องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (NASA) หรือนาซ่า ยอมรับว่าถูกนักเจาะระบบคอมพิวเตอร์ลักลอบเข้าขโมยข้อมูลบุคลากรและโครงการภารกิจถึง 13 ครั้งเมื่อปี 2011 ที่ผ่านมา สื่ออเมริกันจวกยับว่าการยอมรับครั้งนี้สะท้อนปัญหาการรักษาความปลอดภัยที่ร้ายแรงของหน่วยงานสหรัฐฯซึ่งอาจเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต
สำหรับการเจาะระบบครั้งล่าสุด นาซ่าระบุว่าพบร่องรอยการเจาะระบบในช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยมีหลักฐานเป็นหมายเลข IP หรือ Internet Protocol address จากประเทศจีนที่พยายามลักลอบเจาะระบบเข้าสู่เครือข่ายของศูนย์ปฏิบัติการด้านการบิน Jet Propulsion Laboratory ของนาซ่า โดยศูนย์ JPL ดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในศูนย์ปฏิบัติการหลักของนาซ่าซึ่งบริหารจัดการอากาศยานกว่า 23 ลำ ที่ถูกใช้ในภารกิจสำคัญอย่างการสำรวจดาวอังคาร และดาวเสาร์ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่นาซ่าระบุว่านาซ่าไม่ได้อยู่เฉยรอการโจมตีของผู้ไม่ประสงค์ดี แต่ได้ดำเนินการเข้ารหัสข้อมูลที่มีความสำคัญเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ประสงค์ร้ายสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลสำคัญ โดยกำลังดำเนินการยกระดับการรักษาความปลอดภัยในศูนย์ต่างๆของนาซ่าอย่างจริงจัง
นอกจากนาซ่า สื่อต่างประเทศยังรายงานการปฏิเสธคำสั่งซื้อ iPad 2 แท็บเล็ตยอดนิยมจากแอปเปิลของกองทัพสหรัฐฯจำนวนมากกว่า 2 พันเครื่องเนื่องจากความกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยแผนดำเนินการดั้งเดิมนั้นกองทัพสหรัฐฯต้องการนำแท็บเล็ตมาใช้ในกระบวนการปรับปรุงข้อมูลการบิน การส่งคำสั่งต่างๆระหว่างหน่วยงาน ซึ่งปรากฏว่าโครงการดังกล่าวถูกยกเลิกไปเพื่อป้องกันปัญหาความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้น