ไมโครซอฟท์ เผยกลยุทธ์ในการเข้าถึงตลาด ตอบโจทย์ทุกความต้องการขององค์กรธุรกิจด้วยโซลูชันใหม่ที่มุ่งเน้นช่วยลดต้นทุนธุรกิจ ประหยัดเวลา เสริมศักยภาพทางธุรกิจ มั่นใจก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดหากเติบโตในระดับเทียบเท่าในระดับที่ผ่านมา
ตลาดทุกส่วนทั้งคู่ค้า และลูกค้า พร้อมตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรธุรกิจในทุกอุตสาหกรรมและทุกขนาด แนวรุกครั้งใหม่ของไมโครซอฟท์ ครั้งนี้ดำเนินงานรูปแบบของกิจกรรมต่อเนื่อง 5 กิจกรรม ซึ่งจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 23 กันยายน ถึง 15 ตุลาคม 2551 โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ล่าสุดในกลุ่มวินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์และโซลูชันของไมโครซอฟท์ซึ่งนำมาช่วยในการตอบโจทย์ทางธุรกิจ กิจกรรมต่างๆซึ่งไมโครซอฟท์จัดขึ้นตอกย้ำให้เห็นถึงทิศทางการดำเนินงานของไมโครซอฟท์ในการเข้าถึงคู่ค้าและลูกค้าทุกกลุ่ม ตั้งแต่ ผู้บริโภค กลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่
นางสาวปฐมา จันทรักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ไมโครซอฟท์ให้ความสำคัญกับการทำตลาดโซลูชั่นมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อมิให้ลูกค้ามองเห็นไมโครซอฟท์ว่าเป็นเพียงผู้นำโปรดักต์อย่างเดียวไม่ว่าจะเป็น วินโดวส์ หรือ ไมโครซอฟท์ออฟฟิศเท่านั้น ยิ่งในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันลูกค้ายิ่งต้องการโซลูชันที่เหมาะสมเพื่อให้ธุรกิจเดินไปข้างหน้าได้ โดยไมโครซอฟท์นำเสนอ 5 โซลูชันประกอบไปด้วย 1. Business Intelligence 2.Unified Communications 3.Enterprise Content Management and Collaboration 4.Microsoft Dynamics และ Infrastructure organization (IO) & Virtualization ซึ่งไมโครซอฟท์มุ่งเน้นช่วยให้องค์กรธุรกิจ ดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้
"โซลูชันของไมโครซอฟท์ไม่ได้จำกัดเพียงแค่องค์กรทางธุรกิจกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น แต่ครอบคลุมความต้องการขององค์กรทุกขนาดทุกประเภท แนวทางดังกล่าวจะเห็นได้จากกิจกรรมของไมโครซอฟท์ซึ่งจะแบ่งแยกประเภทเพื่อตอบสร้างความเข้าใจในข้อมูล ให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายในแต่ละกลุ่ม ซึ่งได้แก่ Microsoft Partner Briefing, Microsoft TechNet/ MSDN Event, Microsoft Dynamics Forum, Microsoft SMB Day และ Microsoft Customer Day"
นางสาวทิพมาศ อจลากุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาดแบบเซกเมนต์ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า กิจกรรมทั้ง 5 สะท้อนให้เห็นถึงทิศทางการตลาดของไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ในการเข้าถึงและสื่อสารกับธุรกิจในแต่ละประเภท ซึ่งกิจกรรมทั้ง 5 ของไมโครซอฟท์ยังเน้นให้เห็นถึงการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างไมโครซอฟท์และคู่ค้าในการเดินหน้าเข้าหาลูกค้า
นายสาวิตร สุทธิพันธุ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) กล่าวว่าไมโครซอฟท์แตกต่างจากผู้ให้บริการโซลูชันรายอื่นๆ เพราะนำเสนอโซลูชันที่หลากหลายประเภทครอบคลุมธุรกิจทุกกลุ่ม ด้วยเทคโนโลยีของไมโครซอฟท์ เช่น Windows Server 2008 SQL Server 2008 และ Visual Studio 2008 เทคโนโลยี Business Intelligence ผลิตภัณฑ์ Microsoft Office Exchange and Mobility สำหรับโซลูชันในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ผลิตภัณฑ์ SQL Server 2008 สำหรับโซลูชันในการจัดการข้อมูล และ ผลิตภัณฑ์ Microsoft Dynamics AX สำหรับโซลูชัน Microsoft Dynamics
“เครื่องมือต่างๆเหล่านั้นจะทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะสมในการที่ผู้ใช้งานจะสามารถนำโซลูชันของไมโครซอฟท์ไปใช้ในการขับเคลื่อนการเติบโตทางธุรกิจและช่วยให้ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้เทคโนโลยี โซลูชันของไมโครซอฟท์จะช่วยลดต้นทุนทางธุรกิจ ช่วยประหยัดเวลา ช่วยเกิดประสิทธิผลในการดำเนินธุรกิจ”
นางสาวปฐมากล่าวว่า ไมโครซอฟท์ให้ความสำคัญต่อการทำงานร่วมกันกับคู่ค้า เน้นให้ความรู้ความเข้ากับพาร์ตเนอร์หรือคู่ค้าเพื่อให้พาร์ตเนอร์เป็นตัวผลักดันโซลูชันที่ดีเข้าถึงมือลูกค้า
“แม้ในภาวะเศรษฐกิจทั้งของประเทศและของโลกปัจจุบัน ไมโครซอฟท์ยังคงไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาธุรกิจ แม้ในภาวการณ์ชะลอตัวหรือความผันผวนทางเศรษฐกิจ โดยมองว่าเทคโนโลยีเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งสำหรับชีวิตในยุคปัจจุบัน และมั่นใจว่าแนวทางที่ไมโครซอฟท์นำเสนอจะช่วยลดค่าใช้จ่าย เพิ่มประสิทธิผลในการทำงาน และพัฒนาศักยภาพทางธุรกิจได้”
ที่ผ่านมาไมโครซอฟท์มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องนับถึงเดือนกันยายนที่ผ่านไมโครซอฟท์มีการเติบโตประมาณ 30% ด้วยโซลูชันทั้ง 5 ไมโครซอฟท์มั่นใจว่าจะตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้เพราะนอกจากจะช่วยลดต้นทุนในการดำเนินงานแล้วยังเป็นโซลูชันที่ถูกกว่าคู่แข่งในตลาดถึง 3 เท่า โดยปัจจุบันการทำตลาดโซลูชันสามารถทำรายได้ให้ไมโครซอฟท์ถึง 2/3 ของรายได้รวม
“ในโซลูชันระดับเอนเตอร์ไพรส์ถ้าเรายังเติบโตได้เหมือนไตรมาสที่ผ่านมาคือ 50% เรามั่นใจว่าเราจะขึ้นเป็นผู้นำอันดับ 1 ในตลาดได้” ผู้บริหารไมโครซอฟท์กล่าว
Company Related Links :
Microsoft