xs
xsm
sm
md
lg

Smart Thailand เป้าหมายไอซีที

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ครบ 6 ปี - มั่น พัธโนทัย รมว.ไอซีที (ที่4จากขวา) กับผู้บริหารในสังกัดกระทรวง ในงานแถลงครบรอบสถาปนากระทรวงไอซีทีครบรอบ 6 ปี
กระทรวงไอซีที โชว์ศักยภาพ 6 ปี มุ่งสู่ Smart Thailand ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไอซีทีไทยสู่การแข่งขันในเวทีโลก ตั้งเป้าจีดีพีพุ่ง 20%ดันคนกว่าครึ่งประเทศให้สามารถเข้าถึงไอซีทีได้

นายมั่น พัธโนทัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวในงานก้าวต่อไปของกระทรวงไอซีทีซึ่งเป็นงานครบรอบของการสถาปนากระทรวงไอซีทีครบรอบ 6 ปี  (พ.ศ.2545-ปัจจุบัน) เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ที่ผ่านมาว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กระทรวงฯได้มีความพยายามในการส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ได้นำไอซีทีไปใช้ให้เกิดประโยชน์มาโดยตลอด โดยจากนี้ไปจะเร่งต่อยอดและพัฒนาอุตสาหกรรมไอซีที เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศให้มากยิ่งขึ้น

จากการจัดลำดับสถานภาพการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารโดย World Competitiveness Scoreboard (IMD) ในปี 2550 จากจำนวนประเทศทั้งหมด 55 ประเทศ ลำดับของประเทศไทยด้านการพัฒนาไอซีทีในเวทีโลกโดยภาพรวมนั้น จัดอยู่ในระดับปานกลาง  ซึ่งเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในทวีปเอเชีย 6 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน อินเดีย สิงคโปร์ และมาเลเซีย  พบว่า มีเพียงอินเดียประเทศเดียวในกลุ่มประเทศที่เลือกมาทำการศึกษา ที่มีระดับการพัฒนาด้านไอซีทีน้อยกว่าประเทศไทย ในขณะที่ประเทศเพื่อนบ้าน อย่างสิงคโปร์และมาเลเซีย มีอันดับการพัฒนาไอซีทีที่สูงกว่าประเทศไทยในทุกๆ ดัชนี

ดังนั้นในก้าวต่อไปของกระทรวงไอซีทีจึงได้มีแผนที่จะยกระดับมาตรฐานไอซีทีของประเทศไทยไปสู่การเป็น Smart Thailand โดยการส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาประเทศไทยให้เป็นสังคมอุดมปัญญาด้วยการใช้ไอซีที ซึ่งกระทรวงไอซีทีจะผลักดันอุตสาหกรรมไอซีทีให้มีสัดส่วนมูลค่าเพิ่มต่อจีดีพีไม่น้อยกว่า 20% รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนอย่างน้อย 50% สามารถเข้าถึงและใช้ข้อมูลข่าวสารสารสนเทศได้ โดยมีโครงการที่จะมาเป็นแรงกระตุ้น อย่างเช่น โครงการจัดตั้งวิทยาลัยไอซีที, การพัฒนากฎหมายด้านไอซีที และ พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่

นายสือ ล้ออุทัย ปลัดกระทรวงไอซีที กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงไอซีทีได้จัดทำแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ฉบับที่ 2) ของประเทศไทย พ.ศ. 2552-2556 เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเตรียมที่จะเสนอให้คณะรัฐมนตรีในการประชุมครั้งหน้า รวมถึงในปี 2552 ก็จะมีการกำหนดกรอบนโยบาย ICT 2020 (พ.ศ.2554-2563) เพื่อที่จะนำมาเป็นแนวทางในการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศไทยในระยะเวลา 10 ปีข้างหน้า โดยคาดว่าจะมุ่งเน้นในเรื่องของการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดในการใช้บริการมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ตลอด 6 ปีที่ผ่านมากระทรวงได้ผลักดันให้มีการดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อประชาชนอย่างเป็นรูปธรรมหลายโครงการ โดยได้เน้นที่การพัฒนาแผนยุทธศาสตร์ใน 5 ด้านด้วยกัน คือ e-Society, e-Education, e-Industry, e-Commerce และ e-Government ซึ่งได้มีโครงการเกิดขึ้นอย่างมากมาย เช่น โครงการศูนย์การเรียนรู้ ICT ชุมชน, Government Contact Center (GCC 1111) , การจัดงานนิทรรศการและการประชุมไอซีทีระดับนานาชาติ (งาน ICT EXPO และงาน ITU Telecom Asia 2008) , พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550, เครือข่ายสื่อสารข้อมูลเชื่อมโยงหน่วยงานภาครัฐ (Government Information Network: GIN) และ บัตร Smart Card

Company Related Links :
MICT
กำลังโหลดความคิดเห็น