไลซ์ (Virtualized) ที่ครบสมบูรณ์ที่สุด ไม่ว่าจะเป็น ระบบวีเอ็ม (VM), ระบบรักษาความปลอดภัยบนวีเอ็ม และแบ็กอัพบนวีเอ็ม จึงมั่นใจว่าธุรกิจสามารถแข่งขันในตลาดได้ และส่งผลให้ยอดขายในส่วนการรักษาความปลอดภัยสำหรับระบบคลาวด์ในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มสูงขึ้นอย่างแน่นอน
***เอไอเอส 3G 2100 เปิดตัวบริการใหม่ Mobile Pro Delivery
เอไอเอส 3G 2100 ตัวจริง มาตรฐานโลก โดย สุปรีชา ลิมปิกาญจนโกวิท ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการส่วนงานการตลาดและพัฒนาโซลูชั่นส์กลุ่มลูกค้าองค์กร เปิดตัวโซลูชั่นใหม่ล่าสุด Mobile Pro Delivery ซึ่งเชื่อมโยงกับระบบ Cloud System ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางด้านระบบการจัดการและลดต้นทุนให้กับลูกค้าองค์กรที่ดำเนินธุรกิจขนส่งแบบครบวงจร ด้วยหลากหลายฟังก์ชั่นการใช้งาน ทั้งการตรวจสอบการจัดส่งสินค้าจากลายเซ็นต์หรือภาพถ่าย ,ตรวจสอบสภาพการจราจรและวางแผนเส้นทางเดินรถได้แบบ Real Time รวมทั้งผู้ใช้บริการสามารถสั่งงาน และบริหารจัดการได้ทันที ง่ายๆ ผ่านแอปบนสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต บนเครือข่ายคุณภาพของเอไอเอส 3G 2100 ที่ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่มในการติดตั้งระบบ และประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา ลูกค้าองค์กรที่สนใจสามารถสมัครได้แล้วที่ AIS Corporate Call Center 1149 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ais.co.th/business
*** ลูกค้าดีแทคใช้เฟซบุ๊กเมสเซนเจอร์และสติ๊กเกอร์ฟรีเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
ดีแทคเปิดตัวเฟซบุ๊กเมสเซนเจอร์และสติ๊กเกอร์ในเฟซบุ๊กฟรีเฉพาะลูกค้าดีแทค พร้อมประกาศเป็นผู้ให้บริการเฟซบุ๊กบนมือถือที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย ในแต่ละเดือนมีลูกค้าดีแทค ประมาณ 7.5 ล้านคน ที่ใช้เฟซบุ๊กบนโทรศัพท์มือถือ โดยตามสถิติ 50% ของผู้ใช้เฟซบุ๊กบนมือถือในประเทศไทยเป็นลูกค้าดีแทค ซึ่งมากกว่าผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายอื่นๆ
สติ๊กเกอร์ประสบความสำเร็จในเอเชีย เนื่องจากการแข่งขันที่สูงของแอปพลิเคชั่นแชท (Chat) ตัวอย่างเช่น ไลน์ (Line) และวอทส์แอพพ์ (WhatsApp) ทำให้เฟซบุ๊กต้องหันมาให้ความสำคัญกับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถืออย่างดีแทค เมื่อต้นปี 2556 เฟซบุ๊กเปิดตัวบริการแชทใหม่ชื่อว่า เฟซบุ๊กเมสเซนเจอร์ และเลือกให้ดีแทคเป็นพาร์ทเนอร์ในประเทศไทย บริการนี้ได้เปิดใช้งานเมื่อเดือนกรกฎาคม 2556 และเฟซบุ๊กได้เปิดตัว "สติ๊กเกอร์" เป็นครั้งแรก โดยเป็นส่วนหนึ่งของเฟซบุ๊กเมสเซนเจอร์ ที่ให้บริการฟรีนานถึง 90 วัน ซึ่งถือเป็นโบนัสพิเศษสำหรับลูกค้าดีแทค
ปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด ดีแทค กล่าวว่า คนไทยชอบใช้บริการโซเชียลมีเดียและแชท ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้แอปพลิเคชั่นอย่างเฟซบุ๊ก ว็อทสแอพพ์ และไลน์เป็นที่นิยมเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมากกว่า 80% ของผู้ใช้บริการดีแทคใช้บริการโซเชียลมีเดียและบริการแชททุกวัน ความนิยมในแอปพลิเคชั่นไลน์สูงขึ้นกว่าว็อทสแอพพ์อย่างเห็นได้ชัดเป็นเพราะสติ๊กเกอร์ วัยรุ่นและเด็กชอบที่จะแสดงความรู้สึกผ่านสติ๊กเกอร์ ที่เพิ่มความสนุกในการแชทและการแสดงความรู้สึกได้ชัดเจน เพราะบางครั้งการสื่อด้วยสติ๊กเกอร์จะดีกว่าการใช้คำ ดีแทคเป็นผู้ให้บริการมือถือรายแรกในประเทศไทยที่นำเสนอสติ๊กเกอร์บนเฟซบุ๊ก และดีแทคยังเป็นผู้ให้บริการแห่งที่สองของโลกที่จัดเฟซบุ๊กสติ๊กเกอร์ให้แก่ลูกค้า
สติ๊กเกอร์เป็นสัญญลักษณ์ที่แสดงอารมณ์ (Emoticon) ซึ่งมันสื่อถึงบางสิ่งบางอย่างผ่านทางรูปภาพ ไอคอนเหล่านั้นเป็นได้ทั้งลักษณะภาพสะท้อนสมัยนิยมขณะนั้น หรือเป็นรูปสัตว์ทำท่ากอด หรือภาพถ้วยกาแฟง่ายๆรูปหนึ่ง ที่ผ่านมาแอปพลิเคชั่นไลน์ประสบความสำเร็จอย่างมากในการนำเสนอสติ๊กเกอร์สู่ผู้ใช้งานในทวีปเอเชีย และตอนนี้เฟซบุ๊กกำลังตอบโจทย์การแข่งขันนี้ด้วยการมีสติ๊กเกอร์ของเฟซบุ๊กเองบ้าง
ความน่าดึงดูดของตลาดในประเทศไทย ช่วยสร้างความเป็นพันธมิตรที่ดีระหว่างดีแทคและเฟซบุ๊กให้ประสบความสำเร็จยิ่งขึ้น โดยในขณะนี้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองอันดับหนึ่งของโลกในการใช้เฟซบุ๊ก และตำแหน่งทางการตลาดของดีแทครวมถึงฐานลูกค้าที่ใช้เฟซบุ๊กด้วย และเหนือสิ่งเหล่านั้นกลุ่มบริษัทเทเลนอร์ ได้คงความเป็นพันธมิตรระดับโลกกับทางเฟซบุ๊ก สิ่งนี้ทำให้ยักษ์ใหญ่แห่งโซเชียลมีเดียมีจุดเดียวที่สามารถเข้าถึงทุกตลาด (single point of entry) ผ่านทางเครือข่ายของเทเลนอร์ที่มีผู้ใช้บริการกว่า 150 ล้านรายทั่วโลก
***อินเทล เผยรายชื่อผู้คว้าทุนประกันการศึกษารวม 2.5 ล้านบาทจากโครงการบี อะเมซิ่ง
บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) โดย ดรรชนีพร พฤกษ์วัฒนานนท์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด (ซ้าย) และ ฟิลิป เจิง Business Manager (ขวา) จับรางวัลและประกาศรายชื่อผู้โชคดี 50 คนที่ได้รับรางวัลทุนประกันการศึกษา (Educational Insurance) รางวัลละ 50,000 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 2.5 ล้านบาท จากการเข้าร่วมโครงการ บี อะเมซิ่ง (Be Amazing) ตามระยะเวลาที่กำหนดซึ่งเพิ่งผ่านพ้นไปในช่วงครึ่งปีแรกสำหรับผู้ซื้อคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก เดสก์ท้อป แท็บเล็ต พีซี และ ดีไอวายพีซีที่ใช้เทคโนโลยีอินเทล โดยผู้ที่ร่วมโครงการสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้โชคดีได้ที่ http://thailand.intel.com/promo
*** อีริคสันเผยบริการ 4G พลัสรวมคลื่น 1800 MHz และ 900 MHz ครั้งแรกของโลก
เทลสตราและอีริคสัน ร่วมมือกันพัฒนาและใช้เทคโนโลยีควบรวมคลื่นความถี่ในย่าน 1800 MHz และ 900 MHz บนเครือข่ายเชิงพาณิชย์ ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก การโยกย้ายผู้ใช้จากระบบ 2G สู่ 3G และ 4G นั้นทำให้คลื่นความถี่ในย่าน 1800 MHz และ 900 MHz นั้นว่างขึ้น อีริคสันใช้เทคโนโลยี LTE-Advanced หรือ 4G พลัส เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถใช้คลื่นความถี่ที่ถือครองอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมทั้งเพิ่มความเร็วในการรับส่งข้อมูลให้สูงยิ่งขึ้นไปอีก
อีริคสันได้รายงานถึงความสำเร็จของเทลสตรา (Telstra) ผู้ให้บริการเครือข่ายชั้นนำของออสเตรเลีย ในการให้บริการ 4G พลัส หรือ LTE-Advanced (LTE-A) Carrier Aggregation ซึ่งเป็นเทคโนโลยีควบรวมคลื่นความถี่ในย่าน 1800 MHz และ 900 MHz โดยเทลสตราได้ส่งผ่านข้อมูลบนเครือข่ายที่มีการใช้งานเชิงพาณิชย์อยู่ โดยผ่านสถานีฐานจำนวนหนึ่งในรัฐควีนส์แลนด์ ประเทศออสเตรเลีย
LTE Carrier Aggregation เป็นเทคโนโลยีอีกขั้นเพื่อการพัฒนาบริการโมบายล์บรอดแบนด์ความเร็วสูง และเพื่อให้ผู้ประกอบกิจการสามารถใช้คลื่นความถี่ที่ถือครองอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้ ด้วยการควบรวมคลื่นความถี่จากหลายช่วง เช่น 1800 MHz และ 900 MHz จนเกิดเป็นช่องสัญญาณขนาดใหญ่ อันจะส่งผลให้ความเร็วในการรับส่งข้อมูลยิ่งสูงขึ้นไปอีก
ไมค์ ไรท์ (Mike Wright) ผู้อำนวยการบริหาร เครือข่าย ของเทลสตรา กล่าวว่า จำนวนผู้ใช้เครือข่าย LTE ของเทลสตรา เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากจนกลายเป็นเกือบ 3 ล้านคนแล้วขณะนี้ โดยเพิ่มขึ้นจาก 2.1 ล้านคนเมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมา โดย LTE-Advanced จะช่วยพัฒนาทั้งในด้านความจุ ความเร็ว รวมถึงประสิทธิภาพ เพื่อให้เครือข่ายพร้อมรับมือกับปริมาณการใช้งานที่จะเพิ่มสูงขึ้น เมื่อลูกค้ามั่นใจและเลือกเครือข่ายเทลสตรา โดยเทคโนโลยีนี้จะช่วยเพิ่มความจุของระบบพร้อมพัฒนาคุณภาพของบริการต่อไป และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ร่วมมือกับอีริคสันในอนาคตเพื่อสร้างเทคโนโลยีนี้ให้เป็นจริงร่วมกัน และที่สำคัญในปี 2015 จะเกิดการเปลี่ยนระบบโทรทัศน์อนาล็อกไปสุ่ระบบดิจิตอลหรือที่เรียกว่า Digital Switchover ซึ่งจะทำให้สามารถนำคลื่นความถี่ในช่วง 700 MHz มาใช้งานสำหรับบริการโมบายล์บรอดแบนด์ความเร็วสูงสู่ชนบทได้อีก โดยได้วางแผนที่จะควบรวมคลื่นความถี่ในช่วง 700 MHz และ 1800 MHz เข้าด้วยกัน เพื่อให้บริการความเร็วสูงในระดับที่ใกล้เคียงกับความเร็วสูงสุดทางทฤษฏี 300 Mbps
โฮแกน อีริคสัน ประธานบริษัท อีริคสัน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และฟิจิ กล่าวว่า ทั้งในระดับภูมิภาคและในระดับโลก มีผู้ให้บริการเครือข่ายจำนวนมากที่ถือครองคลื่นความถี่ทั้งในย่าน1800 MHz และ 900 MHz จากการโยกย้ายผู้ใช้ในระบบ 2G สู่ 3G หรือ 4G ก็ตาม ผู้ประกอบการเหล่านี้จะเฝ้ามองการพัฒนาเทคโนโลยี LTE-Advanced บนคลื่นความถี่ย่านนี้ ในประเทศออสเตรเลียด้วยความสนใจ
นอกจากนั้นแล้ว อีริคสันยังให้การสนับสนุนการใช้เทคโนโลยี LTE-Advanced Carrier Aggregation บนคลื่นความถี่ย่านต่างๆ ในประเทศอื่น เช่น เกาหลีใต้โดยเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม อีริคสันได้ให้การสนับสนุนแอลจียูพลัส (LG U+) ผู้ให้บริการเครือข่ายในประเทศเกาหลีใต้ ในการเปิดตัวเครือข่ายเชิงพาณิชย์บนเทคโนโลยี LTE-Advanced ในคลื่นความถี่ย่าน 2100 MHz และ 850 MHz อีกด้วย
*** ไอที ซิตี้ เปิดตัวแบตสำรองพกพา Energizer รุ่น XP6000 จำนวน 2 รุ่น
ไอที ซิตี้ เปิดตัวแบตสำรองพกพา Energizer 2 รุ่น คือ XP6000M (Built in Micro USB Connector) และ XP6000A (Built in MFI iPhone 5 lightning) เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่มักพกพาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตัวเสมอ เนื่องจากผลิตภัณฑ์รุ่นนี้ มีน้ำหนักเพียง 155 กรัม ดีไซน์บางเฉียบ พกพาได้สะดวก มี 2 สีให้เลือกคือสีขาวและสีดำ ด้วยขนาดความกว้างเพียง 65.9 มิลลิเมตร ความยาวเพียง 95.9 มิลลิเมตร และหนาเพียง 10 มิลลิเมตร สามารถชาร์จอุปกรณ์ไอทีได้นานถึง 500 ครั้งและสำรองพลังงานได้มากถึง 6,000 mAh ใช้เวลาชาร์จพลังงานเพียง 3-5 ชั่วโมง ทำให้เติมพลังให้กับอุปกรณ์ไอทีได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังชาร์จไฟให้แก่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้ 2 เครื่องในเวลาเดียวกัน โดยมีไฟ LEDแสดงปริมาณพลังงานคงเหลือและสถานะการชาร์จให้เห็นอย่างชัดเจน
XP6000M Micro USB ราคาเพียง 2,790 บาท และรุ่น XP6000A iPhone5 (MFI) ราคา 3,090 บาท สามารถใช้ได้กับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้ทุกชนิด ทั้งโทรศัพท์เคลื่อนที่,สมาร์ทโฟน, เครื่องเล่น MP3 Player , Bluetooth , เซลล์โฟน, GPS , Gaming, iPhone ทุกรุ่น (ก่อนเลือกใช้ เช็กรุ่นก่อนทุกครั้ง) รับประทานยาวนานถึง 3 ปี
*** เอซุส M51AC เดสก์ท็อปพีซีประสิทธิภาพเหนือพิกัด
ASUS M51AC-TH006D เดสก์ท็อปพีซีรุ่นใหม่ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Core i5/i7 เจนเนอเรชั่นที่ 4 เวอร์ชั่นล่าสุด ที่สามารถประมวลผลและเล่นไฟล์มัลติมีเดียต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยกราฟิกส์การ์ด ทรงพลังอย่าง NVIDIA GeForce GTX 650 และระบบ 3D Vision Surround ให้การเล่นเกมแบบ 3 มิติเป็นไปได้อย่างสุดมันส์ สามารถต่อพ่วงเข้ากับจอมอนิเตอร์ได้พร้อมกันถึง 3 จอในการเล่นเกมแต่ละครั้ง มาพร้อมระบบเสียง ASUS SonicMaster ลิขสิทธิ์เฉพาะจากเอซุส พร้อมซอฟต์แวร์ปรับจูนเสียง ASUS AudioWizard ช่วยยกระดับประสบการณ์ความบันเทิงให้เปี่ยมอรรถรสขึ้นไปอีกขั้น ภายใต้รูปลักษณ์เรียบง่ายสวยงาม ด้วยรูปทรงที่กระทัดรัดที่มีผิวสัมผัสพิเศษที่สามารถกันรอยนิ้วมือบริเวณหน้าเคสได้เป็นอย่างดี
***เอชพี เผยโฉมเครื่องพิมพ์ HP Officejet 7610 Wide Format e-All-in-One
HP Officejet 7610 Wide Format e-All-in-One เครื่องพิมพ์ออลอินวัน ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างสรรค์สื่อสิ่งพิมพ์หน้ากว้างแบบไร้ขอบ ที่มีคุณภาพระดับมืออาชีพได้ด้วยตนเองในราคาสุดประหยัด พร้อมการทำสำเนา สแกน และรับส่งแฟกซ์ได้อย่างง่ายดายในเครื่องเดียว เครื่องพิมพ์ HP Officejet 7610 Wide Format e-All-in-One เหมาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รวมทั้งหน่วยงานย่อยในองค์กร ด้วยการรองรับกระดาษได้สูงสุดถึงขนาด A3 พร้อมฟังก์ชั่นทำสำเนา สแกน และรับส่งแฟกซ์อย่างครบครัน ที่สำคัญยังสามารถสั่งพิมพ์งานได้จากทุกที่ ด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์แบบไร้สายล่าสุด HP ePrint2 และ HP wireless direct printing7 จึงเพิ่มความคล่องตัวในการใช้งานสำหรับผู้ใช้หลายคน เครื่องพิมพ์ HP Officejet 7610 Wide Format e-All-in-One มีจำหน่ายแล้ววันนี้ ในราคา 9,790 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
***โซนี่ ส่ง Xperia Z Ultra สมาร์ทโฟนหน้าจอ 6.4 นิ้วบุกตลาด
บริษัท โซนี่ ไทย ส่ง Xperia Z Ultra (เอ็กซ์พีเรีย ซี อัลตร้า) หน้าจอใหญ่ 6.4 นิ้ว ตัวเครื่องบางเพียง 6.5 มิลลิเมตร น้ำหนักแค่ 212 กรัม และสามารถกันน้ำได้ตามมาตราฐาน IP58 โดยสามารถกันน้ำได้ 1.5 เมตร นานถึง 30 นาที พร้อม Triluminos Display and X-Reality for mobile 16 ล้านสี ความละเอียด Full HD 1920 x 1080 พิกเซล หน้าจอผลิตจากกระจก Tempered Glass ชูจุดเด่นที่รองรับการขีดเขียนหน้าจอด้วยดินสอไม้ สามารถสั่งงานหน้าจอได้อย่างตรงจุด หรือวาดรูป บันทึกโน้ตด้วยลายนิ้วมือ ทำงานด้วยระบบประมวลผลเร็วสูงสุด 2.2GHz Qualcomm Snapdradon 800 Quad core บนระบบปฏิบัติการ Android 4.2 Jelly Bean หน่วยความจำเครื่อง16GB แรม 2 GB ตัวเครื่องยังรองรับ microSD ถึง 32 GB และรองรับ 3G ทุกเครือข่าย บนระบบ GSM Quad-band และ UMTS HSPA+ ความเร็ว(download) 42 Mbps (850/900/1700/1900/2100 MHz)
Xperia Z Ultra ยังมาพร้อมกล้องความละเอียดสูง 8 ล้านพิกเซล เปิดประสบการณ์ใหม่ ถ่ายได้ทั้งใต้น้ำ บนบก และในที่ๆ มีแสงน้อยด้วยเทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะ Sony Exmor RS for mobile & HDR Video ที่ช่วยให้ภาพถ่ายมีสีสันสดใส มาพร้อมโหมดถ่ายภาพ Superior auto, Scene Selection, Burst mode, Picture Effect, Touch Focus โฟกัสเฉพาะจุด ถ่ายภาพรวดเร็วมากขึ้น บันทึกภาพเคลื่อนไหวแบบ Full HD ขนาด 1080p พร้อมโหมด HDR เชื่อมต่อไร้สายได้อย่างอิสระ ด้วย Wi-Fi, Bluetooth 4.0, aGPS , USB high speed 2.0 รองรับ DLNA (Digital Living Home Alliance) และพอร์ต HDMI via MHL ให้มากขึ้นด้วยความสามารถ Screen Mirroring ส่งภาพขึ้นหน้าจอขนาดใหญ่ หรือ NFC ( Near field communication) การส่งข้อมูลระยะใกล้ เพียงแตะก็เชื่อมต่อ สนุกได้อีกกับ Social Network ไม่ว่าจะถ่ายแล้วแชร์ ผ่าน YouTube หรือหาคำโดนๆ แล้วโพสต์บน Facebook ตามติดข่าวฮิปๆบนTwitter หรือคุยกันแบบเห็นหน้าด้วย Google talk หรือจะแชทหากันใน Line โทร.ข้ามประเทศกับ skype หรือแต่งภาพสวยๆ แล้วแชร์บน IG อีกทั้งยังสามารถจัดเก็บข้อมูลไว้บนเซิฟเวอร์ของ Box ได้ฟรีถึง 50GB เฉพาะลูกค้า Sony เท่านั้น
Xperia Z Ultra ราคา 21,990 บาท ตัวเครื่องมี 2 สี คือ สีดำ และ สีขาว
