หลังจากซัมซุงเปิดตัว Galaxy Note รุ่นแรกในปี 2011 ด้วยรูปทรง"โทรศัพท์ไม่ใช่ แท็บเล็ตไม่เชิง"บนหน้าจอขนาก 5.3 นิ้ว วันนี้ซัมซุงเปิดตัวผลิตภัณฑ์ตระกูล Note รุ่นใหม่ล่าสุดโดยขยายหน้าจอเต็มตา 10.1 นิ้วพร้อมกับเพิ่มปากกาสไตลัสเพื่อความสะดวกในการเขียน เบื้องต้น Galaxy Note 10.1 จะรองรับเฉพาะเครือข่ายไว-ไฟ (Wi-Fi-only) และทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 4.0 ส่วนไทยจะวางจำหน่ายรุ่น 3G + Wi-Fi ในปลายเดือนนี้
ทั้งหมดนี้ Note 10.1 จะเริ่มจำหน่ายในสหรัฐอเมริกา และหลายประเทศในยุโรปรวมถึงอังกฤษตั้งแต่สัปดาห์นี้ ราคาเริ่มที่ 500 เหรียญ (สำหรับรุ่น 16GB) ขณะที่รุ่น 32GB ราคา 549 เหรียญ
ส่วนในประเทศไทย ทางซัมซุงได้ประกาศวางจำหน่าย Galaxy Note 10.1 อย่างเป็นทางการในช่วงวันที่ 30 สิงหาคม ในราคา 21,900 บาท ที่รองรับการใช้งาน 3G + Wi-Fi
Galaxy Note 10.1 นั้นมีรูปร่างบางบนขนาด 10.32x7.1x0.35 นิ้ว น้ำหนัก 1.3 ปอนด์ เบาและใหญ่กว่าแท็บเล็ต iPad รุ่นล่าสุดของแอปเปิล ซึ่งมีขนาด 9.5x7.31x0.37 นิ้ว บนน้ำหนัก 1.44 ปอนด์
รายงานระบุว่า แม้ Galaxy Note จะไม่ได้ถูกโฆษณาว่า "ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ" เหมือนที่เคยโฆษณาสมาร์ทโฟนรุ่นดัง Galaxy S3 แต่ภาพและเสียงทักทายผู้ใช้ใน Galaxy Note 10.1 ซึ่งจะดังขึ้นเมื่อปลดล็อคเครื่องนั้นเหมือนกัน
ครั้งนี้ซัมซุงออกแบบ S Pen ให้มีเหลี่ยมมุม เพื่อป้องกันไม่ให้สไตลัสหล่นจากโต๊ะ แถมยังช่วยให้ผู้ใช้ Galaxy Note 10.1 เสียบปากกาสไตลัสเข้าที่ได้ตรงตามเหลี่ยมมุมอย่างชาญฉลาด
ในขณะที่คู่แข่งอย่างเลอโนโวจัดวางตำแหน่งเก็บปากกาสไตลัสของ Tablet 2 ในจุดที่เห็นได้ง่าย แต่ซัมซุงเลือกจะเก็บปากกา S Pen ไว้ที่มุมล่างซึ่งต้องสังเกตให้ดีจึงจะเห็น จุดนี้ซัมซุงระบุว่าเป็นการวางตำแหน่งตามความถนัดในการหยิบใช้
Galaxy Note 10.1 เปิดให้ผู้ใช้เลือก 5 รูปแบบลายเส้นอย่างเสรีเพื่อประสบการณ์เขียนบนหน้าจอที่ดีที่สุด ตัวแท็บเล็ตมีซอฟต์แวร์เทคโนโลยีวิเคราะห์ลายมือ ซึ่งยังไม่สมบูรณ์เต็มที่ในขณะนี้
ซัมซุงและอโดบี (Adobe) ร่วมกันสร้างโปรแกรมแต่งภาพ Photoshop เวอร์ชันพิเศษเพื่อทำงานบน Galaxy Note 10.1 โดยเฉพาะ คุณสมบัตินั้นอาจไม่เต็มที่เท่ากับโปรแกรมเวอร์ชันทางการ แต่ก็ทำให้ผู้ใช้สามารถตกแต่งภาพได้ตามต้องการ เช่น การลบภาพพื้นหลัง เป็นต้น
โปรแกรมแต่งภาพ Photoshop เวอร์ชันพิเศษนี้ถูกตั้งชื่อว่า Photoshop Touch มีคุณสมบัติเบื้องต้นสำหรับการตกแต่งภาพถ่ายครบถ้วน
ผู้ใช้สามารถเลือกติดตั้งแอปพลิเคชันและ widgets บนหน้าโฮมสกรีนได้ตามปกติ สามารถลากแอปพลิเคชันใดก็ได้ที่ต้องการเข้าถึงอย่างรวดเร็ว
ส่วนบนสุดของ Note 10.1 เป็นที่เสียบหูฟัง และยังมีช่องเสียบการ์ด microSD ซึ่งรองรับความจุสูงสุด 64GB พร้อมกับปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง
จุดเด่นของ Note 10.1 คือการเปิดทางให้ผู้ใช้สามารถเปิด 2 แอปพลิเคชันเพื่อใช้งานพร้อมกัน 2 หน้าต่าง ผลคือผู้ใช้สามารถแบ่งครึ่งหน้าจอ แล้วเปิดแกลเลอรี่ภาพคู่กับอินเทอร์เน็ตเบราว์เซอร์เพื่อท่องเว็บไปพร้อมกัน คุณสมบัตินี้คาดว่าจะมีประโยชน์มากในการจดบันทึกเนื้อหาจากข้อความหรือวิดีโอที่ชม ซึ่งทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องการกระดาษเพิ่มเติม
อุปกรณ์เสริมสำหรับ Galaxy Note 10.1 ที่จะวางขายต่างหากนั้นประกอบด้วย Book Cover ปกแข็งแรงที่จะปกป้องตัวแท็บเล็ตและสามารถเป็นขาตั้งวางเครื่องได้ในตัว
ภายใน Book Cover มีแม่เหล็กที่ทำให้สามารถจัดวาง Galaxy Note 10.1 ได้ 2 รูปแบบ
อุปกรณ์เสริมยังมี Universal Desk Dock หรือแท่นชาร์จพลังงานที่สามารถแปลงร่างเป็นแท่นวางตั้ง Galaxy Note 10.1 ได้ ทำให้ผู้ใช้สามารถชมภาพจาก Galaxy Note 10.1 ในขณะชาร์จได้
อีกจุดที่น่าสนใจคือ Note 10.1 มาพร้อมเทคโนโลยีอินฟราเรด ทำให้ Galaxy Note 10.1 สามารถทำงานเป็นรีโมทคอนโทรล์ยักษ์ได้
Note 10.1 นั้นจะมี 2 สีให้เลือกคือขาวและเทา กล้องดิจิตอลด้านหลัง 5MP และด้านหน้า 1.9MP เพื่อการทำวิดีโอคอลสุดคมชัด
ขอบคุณภาพจาก eWeek
Company Related Link :
Samsung