ศก.โลกทรุดไม่กระเทือนซอฟต์แวร์ไทย

ซิป้าเผยพิษเศรษฐกิจโลกไม่ส่งผลกระทบซอฟต์แวร์ไทย แต่กลับพบต่างชาติหันมาใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตมากขึ้นเพราะมีค่าแรงต่ำช่วยลดต้นทุนได้เป็นอย่างดี จับมือกรมส่งออกนำผู้ประกอบการไทย 9 รายบุกทำตลาด ฟิลิปปินส์คาดปีแรกทำเงิน 50 ล้านบาท เป้าต่อไปลุยอินโดนีเซีย หลังนำร่องเปิดตลาดเวียดนามได้ผลตอบรับดี ซิป้าเผยปีที่ผ่านมาใช้งบส่งเสริมแค่ 16 ล้านบาท ดึงเงินเข้าประเทศได้กว่า2,200 ล้านบาท

ดร.นิรชราภา ทองธรรมชาติ รองผู้อำนวยการด้านต่างประเทศ สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือซิป้า เปิดเผยว่า สภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่เกิดขึ้นทั่วโลกก่อนหน้านี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทยเหมือนอุตสาหกรรมอื่นๆ  และกลับพบว่าต่างชาติหันมามุ่งให้ความสนใจให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตซอฟต์แวร์มากขึ้นเนื่องจากประเทศไทยมีค่าแรงถูกกว่าประเทศเกาหลี และประเทศในแถบทวีปยุโรป ซึ่งสามารถช่วยลดต้นทุนการผลิตได้
 
สำหรับการเดินหน้าโครงการผลักดันซอฟต์แวร์ไทยออกเจาะตลาดต่างประเทศ นั้นปีผ่านมาซิป้าร่วมกับสำนักงานส่งเสริมธุรกิจบริการ กรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ พาผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทยไปเปิดตลาดซอฟต์แวร์ในประเทศแถบภูมิภาคเอเชีย โดยเริ่มต้นนำร่องที่เวียดนามสามารถสร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 400 ล้านบาท และญี่ปุ่น สามารถสร้างรายได้เข้าประเทศ 20ล้านบาท  

ทั้งนี้เพื่อเป็นการเดินหน้าโครงการต่อเนื่อง ระหว่างวันที่ 17-20 ก.ย.52นี้ ซิป้า จะนำผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทยจำนวน  9 ราย ไปเปิดตัวในตลาดฟิลิปปินส์ซึ่งมีมูลค่าตลาดซอฟต์แวร์สูงถึงปีละ 500 ล้านบาท และคาดว่าในปีแรกซอฟต์แวร์ไทยจะสามารถทำรายได้ 10% หรือราว 50 ล้านบาท

โดยซอฟต์แวร์ที่เลือกไปทำตลาดต่างประเทศที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้ในกลุ่มธุรกิจโรงแรม การบริหารงานก่อสร้าง กลุ่มสถาบันการเงิน และซอฟต์แวร์สำหรับงานบริการ เป็นต้น ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์กลุ่มเดียวกับที่เข้าไปเปิดตลาดในเวียดนาม โดยปลายปีนี้จะขยายสู่ตลาดอินโดนีเซียด้วย

“จุดเด่นของซอฟต์แวร์ไทยคือราคาที่ถูกกว่าซอฟต์แวร์ที่มาจากประเทศในแถบยุโรป และอเมริกา”

สำหรับงบประมาณที่ซิป้าใช้ส่งเสริมผู้ประกอบการซอฟต์แวร์ไทยทำตลาดต่างประเทศ ปี 2551 อยู่ที่ 16 ล้านบาท แต่ได้ผลตอบกลับสามารถดึงเงินเข้าประเทศได้ 2,200 ล้านบาท มีการเซ็นสัญญาว่าจ้างงานแล้ว 30% ของมูลค่าเงิน ซึ่งปี 2552 ซิป้าเพิ่มวงเงินในการทำตลาดต่างประเทศเป็น 30 ล้านบาท คาดว่าจะเพิ่มจำนวนเงินและการเซ็นสัญญาว่าจ้างได้จากปีที่แล้ว 15%

ส่วนอุตสาหกรรมดิจิตอลคอนเทนต์ ซึ่งรวมถึง แอนิเมชั่นและเกม ปลายปีนี้ ซิป้าและกระทรวงวัฒนธรรม มีโครงการลงนามในข้อตกลงร่วมกันกับ 7 ประเทศในแถบอาเซียน ได้แก่ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น และฮ่องกง เป็นต้น เพื่อให้เกิดความร่วมมือในอุตสาหกรรมดิจิตอลคอนเทนต์ของภูมิภาคอย่างจริงๆ เช่น การสร้างภาพยนตร์แอนิเมชัน หรือการสร้างเกมร่วมกัน

นายประมุข มนตริวัต ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมธุรกิจบริการ กรมส่งเสริมการส่งออก กล่าวว่าจากความประสบผลสำเร็จในการนำซอฟต์แวร์ไทยบุกเบิกทำตลาดต่างประเทศด้วยการเปิดตลาดในประเทศเวียดนาม กรมส่งเสริมการส่งออกต้องการให้ผู้ประกอบการไทยเข้าไปรุกทำตลาดต่างประเทศมากขึ้น จึงได้ร่วมมือกับซิป้านำผู้ประกอบการบุกไปทำตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น

Company Related Links :
SIPA