ระนองรักษ์ให้นโยบายสำนักงานสถิติฯฉลองครบ 46 ปี ทำหน้าที่เป็นมันสมองของชาติ มีการเก็บและสำรวจข้อมูลที่ถูกต้องรวดเร็ว ด้านสำนักงานสถิติฯเดินหน้าก้าวเข้าสู่ยุคไร้กระดาษเต็มตัว เตรียมภายใน ก.ค. 53 เสนอของงบซื้อเครื่องสแกนขนาดใหญ่ และเล็กรวม 60 ล้านบาท
ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) เปิดเผยหลังตรวจเยี่ยมสำนักงานสถิติแห่งชาติ ในโอกาสฉลองครบรอบ 46 ปีของการติดตั้งคอมพิวเตอร์เครื่องแรกของประเทศที่สำนักงานสถิติแห่งชาติว่า มีความคาดหวังให้สำนักงานสถิติฯเป็นเสมือนมัน สมองของประเทศชาติทั้งเรื่องการคิดคำนวณ เรื่องเศรษฐกิจ สังคม และการศึกษา โดยหวังให้มีการสำรวจและการวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วมากที่สุด
นอกจากนี้ยังได้กล่าวถึงกรณีการถอนเรื่องโครงการ 3G ออกจากที่ประชุม ครม. เมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมาว่าเป็นเพราะไอซีทียังไม่ได้รับเอกสารแสดงความคิดเห็นจากกระทรวงการคลังจึงจำเป็นต้องถอนเรื่องออกก่อน แต่อย่างไรก็ตามคาดว่าจะนำเรื่องเข้าครม.อีกครั้งในสัปดาห์หน้า
นางธนนุช ตรีทิพยบุตร เลขาธิการ สำนักงานสถิติแห่งชาติ(สสช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานสถิติฯ ได้เริ่มทำการแปลงข้อมูลแบบสอบถามในรูปแบบกระดาษให้มาอยู่ในรูปอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ด้วยเครื่องสแกนขนาดใหญ่ซึ่งสามารถสแกนข้อมูลได้พร้อมกันทั้งด้านหน้า-ด้านหลังด้วยความเร็ว 70 แผ่น/นาที หรือสแกนได้ 29,000 แผ่น/เครื่อง/วัน จำนวน 6 เครื่องด้วยระบบ Intelligent Character Recognition (ICR) และขณะนี้กำลังยื่นของบประมาณกลางปี 60 ล้านบาท แบ่งเป็น 30 ล้านบาทนำมาจัดซื้อเครื่องสแกนขนาดใหญ่ และอีก 30 ล้านบาท เพื่อจัดซื้อเครื่องสแกนขนาดเล็กซึ่งมีความเร็วในการสแกน 45 แผ่น/นาทีเพื่อนำไปติดตั้งที่สำนักงานสถิติจังหวัดรวม 75 จังหวัด เพื่อร่นระยะการจัดส่งแบบสอบถาม คาดถ้าทำได้จะทำให้สำนักงานสถิติแห่งชาติใช้เวลาในการประมวลผลแบบสอบถามหลังเก็บแบบสอบถามประมาณ 3 เดือนซึ่งน้อยกว่าอดีตที่ใช้เวลาถึง 2 ปีครึ่ง โดยปัจจุบันได้นำระบบดังกล่าวมาใช้สำหรับทำแบบสำรวจคนว่างงานซึ่งทำทุกเดือน และปีหน้ามีโครงการที่จะใช้เครื่องสแกนในการแปลงข้อมูลแบบสำรวจสำมะโนประชากรปี 2553 ซึ่งจะเริ่มในเดือน ก.ค.ปีนี้
นอกจากนี้ สำนักงานสถิติฯ ยังได้เปิดตัวศูนย์สารสนเทศแห่งชาติ โดยใช้เทคโนโลยี Web Services เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลและแลกเปลี่ยนข้อมูลสถิติของภาครัฐ โดยเฟสแรกเป็นการมุ่งให้หน่วยงานรัฐเข้าถึงข้อมูลซึ่งปัจจุบันมีข้อมูลเกือบ 3,000 รายการ ส่วนเฟสสอง ปี 2553 จะรวมข้อมูลของแต่ละจังหวัดเข้าไปด้วย และเฟสสาม ปี 2554 จะร่วมกับบริษัทเอกชนนำข้อมูลการสำรวจต่างๆที่เป็นประโยชน์มารวมไว้ที่ศูนย์ดังกล่าว เพื่อให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนได้นำไปใช้ประโยชน์ โดยศูนย์ดังกล่าวปัจจุบันมีข้อมูลที่สำนักงานสถิติฯจัดทำย้อนหลังได้ถึงปี 2529
Company Related Links :
MICT