เอสเอพีภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น (SAP APJ) ประกาศผลการดำเนินธุรกิจช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2552 ว่ารายได้รวมจากการดำเนินงานทั้งภูมิภาคเพิ่มขึ้น 12% เศรษฐกิจซบเซาแต่อัตราการเติบโตและรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง เอสเอพีประเทศไทยมั่นใจอัตราการเติบโตคึกคักไม่ต่างจากตลาดอื่นๆในภูมิภาค
นายภัทร ยงวณิชย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอพี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบันนั้นไม่ได้ทำให้รายได้ของเอสเอพีลดลง เนื่องจากหลายอุตสาหกรรมยังคงมีความต้องการพัฒนาสายการผลิตของตัวเองให้สามารถแข่งขันได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมรถยนต์ ซึ่งขณะนี้ขยายตัวจนสามารถกลายเป็นแหล่งรายได้ของเอสเอพีประเทศไทยอันดับที่ 3 แล้ว
"รายได้อันดับหนึ่งของเอสเอพีประเทศไทยมาจากภาคการผลิตสินค้าคอนซูเมอร์ ทั้งขนมและเครื่องดื่ม สัดส่วนประมาณ 20-30% อันดับที่ 2 คือกลุ่มค้าปลีก และ 3 คืออุตสาหกรรมเครื่องยนต์ กลุ่มนี้ถึงแม้เศรษฐกิจจะตกลง แต่ก็ไม่ได้ชะลอการลงทุน นอกจากนี้ก็เป็นกลุ่มภาครัฐ ที่เห็นแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่องในอนาคต"
เอสเอพีหรือ SAP นั้นย่อมาจาก Systems, Applications and Products in Data Processing เป็นบริษัทสัญชาติเยอรมันที่ผลิตโปรแกรมจำพวก ERP (Enterprise Resource Planning) สำหรับการวางแผนเพื่อบริหารจัดการทรัพยากรในองค์กรโดยใช้ข้อมูลเช่น รายได้และค่าใช้จ่าย มาคำนวณเพื่อให้สามารถวางแผนการผลิตหรือการดำเนินงานได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ การประกาศผลประกอบการครั้งนี้ เอสเอพีไม่เปิดเผยยอดจำหน่ายที่ทำได้จากประเทศไทย แต่เลือกเปิดเผยผลประกอบการแบบรวมภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นทั้งหมด โดยระบุว่าช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2552 บริษัทมีอัตราการเติบโตทางรายได้จากซอฟต์แวร์และบริการที่เกี่ยวกับซอฟต์แวร์ราว 9% ขณะที่รายได้รวมทั้งหมดมีอัตราการเติบโตราว 12%
สำหรับรายได้จากการดำเนินงาน เอสเอพีภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นไปในทางเดียวกันกับอัตราการเติบโตทางกำไรรวมทั่วโลกของเอสเอพี ซึ่งอยู่ที่ 3.5% ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2552
ภัทรไม่เปิดเผยตัวเลขเป้าหมายกำไรในครึ่งปีหลังนับจากนี้ แต่เชื่อว่าผลประกอบการในไตรมาส 2 ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึงสัญญานฟื้นตัวอย่างเต็มที่
ช่วงครึ่งปีแรกของปี 2552 เอสเอพีระบุว่ามีลูกค้าเพิ่มขึ้นกว่า 7,000 รายทั่วโลก คิดเป็นรายการสั่งซื้อกว่า 17% ของรายการสั่งซื้อทั้งหมด เป็นลูกค้าในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น 2,000 ราย โดยมูลค่าตลาดแอปพลิเคชันบริหารผลการดำเนินงานซึ่งเอสเอพีเรียกว่า enterprise performance management (EPM) นั้นมูลค่าราว 8,370 ล้านเหรียญสหรัฐ จากตลาดซอฟต์แวร์ด้านการวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมด 24,100 ล้านเหรียญสหรัฐทั่วโลก ซึ่งการสำรวจพบว่าเอสเอพีเป็นเบอร์ 1 ในตลาดด้วยส่วนแบ่ง 20.3%
"ครึ่งปีหลังนี้เอสเอพีประเทศไทยจะโฟกัสที่ลูกค้ามากขึ้นกว่าเดิม 2 ปีที่แล้วเราประกาศเลิกจัดงานประชุมขนาดใหญ่ประจำปี แต่หันมาจัดงานประชุมขนาดเล็กที่เน้นให้ความรู้แต่ละอุตสาหกรรม จุดนี้เชื่อว่าจะทำให้เราเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น บนค่าใช้จ่ายที่ใกล้เคียงกัน" ภัทรทิ้งท้าย
Company Related Links :
SAP