อัสซุสประกาศโต 30-40 % ในปีนี้ หลังปีที่ผ่านมาทำรายได้ 3,500 ล้านบาท เผยโน้ตบุ๊กเป็นยพระเอกคาดโต 100 % ด้านธุรกิจเมนบอร์ดตั้งเป้าเพิ่มมาร์เกตแชร์เป็น 60 % สร้างรายได้ 1,200 ล้านบาท เชื่อตลาดพีซีกลุ่มลูกค้าองค์กรโดยเฉพาะสถาบันการศึกษาหน่วยงานราชการยังโต
นายพรเทพ วัชรอำนวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์(ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ในปีนี้คาดว่าอัสซุสประเทศไทยทั้งกลุ่มจะเติบโตเพิ่มขึ้น 30-40 % จากปีที่ผ่านมา ที่มีรายได้รวมทั้งสิ้น 3,500 ล้านบาท โดยกลุ่มธุรกิจที่เติบโตมากที่สุดคือกลุ่มโน้ตบุ๊กซึ่งคาดว่าจะเติบโตเพิ่มขึ้น 100 % เนื่องจากกลุ่มลูกค้าคอนซูเมอร์ตลาดระดับกลางหันมมาซื้อโน้ตบุ๊กแทนพีซีมากขึ้น
สำหรับธุรกิจเมนบอร์ดในปีนี้บริษัทตั้งเป้ามีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 60% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,200 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาที่มีมาร์เก็ตแชร์อยู่ในตลาดดังกล่าวราว 55% ปัจจุบันบริษัทมีมาร์เก็ตแชร์เป็นอันดับหนึ่งในตลาดเมนบอร์ด ส่วนรองอันดับ 1 และ 2 มีมาร์เก็ตแชร์รายละประมาณ 10%
ทั้งนี้ การเติบโตของบริษัทที่ผ่านมาเป็นผลจากบริษัทมีช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมมทั่วประเทศ โดยในปีนี้บริษัทมีแผนขยายช่องทางจัดจำหน่ายเพิ่มจาก 600 แห่งเป็น 1,000 แห่ง พร้อมการออกสินค้าใหม่ๆ และโปรโมชันส่งเสริมการขายกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มขึ้นตามเป้าหมาย
อย่างไรก็ดี จากการสำรวจของ IDC บริษัทพัฒนาและสำรวจข้อมูลทางไอทีระบุว่า ตลาดโน้ตบุ๊กจะเติบโตเพิ่มขึ้น 15 % ส่วนตลาดพีซีซึ่งมีผลต่อยอดขายเมนบอร์ดนั้นปริมาณการเติบโตอยู่ในระดับทรงตัว เนื่องจากโน้ตบุ๊กได้รับความนิยมมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าตลาดพีซีจะลดต่ำลง เนื่องจากความต้องการตลาดลูกค้าองค์กร หน่วยงานราชการ โรงเรียน ประกอบกับมีผู้ที่มีความต้องการใช้งานเครื่องพีซีศักยภาพสูง เพื่อใช้ด้านกราฟิกและเล่นเกมยังคงเติบโตต่อเนื่อง
“แม้ตลาดคอนซูเมอร์จะหันไปใช้งานโน้ตบุ๊กมากขึ้น แต่ตลาดพีซียังเป็นที่ต้องการของลูกค้าองค์กร โดยเฉพาะสถาบันการศึกษาซึ่งปัจจุบันโรงเรียนระดับประถมศึกษาเริ่มจัดหาพีซีให้นักเรียนใช้งานมากขึ้น และการเติบโตในกลุ่มผู้ใช้งานด้านกราฟิก และเล่นเกมก็ยังมีการเติบโตอยู่”
สำหรับแผนงานทางการตลาดในไตรมาสแรกของปี 2553 อัสซุสมีแผนที่จะเปิดตัวมาเธอร์บอร์ดใหม่อีก 2 ซีรี่ส์ คือ P7H57D Series และ P7H55 Series โดยเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่สามารถรองรับ CPU Intel รุ่นใหม่ได้ ซึ่งกำลังได้รับความสนใจอยู่ในขณะนี้ ทั้ง Intel Core i7, Core i5 และล่าสุด Core i3 ที่ได้พัฒนาขึ้นสำหรับตลาดระดับเริ่มต้น (Entry Level) โดยเฉพาะ เพื่อให้ผู้ใช้อัสซุสได้รับประโยชน์สูงสุดจากแพลตฟอร์ม LGA1156 ที่ใช้ชิปเซ็ต Intel H57 และ H55 จึงถือว่าเป็นสุดยอดของเทคโนโลยีที่สมบูรณ์แบบสำหรับมาเธอร์บอร์ดในปัจจุบัน
นอกจากนี้ ทั้ง 2 ซีรี่ส์ยังมีฟีเจอร์พิเศษอีกมากมาย ทั้ง Xtreme Design ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ, ความปลอดภัย และยืดอายุการใช้งานของเมนบอร์ดได้นานขึ้น และ CPU Level Up ที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพซีพียูได้ง่ายอีกเช่นกันเพียงแค่ “คลิก” เท่านั้น โดยไม่ต้องเปลี่ยนฮาร์ดแวร์หรือลงซอฟต์แวร์เสริม และที่สำคัญยังรองรับเทคโนโลยี USB 3.0 และ SATA 6G ที่ช่วยในการถ่ายโอนข้อมูลด้วยความเร็วสูงขึ้นอีก 10 เท่าเมื่อเทียบกับ USB 2.0
Company Related Links :
ASUSTEK
