กทม.ร่วมกับไมโครซอฟท์กระจายการเรียนรู้สู่นักเรียนในโครงการ “Microsoft Education Alliance” ผ่านโปรแกรม “Microsoft MultiPoint” ซอฟต์แวร์เพื่อการเรียนรู้อย่างเท่าเทียม และโปรแกรม “Microsoft Accessibility” ลดช่องว่างการเรียนรู้สำหรับนักเรียนพิการ พัฒนาศักยภาพด้านการศึกษา 435 โรงเรียนทั่วกรุงเทพฯ พร้อมเปิดการสอนนักเรียนชั้นประถมฯได้ในภาคเรียนที่ 2 /2552 นี้
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.พร้อมด้วยนางสาวปฐมา จันทรักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือในโครงการ “Microsoft Education Alliance” เพื่อความร่วมมือด้านการศึกษา ขยายโอกาสการเรียนรู้อย่างไม่มีขีดจำกัดสำหรับครูและนักเรียนในโรงเรียนสังกัดกทม. 435 แห่ง นำเทคโนโลยีมาบูรณาการเข้ากับการศึกษา ได้แก่ โปรแกรม “Microsoft MultiPoint” ซอฟต์แวร์มหัศจรรย์เพื่อการเรียนรู้อย่างเท่าเทียม และโปรแกรม “Microsoft Accessibility” ที่ช่วยลดช่องว่างการเรียนรู้สำหรับนักเรียนพิการ
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า กทม.ตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพด้านการศึกษาโดยมุ่งมั่น ที่จะทำให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ โดยพยายามจัดสรรให้ประชาชนและชุนชนได้มีโอกาสในการเข้าถึงแหล่งความรู้และข้อมูลให้กว้างขวางที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในส่วนของการศึกษาในระบบนั้น จะเน้นเรื่องของการพัฒนาในทุกๆ ด้านที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียน การจัดระบบการศึกษา การพัฒนาครูและนักเรียน รวมไปถึงการนำสื่อการสอนรูปแบบใหม่มาใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนให้นำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วยในเรื่องการเรียนการสอน
“ความร่วมมือดังกล่าวจะทำให้ระบบการศึกษากทม.ก้าวไปอีก 1 ก้าว โดยความร่วมมือในครั้งนี้จะมีการนำเทคโนโลยีที่น่าสนใจของไมโครซอฟท์มาใช้กับการศึกษา ได้แก่ การนำ Microsoft MultiPoint มาพัฒนาการศึกษาทั้งในและนอกห้องเรียนสำหรับโรงเรียนในสังกัดกทม.เป็นครั้งแรก โดยนำมาบูรณาการกับการเรียนการสอนใน 8 กลุ่มสารวิชา อาทิ วิชาคณิตศาสตร์ สังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ”
นอกจากนี้ ยังได้นำหลักสูตร Microsoft Accessibility มาใช้ เพื่อขยายโอกาสการเรียนรู้อย่างเท่าเทียมกันทั้งครู นักเรียนปรกติ และนักเรียนพิเศษในโรงเรียนเรียนร่วมสังกัดกทม. ซึ่งที่ผ่านมานักเรียนพิเศษ เช่น นักเรียนที่พิการทางสายตา พิการทางร่างกายอื่นๆ อาจจะไม่ได้รับความเท่าเทียมกันในการเรียนรู้ แต่ปัจจุบันเมื่อเทคโนโลยีมีการพัฒนามากขึ้น การเรียนรู้หรือการฝึกทักษะต่างๆ ก็ควรเป็นไปในแนวทางเดียวกัน เพื่อให้นักเรียนทุกคนได้มีโอกาสเรียนรู้การใช้คอมพิวเตอร์อย่างทั่วถึง ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้จะมีระยะเวลา 3 ปี
อย่างไรก็ตาม กทม.ได้จัดสรรงบประมาณกว่า 6 ล้านบาทเพื่อจัดซื้อเมาส์และเป็นค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมการใช้โปรแกรมต่างๆ ให้แก่ครูสังกัด กทม.ในระดับประถมศึกษาทั้งหมด 435 โรงเรียน และสอนให้กับนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษากว่า 3 แสนคน รวมถึงนักเรียนพิเศษซึ่งเป็นผู้พิการ จำนวน 1,800 คนของโรงเรียนสังกัดกทม.ได้ในภาคเรียนที่ 2/2552 นี้ นอกจากนี้ กทม.ได้เดินหน้าจัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ จำนวน 20,500 เครื่อง เพื่อนำมาใช้ในการเรียนการสอนของโรงเรียนสังกัดกทม.โดยตั้งเป้าให้โรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครมีคอมพิวเตอร์ใช้อย่างน้อยโรงเรียนละ 41 เครื่อง คาดว่าภายในภาคเรียนที่ 2 จะสามารถทยอยส่งมอบให้โรงเรียนต่างๆ ได้
ด้านนางสาวปฐมา กล่าวว่า ไมโครซอฟท์ ต้องการขยายโอกาสในการเรียนรู้เทคโนโลยีแก่ผู้ที่มีข้อจำกัด โปรแกรมไมโครซอฟท์มัลติพอยต์ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์หนึ่งเครื่องสามารถรองรับการใช้งานของนักเรียนได้จำนวน 3-50 คนพร้อมๆ กัน โดยนักเรียนแต่ละคนสามารถใช้เมาส์ของตัวเองควบคุมเคอร์เซอร์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษบนหน้าจอและเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันทั้งหมด โปรแกรมนี้ไม่เพียงแต่ให้ทางออกสำหรับข้อจำกัดด้านงบประมาณ แต่ยังสร้างประสบการณ์เรียนรู้ที่สร้างสรรค์และเน้นการส่งเสริมให้นักเรียนมีส่วนร่วม และสามารถดึงความสนใจของนักเรียนทุกคนได้โดยไม่จำกัดโอกาสใช้คอมพิวเตอร์อยู่ที่นักเรียนคนใดคนหนึ่งเท่านั้น ส่วน Microsoft ICT Accessibility เป็นหลักสูตรที่แนะนำโปรแกรมสนับสนุนการใช้งานคอมพิวเตอร์สำหรับผู้พิการที่มีปัญหาในการเคลื่อนไหวหรือการมองเห็น โดยจะสนับสนุนการทำงานของผู้พิการซึ่งไม่จำกัดเฉพาะว่าต้องเป็นผู้พิการทางสายตา หรือร่างกายเท่านั้น สำหรับผู้ที่ประสบอุบัติเหตุ บกพร่องทางด้านสายตา หรือแขนหักก็สามารถเรียนรู้ที่จะใช้โปรแกรมนี้ช่วยในการทำงานหรือสื่อสารกับผู้อื่นได้
Company Related Links :
Microsoft
Bangkok