ตามไปดูวิถี"มือปืนรับจ้าง"หรือนักรับจ้างต่อคิวยาวซึ่งเริ่มเห็นเจนตามากขึ้นทั้งในสังคมไอทีและสังคมขนม หลังจากอ่านจบคุณจะรู้ว่าอาชีพนี้มีค่าแรงเท่าใด คุณสมบัติบุคลากรอาชีพนี้คืออะไร และกฏทองที่นักต่อคิวทั่วไทยปฏิบัติแล้วได้เงินมีอะไรบ้าง
***ต่อคิว-หิ้วของ อาชีพใหม่ในวงการไอที
บทความโดย ชมพูนุท แก้วเพียงเพ็ญ @noot010
จากกระแสการออกวางจำหน่ายสินค้าตระกูลไอทีจนทำให้เกิดกระแสฟีเวอร์อย่างหนัก ต้องบอกก่อนว่าในเมืองไทยกระแสแบบนี้ไม่ใช่พึ่งจะเริ่มมี แต่เราได้เห็นมาตั้งแต่สมัยของขนม Roti Boy ตอนนั้นคนไทยจำนวนมากต้องไปยืนเข้าแถวเพื่อแย่งชิงเพื่อให้ได้มาซึ่งขนมที่ต้องการลิ้มลอง เช่นเดียวกับสินค้าไอทีบางรุ่นที่ต้องเข้าคิวรอในช่วงแรก
ย้อนไปช่วงยุคทองของโรตีบอย กระแสความต้องการของผู้ชื่นชอบนั้นมีมากจนทำให้มีการขยายสาขาออกไปหลายที่ จากสาขาแรกคือถนนสีลม แต่แล้วเมื่อเป็นที่ต้องการของคนหมู่มากก็เกิดของลอกเลียนแบบออกมา ก็แหมสไตล์ของคนไทยอยู่แล้วคะ ทำรูปร่างได้เหมือน รสชาติใกล้เคียง ที่สำคัญราคาถูกกว่ากันเกือบเท่าตัวนึง
แต่แล้วขนมยี่ห้อนี้ก็หายไปจากกระแสสังคม ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแพทย์ออกมาประกาศเตือนว่าการบริโภคเป็นจำนวนมากอาจทำให้เกิดปัญหาทางสุขภาพตามมา นั่นคือทำให้เกิดคลอเสลเตอรอลสูง อันเป็นสาเหตุที่จะทำให้เกิดโรคหัวใจ โรคเบาหวาน ความดัน มากันครบ ทำให้ความต้องการในสินค้านั้นๆจางหายไป
หลายปีต่อมา จวบจนมาถึงช่วงนี้ที่กระแสของสินค้าไอทีมาแรง จะเห็นได้จากสินค้าตัวแรกที่เป็นที่ต้องการนั้นน่าจะเป็น smartphone ตระกูล apple นั่นเอง น่าจะเริ่มมาแรงตั้งแต่สมัยของ Iphone 3gs เมื่อสินค้าเริ่มเข้ามาและเป็นที่ต้องการไปตามกระแสโลก อันเนื่องมาจากเหตุผลหลายๆประการ รูปลักษณ์ รูปทรง ตลอดจนแอปพลิเคชัน ที่ไอโฟนทำออกมาไม่ใช่เป็นแค่มือถือที่ใช้โทรอีกต่อไป
จนกระแสของไอโฟนดังต่อเนื่องเมื่อทาง Apple ประกาศเปิดตัว Iphone4 ความที่ผู้คนเริ่มเปลี่ยนวิธีชีวิตของตนเองจากการใช้มือถือเพื่อการโทร มาช่วยในการทำงาน อำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสารต่างๆ จนถึงความบันเทิงในวิธีชีวิตของตนเอง กระแสเหล่านี้จึงเป็นตัวเสริมความต้องการสินค้าของตลาดนี้อย่างมาก เมื่อมีการประกาศวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ จึงทำให้ผู้ที่อยากได้มาไว้ในครอบครองไปเข้าคิวกันล่วงหน้าก่อนวันขายอย่างข้ามวันข้ามคืนกันเลยทีเดียว
อย่างที่ทุกคนรู้กัน เมื่อประเทศไทยยังไม่ใช่ประเทศหลักในการวางขายอย่างเป็นทางการของ Apple ผู้ที่อยากได้มาไว้ในครอบครองเป็นคนแรกๆของไทยจึงต้องรอการนำเข้ามาของร้านค้ามือถือเอง ซึ่งในช่วงแรกนั้นราคาเครื่องหิ้วนี้พุ่งกระฉูดจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีราคาถึงห้าหมื่นกว่าบาท และมีคนซื้อแม้จะมีราคาแพงอย่าง"เวอร์"เมื่อเทียบกับราคาขายจริง
แต่แล้วไม่นาน ราคาก็ค่อยๆตกลงเมื่อมีสินค้าถูกหิ้วเข้ามาเป็นจำนวนมาก แล้วราคาที่แพงนั้นทำให้ผู้ที่อยากได้หลายคนซื้อไม่ลงจริงๆ จนเมื่อถึงวันที่ Apple ประเทศไทยประกาศนำเข้ามาขายอย่างเป็นทางการ กระแสความแรงของบรรดาร้านขายมือถือต่างๆเริ่มลดลง แต่กระแสของการโฆษณาของดีลเลอร์เจ้าต่างๆในไทยออกมามากขึ้น เพราะราคาเครื่องพร้อมโปรโมชั่น กับการซื้อผ่านบัตรเครดิต
เนื่องจากการที่การตลาดของ Apple นั้นได้กำหนดให้จำหน่ายได้เมื่อได้รับการแจ้งจาก Apple เท่านั้น จึงมีผู้ไปเข้าแถวรอเป็นจำนวนมาก เหตุการณ์นี้สร้างกระแสแปลกใหม่ให้กับคนไทยไม่น้อย เพราะบริษัทยักษ์ใหญ่ 3 เจ้าของไทย จัดงานเปิดแถลงข่าวเปิดตัวสินค้าและวางจำหน่ายพร้อมๆกัน ส่วนผู้บริโภคจะเลือกซื้อจากเจ้าไหนก็คงขึ้นอยู่กับ เครือข่ายของแต่ละเจ้า
หลังจากวันแรกที่สินค้าจำหน่ายออกไปจนหมด ก็ยังมีผู้ที่พลาดและต้องการจำนวนอีกไม่น้อย ต้องไปทำการจอง สั่งซื้อ ในแต่ละเจ้าของเครือข่าย ซึ่งกว่าจะได้เครื่องก็ไม่สามารถกำหนดได้แน่นอน จนผู้ที่อยากได้จริงๆก็ต้องไปเข้าคิวซื้อที่งานต่างๆ
อย่างงาน TME (Thailand Mobile Expo) ซึ่งเรา (ผู้เขียน) เองก็ไปยืนเข้าแถวมาเหมือนกัน ฝันฝ่าฝูงชนแทบตายกว่าจะได้ แต่ความต้องการของ iPhone ก็ไม่ได้ลดลงไปเลย จนแทบเกิดดราม่าในรายที่ทำการจองเครื่องกับเจ้าหนึ่งโดยต้องวางมัดจำไปก่อนแต่ไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะได้รับเครื่องเมื่อไร
จริงๆก็หลังจากเหตุการณ์ที่ไปเข้าคิวซื้อนี่แหละจึงทำให้เรารู้ว่า มันเกิดอาชีพหนึ่งๆขึ้นมาบนกระแสของความต้องการของมนุษย์เรา นั่นก็คืออาชีพรับจ้างเข้าคิว ซึ่งเป็นอาชีพที่เราเองก็ไม่อาจคาดคิดถึงความเป็นมาและรายได้ที่ได้รับ
จากการรู้จักและสนิทกับเจ้าของร้านขายมือถือคนหนึ่งย่านปิ่นเกล้า จึงได้ทราบถึงการทำงานของอาชีพนี้ ว่าเครื่องจากศูนย์ในไทยคือสินค้าที่ได้รับความนิยมในขณะนั้น โดยในช่วงแรกที่เครื่องค่อนข้างมีจำกัด ทางร้านมีวิธีจัดการคือการจ้างคนไปเข้าคิวในที่ๆมีการจำหน่าย
จากเดิมที่ไม่เคยคิดเลยเริ่มสนใจ ว่ามันมีอาชีพแบบนี้เกิดขึ้นด้วย จึงเริ่มหาข้อมูลต่อไปว่าแล้วค่าจ้างคนละเท่าไร จ้างใคร จ้างอย่างไร คำตอบคือในช่วงแรกที่ความต้องการของคนซื้อมีมาก อย่างช่วงแรกที่นำเข้ามาในไทย ค่าจ้างต่อเครื่องนั้นราว 1,000 บาท และราคาเริ่มลดลงจนงาน TME เหลือเครื่องละ 500 บาท จนในช่วงปัจจุบันที่สินค้าเริ่มสามารถหาได้ในศูนย์ ก็ต้องอาศัยการสนิทกับพนักงานในบริษัทเพื่อโทรมาแจ้งว่ามีเครื่องเข้ามาแล้ว
ผู้ที่รับจ้างไปเข้าคิวนั้นมีหลากหลายกลุ่ม เช่น มอเตอร์ไซด์รับจ้าง แม่บ้าน คนงาน เด็กขายพวงมาลัย ซึ่งเป็นใครก็ได้ที่มีบัตรประชาชนแสดงว่าเป็นคนไทย
เมื่อขณะที่กระแสของ iPhone4 กำลังโด่งดังอยู่นั้น อีกด้านที่เป็นขนมก็มาแรงไม่แพ้กันเลย ก็คือ Kristpy Kream ซึ่งมีสาขาเดียวในไทยที่ห้างหรูย่านกลางเมือง Paragon นั่นเอง คิวยาวมากจนมีผู้เคยเปรียบเทียบว่าแถวของ KK กับ iPhone ใครยาวกว่ากัน
กระแสของโดนัทยี่ห้อนี้ก็ใช่เล่น กว่าจะได้กินนี่ต้องรอกันหลายชั่วโมงแม้ว่าขนมจะผลิตมาอย่างต่อเนื่องแต่ก็ไม่เพียงพอต่อผู้มารอลิ้มชิมรส การที่ต้องเข้าคิวยาวมากก็จะมีบางบริษัทที่ให้แม่บ้าน คนขับรถ จนถึงแมสเซนเจอร์ มาเข้าคิวให้เจ้านาย แต่แล้วช่องทางการทำเงินก็หาได้รอดพ้นเหล่าผู้แสวงหารายได้ไปได้เลย ดังนั้นจึงมีผู้ที่รับจ้างเข้าคิวโดยสนนราคาค่าจ้างแรกๆก็จะเป็นครั้ง ราคาประมาณ 200 บาท เมื่อความต้องการของลูกค้ามีมากขึ้นจากการจ้างเข้าคิว ก็จะมีผู้ที่เข้าคิวไว้แล้ว และนำมาขายในราคาต่อกล่องเพิ่มอีกเท่าตัวนึง ซึ่งนั่นคือค่าจ้างในการเข้าแถวที่เค้าจะได้รับ
พอเมื่อกระแสจางลง โดนัทเริ่มมีวางขายไปทั่ว อนุสาวรีย์ชัย ตามทางเท้า ย่านแหล่งชุมชน ตลาดนัด จนไปถึงตลาดโต้รุ่งหัวหิน บวกกับกระแสเดิมๆที่มีแพทย์เข้ามาเตือนเรื่องการบริโภค จึงทำให้ ณ ปัจจุบันนี้ อาจไม่ได้รับความสนใจเท่าแต่ก่อน คิวไม่ยาว ผู้ที่รับจ้างต่อคิวก็หายไป
แต่กระแสสินค้าไอทีไม่เคยตก ดังเช่น iPad1 และ iPad2 แรงดีไม่มีตกจริงๆ ตอนคราวแรกที่ iPad1 ออกมานั้น เครื่องหิ้วมาราคาก็ห้าหมื่นกว่า จากราคาจริงหน้าเวบ 499$ ค่าจ้างคนเข้าคิวต่อเครื่อง 100$ บวกกับค่าหิ้วของเป็นอีกเท่าตัว ถือว่าแพงมาก ซึ่งผู้ที่ซื้อเข้ามาในรายแรกๆของเมืองไทยก็น่าจะเป็นร้านขายมือถือ
จากที่สอบถาม ทางร้านได้ให้ข้อมูลว่าต้องการให้ลูกค้าประจำของร้านตนได้สัมผัส และรู้ว่าร้านมีการอัปเดทกับสินค้าใหม่ตลอด แต่เมื่อมีการนำเข้ามาอย่างเป็นทางการ ราคาของเครื่องหิ้วก็จะลดลงอย่างมาก
แล้วเมื่อ iPad2 ได้วางจำหน่ายคราวนี้ ประเทศไทยได้นำมาขายในเวลาใกล้เคียงกับสหรัฐฯ ดังนั้นราคาเครื่องหิ้วจึงไม่ค่อยจะแตกต่างจากราคาที่วางจำหน่ายจริงมากเท่าไร แต่ก็เช่นเดิมคะ ในรายที่ต้องการเครื่องเป็นคนแรกๆก็ต้องไปต่อคิว
จากที่สังเกต ในการเข้าคิวแรกๆก็จะเป็นผู้ที่ต้องการซื้อเครื่องมาใช้เอง และร้านค้าที่ต้องการเครื่องมาจำหน่ายในช่วงที่สินค้าขาด
จะเห็นได้ว่าเมื่อเริ่มมีกระแสของสินค้าตัวใหม่ๆเข้ามา ถ้าเจ้าของ product ทำการตลาดดีๆ สร้างกระแสของความต้องการในสินค้าเหล่านั้น เมื่อวันที่วางขายสินค้าจริงๆ เนื่องจากสินค้าไม่ได้มีปริมาณเยอะเท่ากับความต้องการ ก็จะต้องใช้วิธีมาก่อนได้ก่อน แต่เพื่อให้มีระเบียบในการจัดสรรสินค้าให้กระจายไปสู่ผู้ที่ต้องการอย่างทั่วถึง ก็ต้องเข้าแถว เข้าคิว ในรายที่มีลูกน้องก็อาจใช้อำนาจให้ลูกน้องมาเข้าคิวแทน แต่ถ้าบ้านๆอย่างเราถ้าไม่ไปเข้าคิวเอง ก็ไม่มีทางทีจะได้
นอกจากต้องไปจ้างคนมาเข้าคิวแทน สนนราคาของสินค้าแต่ละอย่างก็ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายด้าน ความต้องการสินค้า ปริมาณที่มีอยู่ในตลาด ราคาของตัวสินค้าเอง แต่เพื่อนๆสังเกตกันไหมคะว่า ถ้าเราเปรียบสินค้าด้าน IT กับ พวกอาหาร ต้องบอกได้เลยว่า พวกอาหารนี่มาเร็วไปเร็ว อันเนื่องมากจากปัญหาเรื่องสุขภาพ ถ้ากระแสเริ่มดังทีไรก็จะต้องมีแพทย์ออกมาเตือนว่าถ้าบริโภคมากไปจะไม่ดีต่อร่างกาย คนไทยขี้กลัว ก็เลยเลิกกินกันง่ายๆไป แต่พอเป็นสินค้าด้านไอที ความต้องการนี่ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละบุคคล ถ้าสินค้าไม่ได้มีราคาแพงมาก หรือมี option เสริมเช่นสามารถผ่อนได้ ความต้องการก็จะพุ่งสูงทันที
จากที่เห็น สินค้าไอทียังมีความต้องการอยู่เรื่อยๆ เมื่อมีรุ่นใหม่ออกมา คนก็ ขวนขวายหามาใช้ บางคนไว้เพื่อใช้งาน แต่บางคนก็เพื่อแสดงถึงฐานะ หรือ ความทันสมัยของตน ซึ่งอดสงสัยไม่ได้ว่าจะมีกี่คนที่ใช้สินค้าเหล่านั้นได้คุ้มค่าของเงินที่ต้องจ่ายไปจริงๆ
อย่างไรก็ตาม ลู่ทางของอาชีพใหม่นี้ยังเป็นอาชีพที่ไม่แน่นอน รายได้ก็ไม่แน่นอนไปด้วย ส่วนมากก็จะเป็นกลุ่มพวกมอเตอร์ไซด์รับจ้าง แม่บ้าน ผู้ที่ทำอาชีพรับจ้างทั่วไป เด็กนักเรียนนักศึกษา คนขายพวงมาลัยตามท้องถนน จนถึงญาติพี่น้องของคนเหล่านี้ ซึ่งก็ยังไม่สามารถกล่าวได้ว่าเค้าสามารถรวมกลุ่มกันทำเป็นอาชีพที่จริงจังได้ จนถึงมีการติดต่อประสาน เมื่อมีงานได้โดยตรง แต่น่าจะเป็นจากการรู้จักกันเป็นส่วนตัวแล้วชักจูงกันเข้ามา
ดังนั้นนี่จึงเป็นการเปิดมุมมองอาชีพใหม่ที่เกิดขึ้นให้ทุกคนได้รับรู้ แต่ถ้าผู้ใดสนใจอยากจะทำ อาจจะต้องคอยตามกระแสกันสักนิดว่ามีสินค้าตัวใดกระแสแรงๆเข้ามาอีก วิธีที่จะลดความเสี่ยงได้ดีคือการตีสนิทกับร้านขายมือถือเข้าไว้ แล้วคุยกันเป็นการส่วนตัวไปเลยคะ แต่ต้องไม่ลืมว่าสิ่งที่สำคัญและจำเป็นที่สุดของอาชีพนี้คือเวลาและความอดทนเป็นอย่างมาก
จากที่เคยได้ยินมาตลอดว่า"เงินซื้อเวลาไม่ได้"อาจไม่สามารถใช้กับอาชีพนี้ เพราะเงินซื้อเวลาได้จริงๆ