3 ธันวาคม ปี 1992 โปรแกรมเมอร์ชาวอังกฤษทดลองส่งข้อความสั้นผ่านเทคนิกที่ถูกเรียกชื่อว่า Short Messaging Service จากเมือง Newbury, Berkshire โดยทดลองส่งข้อความว่า “Merry Christmas.” จากคอมพิวเตอร์พีซีไปยังโทรศัพท์มือถือของพนักงานบริษัท Vodafone โอเปอเรเตอร์ชื่อดังของโลก
นี่เองเป็นจุดเริ่มต้นของบริการ SMS ซึ่ง Vodafone นำไปต่อยอดและขยายบริการจนเป็นช่องทางการสื่อสารที่ง่ายและสนุกสนานในวงกว้าง โดยนับจากปี 1992 เท่ากับขณะนี้ บริการ SMS ที่ถูกใจคนไทยหลายคนนั้นมีอายุสิริรวม 20 ปีพอดี
โปรแกรมเมอร์รายนั้นมีชื่อว่า Neil Papworth มีตำแหน่งเป็นวิศวกรทดสอบของบริษัท Sema Group วัย 22 ปีในขณะนั้น โดยข้อความ SMS แรกของโลกถูกส่งจากเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีไปยังโทรศัพท์มือถือรุ่น Orbitel 901 ของ Richard Jarvis พนักงาน Vodafone ซึ่งได้รับการบันทึกว่าเป็นคนแรกของโลกที่ได้รับข้อความ SMS
อย่างไรก็ตาม โลกต้องใช้เวลานานกว่า 7 ปีกว่าบริการ SMS จะเริ่มให้บริการเต็มตัว โดยข้อมูลขณะนี้ ระบุว่าข้อความมากกว่า 8 ล้านล้าน SMS นั้นถูกส่งข้ามอากาศต่อปี ที่น่าสนใจคือ ผู้ส่ง SMS ส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 18-25 ปี ซึ่งส่งข้อความ SMS เฉลี่ยมากกว่า 133 ข้อความต่อสัปดาห์ (ต่อราย)
อย่างไรก็ตาม SMS ต้องใช้เวลากว่าจะสามารถแพร่หลายในตลาดโลก โดยเฉพาะในยุคที่ค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ยังสูง และเพจเจอร์สามารถครองตลาดการสื่อสารได้ กระทั่งช่วงที่ค่าบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เริ่มลดลง ผู้ใช้จึงเริ่มเห็นว่าการส่งข้อความ SMS เป็นช่องทางการสื่อสารที่สะดวกสบายและประหยัดกว่าการโทรศัพท์ และสะดวกกว่าการส่งข้อความทางเพจเจอร์
อย่างไรก็ตาม วันนี้วงการ SMS กำลังอยู่ในช่วงขาลง เพราะการตีตลาดของแอปพลิเคชันรับส่งข้อความแชตบนสมาร์ทโฟนที่กำลังมีอิทธิพลเหนือ SMS อย่างเห็นได้ชัด รวมถึงอิทธิพลของเครือข่ายสังคมอย่างเฟซบุ๊ก (Facebook) และทวิตเตอร์ (Twitter) ซึ่งเปิดทางให้ผู้ใช้สามารถรับส่งข้อความได้แบบทันใจ
หนึ่งในสถิติที่สะท้อนการลดลงของ SMS อย่างเห็นได้ชัดคือตัวเลขจากประเทศอังกฤษ โดยการสำรวจพบว่าชาวอังกฤษมีการส่ง SMS 3.91 หมื่นล้านข้อความในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา ก่อนจะลดลงเหลือ 3.85 หมื่นล้านข้อความในไตรมาส 2 ซึ่งภาวะการชะลอตัวของตลาด SMS ช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ (2012) ถือว่าแตกต่างมากเมื่อเทียบกับยอดส่ง SMS จำนวน 3.97 หมื่นล้านเหรียญในช่วงไตรมาสปลายปี 2011
สุขสันต์วันเกิดนะจ้ะ SMS