"บราเดอร์" ชู 3 กลยุทธ์หลักลุยตลาดในปีนี้ ทั้งการปรับโฉมแบรนด์ใหม่ให้ดูทันสมัยขึ้น ขยายตลาดให้ครอบคลุมมากขึ้นกว่าเดิม และขยายช่องทางการจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้นจากเดิม เผยตลาดรวมโต 18-19% ไต่ขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ในปัจจุบัน ล่าสุดส่งเครื่องมัลติฟังก์ชันอิงก์เจ็ตสี เครื่องแรกของโลกที่พิมพ์กระดาษขนาด A3 เจาะกลุ่ม SOHO และSME
นายธีรวุธ ศุภพันธุ์ภิญโญ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท บราเดอร์ คอมเมอร์เชี่ยล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงกลยุทธ์ที่ได้ตั้งเป้าเอาไว้ภายหลังเข้ามารับตำแหน่งนี้เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมาว่า มีอยู่ด้วยกัน 3 สิ่งที่ต้องทำ สิ่งแรกเลยคืออยากให้บราเดอร์เป็นแบรนด์ที่ทันสมัยมากกว่านี้ อย่างที่สองคือ การขยายทางการตลาดซึ่งปัจจุบันนี้บราเดอร์ถือว่าเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว แต่ในปีนี้จะมีการขยายตลาดไปจนถึงคอนซูเมอร์ให้มากขึ้น เพื่อให้ครอบคลุมตลาดทั้งหมด อย่างสุดท้ายคือ การขยายช่องทางจัดจำหน่าย จากปัจจุบันที่มีดีลเลอร์อยู่ที่ 150 ราย จะกระจายให้ได้ 250 รายภายในปีนี้
"งานหลักๆจะดูแลรับผิดชอบในส่วนของการวางกลยุทธ์ทางด้านการขายและการตลาด ตลอดถึงการบริหารจัดการช่องทางในการจัดจำหน่ายและการดูแลพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งได้วางเป้าหมายหลักและนโยบายสำคัญในการบริหารบราเดอร์ไว้แล้ว อย่างการรีเฟรชแบรนด์ให้ดูหนุ่มขึ้น ถึงแม้จะเพิ่งฉลองครบรอบ 100 ปีไปไม่นานมานี้ รวมไปถึงเรื่องของการโฆษณา จะมีการแฝงลูกเล่นให้มีความน่าสนใจในตัวแบรนด์สินค้ามากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการตกแต่งหน้าร้านของดีลเลอร์ ซึ่งจะให้แต่ละร้านมีการตกแต่งให้มีความน่าสนใจ รวมถึงการจัดกิจกรรม และโปรโมชันต่างๆ" นายธีรวุธกล่าว
นายธีรวุธกล่าวต่อว่า ในส่วนของตลาดองค์กร มีการเซตทีมคอร์ปอเรตขึ้นมาร่วมทำงานด้วย ซึ่งในทีมขณะนี้มีอยู่ 5 คน เป็นการทำงานแบบโฟกัสลงไปแต่ละองค์กร เช่น รัฐบาล สถาบันการศึกษา เป็นต้น ส่วนประเภทผลิตภัณฑ์ที่ค่อนข้างโฟกัสเป็นพิเศษคือ เครื่องพิมพ์เลเซอร์ กับเครื่องมัลติฟังก์ชัน เนื่องจากคนส่วนใหญ่จะใช้อยู่ 2 ตลาดนี้ คือ ในออฟฟิศจะใช้เลเซอร์ ตามบ้านจะใช้อิงก์เจ็ต ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการใช้งานมากกว่า ซึ่งจะเน้นทั้ง 2 ตลาดควบคู่กันไป
ล่าสุดเปิดตัวเครื่องมัลติฟังก์ชันอิงก์เจ็ตสี MFC-6490CW ซึ่งเป็นเครื่องพิมพ์เครื่องแรกของโลกที่สามารถรองรับการพิมพ์ แฟกซ์ ถ่ายสำเนา และสแกนเอกสารได้สูงสุดถึงขนาด A3 เจาะกลุ่มที่มีความต้องการของการใช้งานภายในออฟฟิศหรือสำนักงาน โดยเฉพาะความต้องการของผู้ใช้งานกลุ่ม SOHO และ SME รองรับการทำงานบนเครือข่ายไร้สาย พิมพ์แบบไฮสปีดความเร็วสูงสุด 28 แผ่นต่อนาที(เอกสารสีขนาด A4) และให้ความละเอียดสูงสุด 1,200 x 6,000 dpi หน้าจอ LCD สีกว้าง 3.3 นิ้ว ถาดป้อนกระดาษอัตโนมัติบรรจุกระดาษได้สูงสุด 50 แผ่น พร้อมถาดใส่กระดาษ 2 ถาดที่บรรจุกระดาษรวมกันได้ถึง 400 แผ่น ตลับหมึกแยกสีขนาดพิเศษ ที่ให้จำนวนการพิมพ์มากกว่าตลับหมึกมาตรฐานทั่วไปอีกเท่าตัว ราคาจำหน่าย 19,990 บาท
สำหรับเครื่องมัลติฟังก์ชันอิงก์เจ็ต (MFC) มีมาร์เก็ตแชร์เพิ่มขึ้นจากเดิม 12% มาเป็น 14% ซึ่งทำให้บราเดอร์ขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 3 ในเวลานี้ โดยยอดรวมทั้งหมดโตอยู่ที่ 18-19% ทั้งนี้ ยังมองอีกว่าเครื่องมัลติฟังก์ชันอิงก์เจ็ตมีโอกาสที่จะขยับขึ้นไปอีก ส่วนงบทางการตลาดนั้น ทางบราเดอร์ระบุว่ายังไม่ได้สรุป เนื่องจากต้องอ้างอิงปฏิทินของประเทศญี่ปุ่นเป็นหลัก
ส่วนสภาพการแข่งขันนั้นได้มองแตกต่างจากเจ้าอื่น ซึ่งส่วนใหญ่จะมองกันเรื่องราคาถูก แต่บราเดอร์จะมองอีกด้านหนึ่งคือ ความคุ้มค่า เนื่องจากราคาถูกไม่ได้ตอบโจทย์เท่าไรนัก จะดูที่ความคุ้มค่ามากกว่า อย่างเรื่องของฟังก์ชันการใช้งานที่เมื่อเปรียบเทียบฟังก์ชันต่างๆแล้วคุ้มมากกว่า, การบริการทั้งก่อนและหลังการขาย นอกจากนี้ ยังเป็นเจ้าเดียวที่รับประกันการใช้งาน 2 ปี จึงเชื่อได้ว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้น่าจะนำไปสู่ความประสบความสำเร็จได้
Company Related Links :
Brother