บริษัทวิจัย Futuresource Consulting เผยผลการสำรวจตลาดโทรทัศน์ทั้งในสหรัฐฯและในตลาดโลก มั่นใจยอดจำหน่ายทีวี 3 มิติในแดนลุงแซมจะทะลุ 15 ล้านเครื่องในปีหน้า (2012) ถือเป็นยอดที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดจากเดิมที่พบว่า ยอดจำหน่ายทีวี 3 มิติทั่วโลกในปีนี้ (2011) จะเพิ่มขึ้นเป็น 8 ล้านเครื่อง จากปีที่แล้ว (2010) 4 ล้านเครื่อง
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจที่เกิดขึ้นสวนทางกับการสำรวจของบริษัท Deloitte เมื่อเดือนกันยายน ซึ่งพบว่าผู้บริโภคกลุ่มตัวอย่างมากกว่า 83% ไม่คิดจะซื้อทีวี 3 มิติ
บริษัท Futuresource พบว่าในยอดจำหน่ายทีวี 3 มิติ 8 ล้านเครื่องทั่วโลกที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปีนี้ มีโอกาสสูงที่จะอยู่ในสหรัฐฯราว 5 ล้านเครื่อง โดยบริษัทอธิบายการขยายตัวจากยอดจำหน่ายในสหรัฐฯ 5 ล้านเครื่องเป็น 15 ล้านเครื่องในปีหน้า ว่าจะเป็นเพราะความแพร่หลายของคอนเทนต์ 3 มิติที่หนาตาขึ้นในตลาดอเมริกัน โดยเฉพาะในภูมิภาคอเมริกาเหนือ ซึ่งมีบริการคอนเทนต์ 3 มิติมากกว่า 11 ราย ช่องสถานีภาพ 3 มิติ 2 แห่ง รวมถึงบริการวิดีโอออนดีมานด์มากกว่า 6 บริการที่เริ่มให้บริการตั้งแต่ปลายปี 2010 ที่ผ่านมา
การสำรวจเชื่อว่าการขยายตัวของตลาดทีวี 3 มิติจะส่งผลบวกต่อตลาดค้าแผ่นดิสก์ภาพยนตร์ โดยจากยอดจำหน่ายภาพยนตร์บลูเรย์ 3 มิติที่คิดเป็นสัดส่วนน้อยกว่า 1% ในปีที่ผ่านมา เชื่อว่าตัวเลขจะเพิ่มขึ้นเป็น 25% ได้ในปี 2015 เบื้องต้นคาดว่าภาพยนตร์สามารถทำเงินในตลาดบลูเรย์ดิสก์ 3 มิติมากที่สุดคือ "Harry Potter" และ "Transformers"
สิ่งที่เกิดขึ้นสวนทางกับการสำรวจของ Deloitte โดยในเดือนกันยายนที่ผ่านมา บริษัทพบว่ากลุ่มตัวอย่าง 30% ไม่ยอมรับแนวคิดการสวมแว่นตา 3 มิติ โดย 31% ไม่เชื่อว่าเทคโนโลยี 3 มิติจะสามารถยกระดับประสบการณ์ความบันเทิงได้ และ 13% มองว่าเทคโนโลยีภาพ 3 มิติทำให้การชมภาพยนตร์เป็นไปด้วยความไม่สะดวกสบาย ซึ่งต้องยอมรับว่าแนวโน้มการขยายตัวของตลาดทีวี 3 มิติในนาทีนี้ได้สะท้อนถึงแนวคิดที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคที่รวดเร็วอย่างน่าสนใจ