พันธวณิช ชี้ระวัง 'ปากมัน' คนงาบงบน้ำท่วม 1 แสนล้านบาท หากใช้วิธีพิเศษจัดซื้อจัดจ้าง ยันอี-ออกชั่น โปร่งใสกว่ามาก แถมช่วยประหยัดงบ 7-8% ส่วนวิธีพิเศษมีแต่ช่องว่าง รอยโหว่เอื้อการทุจริต คอร์รัปชั่น
พ.อ.รังษี กิติญาณทรัพย์ ที่ปรึกษาประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พันธวณิช กล่าวว่าหลังจากเมื่อวันที่ 7ก.พ.55 ที่ผ่านมาครม.มีมติเบิกจ่ายงบประมาณในการป้องกันน้ำท่วมปี 55 จำนวน 1 แสนล้านบาทโดยให้หน่วยงานต่างๆ นำวิธีพิเศษเข้ามาใช้ในการจัดซื้อจัดจ้างโดยเฉพาะกับโครงการในระยะเร่งด่วนซึ่งถือเป็นการเปิดช่องทางในการทุจริต และคอร์รัปชั่นเนื่องจากขั้นตอนดังกล่าวเป็นไปอย่างรวบรัด ไม่มีการแข่งขัน ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
'เราไม่ได้คัดค้านงบประมาณในการป้องกันน้ำท่วม 1 แสนล้านบาทแต่อย่างใด แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ควรใช้การจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษ เพราะมีช่องโหว่ในการคอร์รัปชั่นมากที่สุด'
โดยมองว่าหากรัฐบาลยังยืนยันที่จะใช้วิธีพิเศษนั้น สุดท้ายจะส่งผลกระทบต่อโครงการที่จะต้องถูกชะลอด้วยเหตุที่มีการฟ้องร้องเรื่องการทุจริต และคอร์รัปชั่น ส่วนของที่ได้มาก็มีราคาแพง คุณภาพต่ำ อีกทั้งงบประมาณก็จะใช้ไม่ได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยสุดท้ายการป้องกันน้ำท่วมในปีนี้อาจจะไม่ทันการณ์ในที่สุด
'เราคาดว่างบประมาณ 1 แสนล้านบาทที่ครม.มีมติให้รัฐบาลนำไปใช้ในการป้องกันน้ำท่วมในปีนี้ อาจจะใช้จริงๆ เพียง 50% เท่านั้นที่เหลือก็อาจจะเป็นการคอร์รัปชั่น'
พ.อ.รังษี กล่าวว่า อยากแนะให้รัฐบาลทบทวนในการนำเงินไปใช้การจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษ เปลี่ยนมาเป็นการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ (อี-ออกชั่น) แทนเพื่อให้เกิดความโปร่งใสตามมาตรฐานสากล โดยเฉพาะขั้นตอนการเสนอราคา และการเจรจาต่อรอง
'อี-ออกชั่น ไม่ได้ช่วยแก้ปํญหาการทุจริต คอร์รัปชั่น 100% แต่เป็นวิธีที่เปิดช่องโหว่น้อยสุดเท่านั้น'
อย่างไรก็ตามแนวทางในการป้องกันการทุจริตนั้นไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลจะต้องเปลี่ยนวิธีจากการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษ มาเป็นวิธีอี-ออกชั่นทั้งหมด แต่ควรที่จะจัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาเสมือนกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI เพื่อเข้ามาดูแล และตรวจสอบตั้งแต่ขั้นตอนการประกวดราคา โดยการกำหนด TOR และราคากลาง ห้ามผู้ค้าฟันกำไรเกิน 20% รวมไปถึงตรวจสอบการรับงานว่าได้สเปกตามที่ต้องการหรือไม่
สำหรับโครงการที่ผ่านมาของรัฐบาลที่เกิดขึ้นจากการจัดซื้อด้วยวิธีพิเศษและเข้าข่ายทุจริตคอร์รัปชั่น อาทิ โครงการจัดซื้อรถเข็นกระเป๋าของ บมจ. ท่าอากาศยานไทยสำหรับสนามบินสุวรรณภูมิ มูลค่า 566 ล้านบาท โครงการรถยุทธวิธีกันกระสุนของกระทรวงกลาโหม มูลค่า 750 ล้านบาท และโครงการจัดซื้อถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสพอุทกภัยของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย มูลค่า 80 ล้านบาท เป็นต้น
โดยโครงการเหล่านั้นล้วนแต่มีการร้องเรียนเรื่องทุจริต และคอร์รัปชั่นทั้งหมด เนื่องจากวิธีพิเศษมีช่องโหว่หลายจุด เช่น ไม่มีการบันทึกหรือบังคับให้เปิดเผยถึงรายละเอียดต่อสาธารณะชนอย่างเป็นระบบ การสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับการจัดซื้อเป็นไปได้ยาก และยังเปิดโอกาสให้ใช้เงื่อนไขพิเศษ ทำให้เกิดการสมยอมราคาได้ง่าย รวมไปถึงขั้นตอนการจัดซื้อเป็นไปอย่างรวบรัด ทำให้ไม่เกิดการแข่งขันด้านราคา ส่งผลให้รัฐอาจจะต้องซื้อสินค้าราคาแพงกว่าราคาตลาด
ด้าน นายมรกต ทวีศรี ผู้อำนวยการฝ่ายการประมูลออนไลน์ภาครัฐ พันธวณิชกล่าวว่า ที่ผ่านมาโครงการภาครัฐใช้การจัดซื้อด้วยวิธีพิเศษเป็นส่วนใหญ่ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ว่าโครงการเหล่านั้นได้ผู้ชนะในการประกวดราคามาอย่างไร
นอกจากนี้แม้จะมีการทักท้วงจากหลายฝ่ายว่าการอี-ออกชั่นต้องใช้เวลานานกว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จหรือมากกว่าการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษถึง 12 วันความเป็นจริงแล้วอี-ออกชั่นสามารถปรับลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นได้ให้เหลือภายใน 3 วันทำการเท่าวิธีพิเศษ รวมทั้งยังพบว่าการนำอี-ออกชั่นมาใช้จะช่วยให้รัฐประหยัดงบประมาณในการจัดซื้อจัดจ้างได้เฉลี่ยปีละ 7-8%
Company Related Link :
พันธวณิช