ประเทศไทยจะมี 3G สักทีก็ดูเหมือนลำบากยากเย็นเสียนี่กระไร หลังไลเซ่นส์ 3G ความถี่ 2.1 GHz ต้องรอคณะกรรมการกสทช.ชุดใหม่มาดำเนินการ ซึ่งยังคาดหวังระยะเวลาไม่ได้ ก็เหลือเพียง 3G ของหน่วยงานรัฐ ที่มีความคืบหน้าให้ชื่นใจและเป็นความหวังของประชาชนผู้อยากใช้บริการ 3G บ้าง
ในส่วนของบริษัท กสท โทรคมนาคม ถือว่าเดินไปไกลแล้ว เพราะเซ็นสัญญากับกลุ่มทรูไปเรียบร้อย หากไม่สะดุดขาตัวเองล้ม ภายในปีนี้น่าจะเห็นบริการ 3G ของทั้ง 2 ค่ายออกมาให้ลองใช้กันว่ารวดเร็วทันใจแค่ไหน
ด้านบริษัท ทีโอที ถือว่าเข้าโค้งสุดท้ายของการประมูลโครงข่าย 3G ทั่วประเทศแล้ว หลังราคาที่ต่อรองกับกลุ่มเอส แอล คอนซอร์เตียม ซึ่งประกอบด้วยสามารถ ล็อกซเล่ย์ หัวเว่ย โนเกีย-ซีเมนส์ ลดเหลือ 16,250 ล้านบาท แต่แว่วว่าตัวเลขยังไม่สวยพอ คาดว่ายังลดลงมาได้อีก ซึ่งน่าจะมีการพิจารณาในบอร์ดทีโอที บ่ายวันที่ 11 ก.พ.นี้ โดยกำธร ไวทยกุล รองกจญ.ที่ดูแล 3G กล่าวยืนยันว่าการดำเนินงานโครงการนี้เป็นไปตามระเบียบพัสดุทีโอทีอยู่แล้ว ส่วนกรณีที่มีการฟ้องศาลปกครองให้คุ้มครองชั่วคราวศาลก็มีคำตัดสินออกมาแล้วว่าไม่คุ้มครอง ซึ่งก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
แต่โครงการหมื่นกว่าล้าน พ่อค้าหน้าไหนก็อยากได้ ทำให้ตอนนี้เกิดกระบวนการเตะตัดขากันวุ่นวายไปหมด ประเภทไม่ยอมรับกฎกติกา ขนาดศาลปกครองกลางไม่คุ้มครองแต่ก็ไม่ยอมหยุด
ในคำสั่งศาลปกครองกลางที่ไม่คุ้มครองกรณีแซดทีอีร้องหรือเป็นผู้ฟ้องคดี ศาลเห็นว่า 'เมื่อข้อเท็จจริงจากการไต่สวนคู่กรณียังไม่ได้ความว่า การที่คณะกรรมการประกวดราคามีคำสั่งให้ผู้ฟ้องคดี ไม่ผ่านการคัดเลือกเบื้องต้นและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้ถูกฟ้องคดี นั้นเป็นเรื่องไม่ชอบด้วยกฎหมาย ประกอบกับเมื่อคำนึงถึงความรับผิดชอบของผู้ถูกฟ้องคดีที่จะต้องจัดให้มีโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 3 เพื่อให้บริการประชาชนอันเป็นบริการสาธารณะกับประโยชน์ของผู้ฟ้องคดีที่จะมีสิทธิเข้าเสนอราคาแล้ว เห็นว่ายังไม่มีเหตุเพียงพอที่ศาลจะมีคำสั่งตามคำขอของผู้ฟ้องคดี จึงมีคำสั่งยกคำขอกำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษาของผู้ฟ้องคดี'
ส่วนกรณีอีริคสันเป็นผู้ฟ้องคดีที่ขอให้ศาลคุ้มครองชั่วคราวให้กระบวนการประมูลเลื่อนออกไปก่อนนั้น ศาลเห็นว่า 'เมื่อพิจารณาเปรียบเทียบระหว่างความเดือดร้อนเสียหายของผู้ฟ้องคดีกับผู้ที่ได้ยื่นเอกสารถูกต้องครบถ้วนรวมทั้งปัญหาอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นแก่การบริหารงานของรัฐ เห็นว่ายังไม่มีเหตุเพียงพอที่จะมีคำสั่งกำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษาตามคำขอของผู้ฟ้องคดีได้ จึงมีคำสั่งยกคำขอกำหนดมาตรการหรือวิธีการคุ้มครองเพื่อบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนการพิพากษาของผู้ฟ้องคดี'
สรุปง่ายๆว่า กรณีแซดทีอี ผิดจริงอุทธรณ์ไม่ขึ้น และประโยชน์สาธารณะของ 3G ทีโอทีมีมากกว่า ส่วนกรณีอีริคสัน เห็นว่ายื่นเอกสารไม่ครบถ้วนจริงและเมื่อเทียบกับความเดือดร้อนคนยื่นเอกสารครบถ้วนและการบริหารงานของรัฐ ศาลท่านเลยไม่คุ้มครอง และให้กระบวนการประมูลเดินหน้าต่อ
แต่วิบากกรรมยังไม่สิ้น แว่วว่ากรรมการบอร์ดทีโอทีบางคนจะอ้างว่า คำสั่งศาลไม่คุ้มครองเท่านั้น แต่ศาลยังไม่ตัดสินออกมา ควรรอให้ศาลพิพากษาก่อน แล้วค่อยเดินหน้าต่อ ซึ่งเข้าใจว่าหากศาลไม่ตัดสินสัก 3 ปี 3G ทีโอทีก็คงเน่าตายอยู่ตรงนั้น และเข้าใจว่าทีโอทีคงมีกรณีตัวอย่างที่เทียบเคียงกันได้ ยกมาให้กรรมการบอร์ดท่านอุ่นใจได้บ้าง ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวคนจะเข้าใจผิดว่าที่ท่านค้านเป็นเพราะรับงานใครมา
นาทีนี้คงต้องลุ้นว่าบอร์ดทีโอทีในวันที่ 11 ก.พ.จะมีมติออกมาอย่างไร จะยอมรับราคาที่ต่อรองลดแล้วลดอีก แล้วยอมให้มีการเซ็นสัญญาหรือไม่ หรือจะรอให้ศาลปกครองกลางพิพากษาออกมาก่อน
อย่าลืมว่ากรรมเป็นเครื่องชี้เจตนานะครับท่าน
Company Related Link :
TOT
