หลังจากสามารถชิงส่วนแบ่งตลาดโทรศัพท์มือถือและสมาร์ทโฟนอันดับ 1 ได้ด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ (Android) ของกูเกิล วันนี้ซัมซุงกำลังวางเดิมพันใหม่ไว้กับการใช้ระบบปฏิบัติการของไมโครซอฟท์อย่างวินโดวส์ (Windows)
ซัมซุงยึดเบอร์ลินเป็นพื้นที่โชว์ตัวกองทัพสินค้าที่จะตีตลาดในช่วงครึ่งปีหลังปี 2012 โดยยกพลสินค้ามาแสดงในงาน IFA 2012 ตั้งแต่วันที่ 31 ส.ค. -2 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยเปิดตัวสินค้าตระกูล ATIV (มาจาก VITA แปลว่าชีวิต) ยกชุด ทั้งแท็บเล็ต 10.1 นิ้วที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows RT, สมาร์ทโฟนหน้าจอ 4.8 นิ้วระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8 และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กบางเฉียบรวมถึงคอมพิวเตอร์กึ่งแท็บเล็ตซึ่งจะเริ่มวางจำหน่ายภายในปีนี้ โดยยังไม่มีข้อมูลกำหนดการจำหน่ายและราคา
ทั้งหมดนี้ซัมซุงยืนยันว่าเป็นไปตามพันธกิจ ที่จะต้องนำเสนอทางเลือกบนแพลตฟอร์ม Windows 8 แก่ผู้บริโภคทั่วโลก
ที่ผ่านมา ซัมซุงยืนข้างระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ และร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กันจนสามารถดึงส่วนแบ่งการตลาดจากแอปเปิลได้สำเร็จทั้งในตลาดสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต แต่คำตัดสินคดีของศาลสหรัฐฯ ทำให้โลกรู้สึกว่า ผู้ใช้แอนดรอยด์ในสหรัฐฯกำลังตกที่นั่งกลุ่มเสี่ยง ซึ่งอาจจะต้องใช้งานสินค้าที่ถูกตัดความสามารถบางอย่างไป
ในเวลาเช่นนี้ ซัมซุงจึงถูกมองว่ากำลังเปลี่ยนเกียร์ไปหาวินโดวส์หลังจากพ่ายแพ้แอปเปิลในศาลสหรัฐฯ โดยงาน IFA ที่จัดช่วงต้นเดือนก.ย.นี้คิดเป็นเวลาเพียง 1 สัปดาห์หลังจากศาลสหรัฐฯออกคำสั่งให้ซัมซุงจ่ายค่าเสียหายแก่แอปเปิลเป็นเงินจำนวน 1.05 พันล้านเหรียญสหรัฐ ฐานละเมิดสิทธิบัตรของแอปเปิลในการพัฒนาและจำหน่ายสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตตระกูลแกแล็กซี่บางรายการ
จุดนี้นักวิเคราะห์บางรายเชื่อว่าอาจเป็นเพราะซัมซุงต้องการกระจายความเสี่ยงด้วยการลดการผูกติดกับกูเกิล จึงเริ่มต้นเสริมความแข็งแกร่งให้กับสินค้าตระกูลวินโดวส์ของตัวเอง ทำให้โลกเห็นทิศทางการให้ความสำคัญกับระบบปฏิบัติการของไมโครซอฟท์มากขึ้น
นักวิเคราะห์นั้นเชื่อว่าซัมซุงจะสามารถขยายตลาดได้ดีด้วยแพลตฟอร์มวินโดวส์ ที่ผ่านมา ยอดจำหน่ายสินค้าตระกูลวินโดวส์นั้นไม่หวือหวาภายใต้ปีกของโนเกีย ขณะเดียวกัน การชิงเปิดตัวสินค้าตระกูลวินโดวส์ครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นการตัดหน้าโนเกียด้วย ซึ่งมีแผนจัดงานใหญ่ที่นิวยอร์กกับไมโครซอฟท์วันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา
เรื่องนี้มีนัยสำคัญ เพราะโนเกียนั้นเซ็นสัญญารับเงินพิเศษจากไมโครซอฟท์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์วินโดวส์โฟน นักสังเกตการณ์จึงหวังว่าโนเกียจะเป็นบริษัทแรกที่เปิดตัวสินค้าตระกูล Windows 8 อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ยังมองว่าการชิงเปิดตัวครั้งนี้มีนัยสำคัญต่อไมโครซอฟท์ด้วย นั่นคือความกังวลว่าลำพังโนเกียรายเดียว อาจจะสู้กับแอปเปิลไม่ได้ในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งเป็นเวลาที่ไอโฟนรุ่นใหม่จะเปิดตัว
สิ่งที่เกิดขึ้นคือซัมซุงกลายเป็นอีกหนึ่งพันธมิตรหลักของไมโครซอฟท์ อย่างไรก็ตาม หลายคนเชื่อว่าการจับมือระหว่างซัมซุงและไมโครซอฟท์จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับสายพันธุ์วินโดวส์ในระยะยาว เนื่องจากในระยะสั้น ตลาดสมาร์ทโฟนวินโดวส์จะยังมีความต้องการที่จำกัดอยู่
ที่ผ่านมา แอนดรอยด์สามารถทำให้ซัมซุงมีอิทธิพลอย่างมากในตลาดสมาร์ทโฟน โดยยักษ์ใหญ่แดนกิมจิสามารถครองแชมป์ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับ 1 ซึ่งจัดส่งสมาร์ทโฟนได้มากที่สุดตลอดปีนี้เหนือแอปเปิลและโนเกีย โดยตัวเลขจากไอดีซีระบุว่า ซัมซุงนั้นมีส่วนแบ่งการตลาดสมาร์ทโฟนราว 32.6% ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2012 นำหน้าแอปเปิลที่มี 16.9% และโนเกียที่มี 6.6%
อย่างไรก็ตาม แอนดรอยด์ไม่สามารถเป็นอาวุธให้ซัมซุงโกยส่วนแบ่งตลาดแท็บเล็ตได้เต็มที่ โดยแท็บเล็ตยอดฮิตอย่างไอแพดของแอปเปิล (Apple iPad) นั้นมีส่วนแบ่งตลาดแท็บเล็ตโลกถึง 68.2% ขณะที่ซัมซุงมีเพียง 9.6% เท่านั้น
การไม่สามารถเจาะตลาดแท็บเล็ตโลกได้อาจจะเป็นบทเรียนสอนซัมซุงว่าไม่ควรหวังพึ่งพาไมโครซอฟท์เหมือนที่เคยพึ่งพาแอนดรอยด์ จุดนี้ซัมซุงจึงนำปากกาสไตลัส S-Pen มาเสริมความแข็งแกร่งให้กับแท็บเล็ตสายพันธุ์วินโดวส์ 8 ด้วย ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ทำให้สินค้าของซัมซุงแตกต่างจากแท็บเล็ตวินโดวส์ 8 รุ่นอื่นๆ
ปากกา S-Pen นั้นจะวางจำหน่ายพร้อมแท็บเล็ตลูกผสมคอมพิวเตอร์พีซีในชื่อรุ่น ATIV Smart PC และ Smart PC Pro ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมหน้าจอ 11.6 นิ้ว สามารถดึงหน้าจอออกเป็นแท็บเล็ต และสามารถเสียบกับคีย์บอร์ดเพื่อใช้งานในรูปพีซีได้ แบตเตอรี่ 13.5 ชั่วโมง ขณะที่ Smart PC Pro สามารถใช้งานได้ 8 ชั่วโมง
ตัว ATIV Smart PC จะบางและเบากว่า Smart PC Pro เล็กน้อย รุ่น Smart PC มีขนาด 11.96 x 7.5 x 0.38 นิ้ว น้ำหนัก 26.4 ออนซ์ ขณะที่ Smart PC Pro มีความสูงและยาวเท่ากันแต่มีความหนากว่าที่ 0.46 นิ้ว น้ำหนัก 31.2 ออนซ์
นอกจากนี้ ซัมซุงยังเปิดตัวแท็บเล็ต ATIV Tab ขนาดเครื่อง 10.4 x 6.6 x 0.35 นิ้วน้ำหนัก 20.1 ออนซ์ แท็บเล็ตหน้าจอ 10.1 นิ้วที่มีแบตเตอรี่จุสะใจ 8,200 mAh ถือว่าเหนือกว่าแท็บเล็ตใดๆที่เคยเปิดตัวมา ทั้งหมดออกแบบให้สามารถทำงานกับซอฟต์แวร์วินโดวส์ได้โดยเฉพาะ
ที่น่าสนใจคือ ATIV S สมาร์ทโฟนหน้าจอ 4.8 นิ้วที่มีหน้าจอความละเอียดสูง มาพร้อมชิป 1.5GHz ดูอัลคอร์ซึ่งสามารถทำงานได้บนเครือข่าย HSPA และ 3G ทั้งหมดนี้เชื่อว่าจะวางตลาดไทยภายในปีนี้
ถึงเวลานั้น ทั่วโลกก็จะเริ่มเห็นว่าเดิมพันฝั่งวินโดวส์ของซัมซุงครั้งนี้จะออกหัวหรือก้อย.
