คิดจะซื้อ ทำไมต้องรอคอมมาร์ต !?

กลับมาอีกครั้งกับเทรดแฟร์สินค้าไอทีที่วนเวียนจัดขึ้นทุกๆ 3-4 เดือน ซึ่งครั้งนี้จัดเป็นงานส่งท้ายปลายปี โดยงานคอมมาร์ต คอมเทคฯ จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 - 8 พฤศจิกายน 2552 ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่ให้ผู้บริโภคชาวกรุงได้ไปจับจ่ายใช้สอยกันอย่างสนุก จากราคาโปรโมชันและของแถมที่โดนใจจากผู้ค้าคอมพ์แต่ละราย จวบจนมาถึงยุคนี้ค่านิยมดังกล่าวอาจจะถึงจุดอิ่มตัวเมื่อมีกระแสตีกลับออกมาว่า ทำไมต้องรอไปซื้อสินค้าภายในงานดังกล่าว เนื่องจากโปรโมชันที่จัดภายในงานกับร้านค้าตามห้างค้าปลีกไอทีชื่อดังแทบไม่แตกต่างกันมากนัก

หากย้อนกลับไปในอดีต ผู้จัดงานคอมมาร์ตเคยให้ทัศนะเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า การจัดงานแต่ละครั้งนั้นเกิดขึ้นเพื่อให้ความรู้กับผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้าไอที ซึ่งพนักงานขายสามารถให้คำแนะนำแก่ผู้ซื้อได้ตรงตามจุดประสงค์การใช้งาน รวมไปถึงงบประมาณที่ผู้ซื้อมีกำลังทรัพย์ในการจับจ่ายใช้สอยได้นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยให้เวนเดอร์ได้มีโอกาสนำสินค้ารุ่นใหม่ล่าสุดเข้ามาวางจำหน่ายในงานเป็นที่แรก ทั้งนี้ก็เพื่อดึงดูดให้ผู้ที่สนใจเข้าไปจับจ่ายเลือกซื้อสินค้าดังกล่าวภายในงานกันมากขึ้น

ทว่าในปัจจุบันความคาดหวังของเวนเดอร์ต่อการจัดงานคอมมาร์ตนั้นสูงขึ้นกว่าเดิมมาก เพราะต้องการกระตุ้นยอดขายของตนเองให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้แต่ละแบรนด์เริ่มให้ความสำคัญกับโปรโมชันมากขึ้น โดยหันมาเล่นสงครามราคากันอย่างเต็มตัวไม่ว่าจะเป็นเลอโนโว โตชิบา เดลล์ และอัสซุส ที่ตามหลัง 2 แบรนด์หลักอย่างเอเซอร์ และเอชพี ที่ทำกันมานานแล้ว รวมไปถึงการสร้างโปรโมชันดึงดูดผู้บริโภคใจที่ต้องการเสี่ยงดวง เช่น ซื้อสินค้าครบมีสิทธิจับฉลากแลกซื้อสินค้าราคาพิเศษ หรือสินค้าจำนวนจำกัดเฉพาะไม่กี่คนเท่านั้น

ทั้งนี้ ถ้าได้ติดตามข่าวคราวของงานเทรดแฟร์มาโดยตลอดจะพบว่า ในช่วงต้นปีที่ผ่านมามนต์ขลังของคอมมาร์ตเริ่มเสื่อมลงไม่น้อย เพราะหลายๆแบรนด์ต่างนำโปรโมชันในงานคอนมาร์ต มาให้ดีลเลอร์ขายนอกงานได้ทั่วประเทศ ซึ่งถ้ามองในมุมของผู้บริโภคถือว่าได้ประโยชน์เป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถที่จะไปหาซื้อสินค้าได้ตามห้างค้าปลีกไอทีชั้นนำทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมทั้งยังช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเลือกซื้อสินค้าอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม เสน่ห์หลักของงานคอมมาร์ตจริงๆ น่าจะอยู่ที่เป็นงานที่รวบรวมคอมพ์แต่ละแบรนด์มาวางขายภายในพื้นที่เดียวกัน ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่สามารถเปรียบเทียบความคุ้มค่าของประสิทธิภาพต่อจำนวนเงินที่เสียไปได้ง่ายขึ้น

ภายในงานครั้งนี้ก็เช่นเดียวกันผู้ค้าหลายรายต่างต้องการทำยอดเพื่อปิดตลาดคอมพิวเตอร์ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงประจวบเหมาะกับการเปิดตัววินโดวส์ เซเว่นอย่างเป็นทางการพอดิบพอดี และพร้อมที่จะวางจำหน่ายภายในงานนี้เช่นเดียวกัน ทำให้สินค้ารุ่นใหม่ที่จะเข้ามาวางจำหน่ายภายในงาน ต่างขานรับระบบปฏิบัติการใหม่ดังกล่าว โดยจะมาพร้อมกับลิขสิทธ์วินโดวส์ เซเว่น กันอย่างถ้วนหน้า ดังนั้น งานคอมมาร์ต คอมเทค 2009 ครั้งนี้ จึงไม่ต่างกับการเทกระจาดขายสินค้าให้กับผู้บริโภคอย่างเราๆได้เลือกเฟ้นหากันอย่างสนุกนั่นเอง

ในส่วนของผู้บริโภคในเมืองหลวงที่มีความต้องการซื้อคอมพิวเตอร์ และพอจะมีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์อยู่บ้างหรือพร้อมที่จะศึกษา แนะนำให้ไปเดินดูสินค้าภายในงานคอมมาร์ต เพื่อเปรียบเทียบสินค้าของแต่ละแบรนด์ให้ตรงกับจุดประสงค์การใช้งานของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นเน็ตบุ๊ก สำหรับผู้ที่ต้องการคอมพิวเตอร์เครื่องเล็กประสิทธิภาพไม่สูงมากนัก หรือจะเป็นโน้ตบุ๊ก ที่มีให้เลือกในหลายระดับราคาตั้งแต่หมื่นต้นๆ ไปจนถึงหลักแสน

หลังจากเดินดูและเลือกสินค้าที่คิดว่าใช่แล้ว ถ้าไม่ลำบากเกินไปแนะนำให้ไปหาซื้อกับร้านค้าตามห้างค้าปลีกไอทีชั้นนำใกล้บ้านของท่าน เพื่อที่ 1.สามารถตรวจเช็กเครื่องได้อย่างเต็มที่ 2.ไม่ต้องเบียดเสียดผู้คน รวมไปถึงรอคิวเพื่อที่จะลงระบบปฏิบัติการวินโดวส์ฯ และ 3.ในกรณีที่สินค้ามีปัญหาภายใน 7 วัน จะสามารถนำมาเปลี่ยนที่ร้านได้ทันที ถือเป็นการป้องกันโอกาสการเลือกซื้อสินค้ากับร้านที่ไม่รู้จักภายในงาน

สำหรับกระแสของคอมพิวเตอร์ที่มีการเปิดตัวภายในงานคอมมาร์ตครั้งนี้คงหนีไม่พ้นโน้ตบุ๊กประเภทบางเบา แบตเตอรี่อึด จากซีพียูรุ่นใหม่จากค่ายอินเทลอย่าง CULV ที่แต่ละแบรนด์ขนมาประชันกันอย่างตื่นตาตื่นใจ ในราคาที่จับต้องได้ในช่วง 2 หมื่นปลายๆเท่านั้นเอง