ดิแอสไพเรอร์สกรุ๊ป จัดงานคอมเวิลด์ดันกระแสเทคโนโลยีโมบายยุคที่ 2 พร้อมร่วมมือกับผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าไอทีหวังฟื้นตลาดเทคโนโลยีส่งท้ายไตรมาสสุดท้ายของปี
นายวิโรจน์ อัศวรังสี ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ดิ แอสไพเรอร์ส กรุ๊ป จำกัด กล่าวถึงการจัดงานในครั้งนี้ว่า จะเน้นเรื่องการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ชิปเซต เซนทริโน 2 จากอินเทล, เน็ตบุ๊ก ยุคที่ 2 จากอัสซุส ผู้นำด้านโน้ตบุ๊กขนาดเล็กเป็นรายแรก, ระบบมัลติทัช บนพีดีเอโฟน และแผนที่นำทางผ่านดาวเทียม โน้ตบุ๊กรุ่นใหม่พร้อมชิปเซ็ตประหยัดไฟ สามารถใช้งานต่อเนื่องได้เกิน 18 ชั่วโมงต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้งแล้ว โดยผู้ขายต่างให้ความร่วมมือในการจัดโปรโมชันเพื่อกระตุ้นยอดขายของตลาดเทคโนโลยีในช่วงท้ายปีนี้
"สำหรับภาวการเมือง และมีวิกฤติการณ์การเงินในอเมริกา น่าจะเป็นเหตุผลหลักที่ต้องจัดงานคอมเวิลด์เพื่อเข้ามากระตุ้นตลาด เพราะแม้ว่าตลาดราชการและเอกชนขนาดใหญ่จะชะลอการซื้อ แต่ตลาดคอนซูเมอร์และธุรกิจขนาดเล็ก ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะสินค้าไอทีมีความจำเป็นต่อการทำงานและการศึกษามากขึ้น”
อัสซุสเปิดตัว Eee Family
อัสซุสเทค ใช้โอกาสในงานคอมเวิลด์เพื่อแนะนำสินค้ารุ่นใหม่ในตระกูล Asus Eee Family เพิ่มไลน์สินค้าให้ครอบคลุมมากขึ้น
นายพรเทพ วัชรอำนวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท อัสซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ความสำเร็จของสินค้าอย่าง อี-พีซี ขนาดหน้าจอ 7 - 10 นิ้ว ทำให้ทางอัสซุสเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ ที่มีขนาดเล็ก อย่างเช่น อี-บ็อกซ์ เครื่องพีซีที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก ซึ่งขณะนี้เริ่มมีการออกวางจำหน่ายแล้ว
"ทางอัสซุสหวังว่าการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในตระกูล 'Asus Eee Family' จะมาสร้างกระแสไอทีให้ตลาดบ้านเราตื่นตัวมากขึ้น เบื้องต้นวางเป้าหมายอยู่ที่ประมาณ 2,000 เครื่องภายในสิ้นปีนี้"
มุมมองสภาวเศษฐกิจในขณะนี้ ทางอัสซุสเทค มองว่า การที่เริ่มเกิดวิกฤตการต่างๆในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้ อาจจะไม่มีผลกระทบต่อรายได้ของปีนี้มากนัก แตจะส่งผลกระทบหลักในช่วงต้นปีหน้า ที่จะทำให้ตลาดชะลอการซื้อ ทำให้ทางบริษัทต้องวางแผนในการทำตลาดมากขึ้นกว่าเดิม
นอกจากสินค้าอย่าง อี-บ็อกซ์แล้ว ทางอัสซุสยังได้เตรียมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอีกเช่น อี-ท็อปที่เป็นคอมพิวเตอร์พร้อมหน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว โดยราคาเปิดตัวของ อี-บ็อกซ์ อยู่ที่ 9,900 บาท
เอชพี โชว์โซลูชันการพิมพ์และมัลติมีเดีย
เอชพีร่วมกับเครือข่ายสถาบันสอนการพิมพ์และมัลติมีเดียนำประสบการณ์ Personalized Printing สู่ผู้บริโภคเพื่อขยายฐานตลาดการพิมพ์ในอนาคต เน้นการให้ความรู้ด้านการพิมพ์ในรูปแบบต่างๆที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคอย่างเต็มที่
นายสมชัย สูงสว่าง ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจภาพและการพิมพ์ บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้ทางเอชพีมองว่าแนวโน้มของตลาดการพิมพ์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องตามความต้องการใช้งานทางธุรกิจและการใช้งานของผู้ใช้ตามบ้านทั่วไป โดยเฉพาะการพิมพ์แบบดิจิตอลที่เอชพีคาดการณ์ว่าจะมีการเติบโตในอัตราที่สูงขึ้นเรื่อยๆ โดยคาดว่าภายในปี 2553 การพิมพ์ดิจิตอลจะเพิ่มเป็น 53 ล้านล้านแผ่น หรือคิดเป็นร้อยละ 10 ของการพิมพ์ทั้งหมด
"ผู้บริโภคจะได้รับประสบการณ์การพิมพ์ที่สามารถสร้างสรรค์และจัดการได้ด้วยตัวเองอย่างง่ายๆ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากแก่ผู้บริโภคในแง่ของความสะดวกและลดต้นทุนโดยเฉพาะในส่วนของผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดย่อม"
เครือข่ายสถาบันสอนการพิมพ์และมัลติมีเดีย เป็นการร่วมมือของ 6 สถาบัน ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี มหาวิทยาลัยเทคนิคกรุงเทพ และ มหาวิทยาลัยสยาม ที่มีสาขาหรือเนื้อหาวิชาการสอนเกี่ยวกับทางด้านเทคโนโลยีการพิมพ์
Company Related Links :
Comworldthailand