ข่าวมั่ว"สตีฟ จ็อบส์"ม้วย สะท้อนมุมมืดทวิตเตอร์ !!

Edited - ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา สตีฟ จ็อบส์ (Steve Jobs) ตกเป็นเหยื่อข่าวลือว่าเสียชีวิตเพราะการทวีตข้อความข่าวสารผิดของโปรดิวเซอร์รายการโชว์ออนไลน์ในสถานีข่าว CBSNews.com นอกจากข่าวนี้จะทำให้สำนักข่าวซีบีเอสถูกเสียงวิจารณ์กระหน่ำว่าไม่กรั่นกรองข่าวให้ดี แต่บริการออนไลน์อย่างทวิตเตอร์ (Twitter.com) ก็โดนหางเลขในฐานะบริการที่มีความน่าเชื่อถือน้อยลงไปด้วย

ต้นเหตุของเรื่องนี้คือหนึ่งในทีมงานผลิตรายการออนไลน์ชื่อ "What's Trending" ของสำนักข่าว CBS.com เกิดเข้าใจผิดและทวีตข้อความออกไปว่า "หลายสำนักข่าวรายงานว่าสตีฟ จ็อบส์ ได้เสียชีวิตแล้ว กรุณาติดตามความคืบหน้าต่อไป" ปัญหาคือ สตีฟ จ็อบส์ยังหายใจและรักษาตัวอยู่เช่นเดิม และข้อความรายงานข่าวผิดบนทวิตเตอร์นั้นแพร่หลายและถูกส่งต่ออย่างรวดเร็ว โดยไม่มีการตรวจสอบหรือยืนยันข้อเท็จจริงใดๆ

ทวิตเตอร์นั้นเป็นบริการส่งข้อความสั้นเพื่อตะโกนบอกคนบนโลกออนไลน์ว่ากำลังทำอะไรหรือคิดอะไรในขณะนั้น ความเร็วในการสื่อสารจากคน 1 คนสู่คนหมู่มากทำให้ทวิตเตอร์ถูกนำไปใช้เป็นช่องทางรายงานข่าวสารยุคใหม่ ทั้งในมุมของสำนักข่าวทั่วโลกและบุคคลหรือกลุ่มสังคมที่มีชื่อเสียงทุกเพศทุกวัย โดยชาวออนไลน์สามารถไปสมัครรับข่าวสารจากผู้ใช้ทวิตเตอร์รายอื่นและส่งต่อข่าวสารต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ไปได้แบบไม่รู้จบ

ข่าวมั่วเรื่องการเสียชีวิตของจ็อบส์กลายเป็นไฟลามทุ่งเพราะชาวทวีตไม่รอให้มีการยืนยันก่อน จุดนี้เป็นเพราะความเชื่อถือข้อความทวีตจากชื่อบัญชีหรือแอคเคาต์ @WhatsTrending นี่เองคือจุดอ่อนสำคัญของผู้ใช้งานทวิตเตอร์ ซึ่งกลายเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการปล่อยข่าวสารเท็จอย่างไม่รู้ตัว

เหนืออื่นใด นี่ไม่ใช่บทเรียนสำหรับผู้รับข้อมูลจากทวิตเตอร์ ซึ่งควรต้องมีส่วนรับผิดชอบถึงความถูกต้องของข้อความที่จะส่งต่อหรือรีทวีตด้วย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นยังเป็นบทเรียนสำคัญของสื่อและสำนักข่าว รวมถึงบุคคลสำคัญในสังคมที่ควรท่องให้ขึ้นใจว่า ต้องระวังการใช้งานทวิตเตอร์ให้รัดกุมกว่าเดิม

ซีบีเอสนั้นเข้าขั้น "โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง" เพราะแม้จะเป็นการทวีตฝีมือของทีมสร้างรายการออนไลน์ ไม่ใช่ทีมงานบรรณาธิการข่าวของซีบีเอส แต่ทุกรายงานกลับระบุว่า ต้นตอข่าวผิดนั้นเป็นข้อความที่ส่งมาจาก "ชื่อบัญชีทวิตเตอร์ของซีบีเอส" ทำให้สถานีต้องออกมายอมรับถึงความผิดพลาดในการทวีตข้อความดังกล่าว และขอโทษที่เป็นต้นเหตุทำให้โลกออนไลน์เข้าใจผิดโดยส่งออกข้อความที่ยังไม่ได้ยืนยันความถูกต้อง

และแม้สถานี CBS จะพยายามกู้สถานการณ์ด้วยการทวีตแก้ไขข้อความที่เพิ่งส่งไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านั้น ด้วยการระบุว่ารายงานดังกล่าวไม่มีการยืนยัน แต่ก็ไม่สามารถย้อนเวลาไปลบความจำของชาวออนไลน์ โดยขณะนี้ รายการโชว์ออนไลน์ What's Trending ถูกปลดออกจากเว็บไซต์ของสถานีแล้ว ถือเป็นการตัดสัมพันธ์กับ Shira Lazar ครีเอทีฟและโปรดิวเซอร์ของรายการวัย 28 ปีคนนี้แบบเด็ดขาด ซึ่งไม่น่าแปลกใจในสังคมสหรัฐฯสำหรับบทลงโทษที่เกิดขึ้นต่อกรณีที่ร้ายแรงเช่นนี้

ความเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้ทำให้มุมมืดของทวิตเตอร์ถูกพูดถึงอีกครั้งอย่างกว้างขวาง ภัยจากช่องทางการสื่อสารที่รวดเร็วเกินไปและขาดความกรั่นกรองทำให้หลายฝ่ายหันมา"ลดเครดิต"ทวิตเตอร์ลง แม้จะยอมรับว่าทวิตเตอร์คือบริการที่มีประโยชน์มหาศาล แต่ทุกคนก็ควรรู้และระวังด้านมืดของบริการเครือข่ายสังคมชื่อดังนี้ให้ดี ไม่เช่นนั้นอาจจะต้องรับกรรมออนไลน์ที่ตัวเองไม่ได้ก่อขึ้น (ทั้งหมด)

..สตีฟ จ็อบส์ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร คงอดคิดไม่ได้ว่า "นี่เราตายอีกรอบแล้วหรือเนี่ยะ"..

Company Related Link :