แซสเผยแผนปีนี้มุ่งขายซอฟต์แวร์บริหารความเสี่ยง สนองความต้องการยุคเศรษฐกิจเป็นพิษ หน่วยงานและองค์กรต่างต้องการลดต้นทุน แต่หวังผลกำไรเพิ่มขึ้น เน้นโซลูชันด้านการตลาด จัดการความเสี่ยง และ บริหารการเงิน ปีนี้คาดโต 10-15 %
นายขวัญชัย เลิศจุลัศจรรย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แซส ซอฟต์แวร์ (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้ประกอการทั่วโลก ระมัดระวัง และงดการลงทุนโครงการใหม่ แม้กระทั่งในอุตสาหกรรมไอที แต่ก็ยังมีช่องว่างสร้างรายได้ เพราะองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน ยังต้องการมองหาซอฟท์แวร์ หรือโซลูชันเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการความเสี่ยง เพื่อลดต้นทุน การดำเนินการ และวิเคราะห์สินค้าที่ตรงตามความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น
“ข้อมูลจาก ไอดีซี ประเมินไว้ว่าการลงทุนขององค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลก ด้านไอซีทีปี 2552 มีอัตราการเติบโตเพียง 2.6 % แต่ซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับการลดต้นทุน เพิ่มผลกำไรที่เล็งเห็นจากธุรกิจ และการจัดการความเสี่ยง ยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก โดยเฉพาะซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า เพื่อให้องค์กรสามารถแข่งขัน และเพิ่มผลกำไรมากยิ่งขึ้น “
ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ แซส มีนโยบายการดำเนินการการตลาดเน้นผลิตภัณฑ์ โซลูชันด้านการตลาด (Customer Intelligence:CI) ด้านบริหารจัดการความเสี่ยง (Risk Intelligence:RI ) และด้านบริหารการเงิน (Financial Intelligence ) เพื่อตอบานองความต้องการตลาด โดยจะทำตลาดผ่านพันธมิตรธุรกิจ (partners) ที่มีความเชี่ยวชาญด้านโซลูชัน และเข้าใจผลิตภัณฑ์ของแซส เพื่อให้สามารถทำตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ตั้งแต่ ตลาดสถาบันการเงิน ภาครัฐ โทรคมนาคม ค้าปลีก และตลาดภาคการผลิต เป็นต้น
นวัตกรรมใหม่ที่ แซส จะนำเสนอในตลาดไทย ได้แก่ 1 Anti-money laundering (AML)ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ช่วยในการตรวจจับการฟอกเงิน 2. Real Time Decision Manager (RTDM) ซอฟต์แวร์วิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าเพื่อการนำเสนอบริการที่ตรงความต้องการอย่างแท้จริง ช่วยลดต้นทุนการทำ โปรโมชันจำนวนมาก เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้า 3. Credit Scoring Suite เป็นต้น
อย่างไรก็ดี คาดว่าในปี 2552 ตลาดทั่วโลกของเทคโนโลยีจัดการความเสี่ยงจะมีมูลค่า 5.95 พันล้านดอลลาร์ และจะมีอัตราการเติบโตโดยรวมต่อปีที่ระดับ 8% ส่วนในปีที่ผ่านมา ตลาดประเทศไทยยังเติบโตในอัตราที่น่าพอใจ เป็นตัวเลข 2 หลักส่วนในปีนี้ บริษัทคาดว่าจะยังสามารถเติบโตได้ราว 10-15 % ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นตลาดเอเชีย ส่วนตลาดยุโรป และอเมริกา ปรับตัวลดลงตามกระแสเศรษฐกิจเช่นเดียวกับบริษัทไอทีอื่นๆ
Company Related Links :
SAS