ฟูจิตสึ เดินหน้ารุกตลาดคลาวด์ ดึง 10 ผู้บริหารจาก 5 กลุ่มธุรกิจเดิมช่วยเร่งขยายฐานลูกค้าผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก เผยผลประกอบการทั่วโลกปีที่ผ่านมาพลาดเป้าเล็กน้อยจากเหตุการณ์ภัยพิบัติในประเทศญี่ปุ่น แต่ตลาดประเทศไทยยังเติบโตต่อเนื่องกว่า 12%
นายกิตติพงศ์ วิชัยดิษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ฟูจิตสึ ซีสเต็ม บีสซีเนส (ประเทศไทย) กล่าวถึงการรุกตลาดคลาวด์คอมพิวติงของฟูจิตสึว่าฟูจิตสึได้มีการทุ่มงบประมาณกว่า 1,200 ล้านบาท เฉพาะในภูมิภาคเอเชีย เพื่อลงทุนและพัฒนา คลาวด์ โซลูชัน ให้ตอบโจทย์แก่ลูกค้าแต่ละราย
"ปีนี้เราจะเน้นขยายฐานลูกค้า และเติบโตผ่านโซลูชันใหม่ที่มีเข้ามา พร้อมขยายเข้าไปในธุรกิจที่มีศักยภาพในการใช้ไอที เพื่อร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในการขยายตลาดร่วมกัน"
โดยกลยุทธ์หลักในปีนี้จะเน้นไปที่ 1.การขยายฐานลูกค้าด้วยโซลูชันใหม่ 2. นำโซลูชันเดิมมาขยายในกลุ่มลูกค้าใหม่ และ 3. สร้างโซลูชันใหม่ เพื่อฐานลูกค้าใหม่ ซึ่งทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นบนคลาวด์คอมพิวติงเป็นหลัก โดยมีฐานมาจาก 5 กลุ่มธุรกิจเดิมของฟูจิตสึได้แก่ แพลตฟอร์ม เซอร์วิส, แมเนจ เซอร์วิส, อินฟราสตรัคเจอร์ อินทริเกชัน เซอร์วิส, แอปพลิเคชัน เซอร์วิส และเน็ตเวิร์ก เซอร์วิส
ไบรอัน แฟน รองประธานฝ่ายการตลาดประจำภูมิภาค ฟูจิตสึ เอเชีย กล่าวถึงผลวิจัยของไอดีซี ที่พบว่าปัจจุบันการใช้งานพับบลิคคลาวด์ และไพรเวท คลาวด์ จะมีอัตราการเติบโตประมาณ 5 แสนล้านบาท ในปี 2554 จึงเชื่อว่าธุรกิจคลาวด์จะเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตสูง โดยเบื้องต้นออกคลาวด์โซลูชัน 3 รูปแบบ ลุยตลาดประเทศไทย
"3 โซลูชันหลักที่ ฟูจิตสึจะนำเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย และเชื่อว่าเป็นโซลูชันที่สอดคล้องกับการใช้งานมากที่สุด ได้แก่ ฟูจิตสึ โกลบอล คลาวด์ แพลตฟอร์ม ให้บริการเช่าโฮสต์ที่มีความปลอดภัยระดับเอ็นเตอร์ไพร์ซ ฟูจิตสึ SAP IaaS เป็นระบบที่เข้ามาช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายตามการใช้งานจริง และฟูจิตสึคลาวด์ โปรเฟสชัลแนล เซอร์วิส บริการให้คำปรึกษาในด้านการลงทุน และประยุกต์ใช้ระบบคลาวด์"
ในการทำตลาดช่วงแรก จะเน้นเข้าไปสร้างความพร้อมทางโครงสร้างให้แก่ธุรกิจในประเทศไทยก่อน หลังจากนั้น 6-9 เดือนค่อยเริ่มนำซอฟต์แวร์เฉพาะทางมาเปิดตลาด โดยสิ้นปีคาดว่าจะมีรายได้จาก โกลบอล คลาวด์ แพลตฟอร์ม ราว 50 ล้านบาท รวมกับการปิดดีลจากองค์กรขนาดใหญ่ที่มีงบลงทุน 30-40 ล้านบาท อีก 2-3 ราย
นายกิตติพงศ์ กล่าวถึง ผลประกอบการโดยรวมของฟูจิตสึ ทั่วโลกตามปีงบประมาณ 2553 (ปิดที่สิ้นเดือนมีนาคม 2554) มียอดขายรวม 54,559 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 1,636,770 ล้านบาท) ขณะที่ในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตกว่าปีที่ผ่านมาถึง 12% หรือคิดเป็นผลประกอบการมากกว่า 2,400 ล้านบาท
"เหตุผลที่รายได้รวมทั่วโลกของฟูจิตสึไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ เกิดจากผลกระทบด้านแผ่นดินไหว ทำให้มีการสลับการใช้ไฟฟ้า ส่งผลต่อโรงงานฟูจิตสึ ทั้ง 5 แห่งในญี่ปุ่น "
หากมองในแง่ของรายได้แบ่งตามภูมิภาคฟูจิตสึมีสัดส่วนหลักอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นถึง 65% รองลงมาเป็น ยุโรป 19% เอเชียแปซิฟิก 9% และสหรัฐฯ 7% ขณะที่ถ้าแบ่งตามกลุ่มผลิตภัณฑ์ธุรกิจหลักอยู่ที่เทคโนโลยี โซลูชัน 62% กลุ่มอุปกรณ์พกพา 23% และ ดีไวส์อย่างเซ็นเซอร์และชิปประมาณ 13%
"การเติบโตของฟูจิตสึในประเทศไทย จะมีฐานมาจากกลุ่มธุรกิจญี่ปุ่นที่มีการลงทุนในประเทศไทย ซึ่งมีสัดส่วนถึง 59% และมีอัตราการเติบโตจากปีที่ผ่านมา 29% ขณะที่กลุ่มแอปพลิเคชัน เซอร์วิส เป็นกลุ่มที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดถึง 161% จากการเข้าไปรุกในกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม และไฟแนนซ์"
Company Related Link :
Fujitsu
