นาทีนี้เชื่อว่าไม่มีบริษัทยักษ์ใหญ่รายใดไม่พูดถึง"cloud computing" หรือแปลตรงตัวว่าการประมวลผลกลุ่มเมฆ ซึ่งการ์ทเนอร์ (Gartner) บริษัทวิจัยระดับโลกฟันธงแล้วว่าจะเป็นแนวทางหลักของโลกไอทีในอนาคต ล่าสุดยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตชิปอย่างอินเทล (Intel) ประกาศจับมือกับยาฮู (Yahoo) และเอชพี (HP) ร่วมกับศูนย์วิจัยอีก 3 แห่งทั่วโลกดำเนินการศึกษาเทคโนโลยีประมวลผลกลุ่มเมฆอย่างจริงจัง
cloud computing คือระบบไอทีแห่งอนาคตที่เกิดมาเพื่ออุดจุดอ่อนที่ระบบไอทีปัจจุบันไม่สามารถรองรับโลกยุค Web 2.0 และ 3.0 ได้มากพอ เป็นแนวคิดการประมวลผลแบบใหม่ซึ่งมีส่วนประกอบคือโครงสร้างไอทีขนาดใหญ่ที่ขยายตัวได้ไม่จำกัดเหมือนก้อนเมฆ พลังของโครงสร้างไอทีนี้จะถูกนำเสนอต่อลูกค้า-ผู้ใช้จำนวนมหาศาลในรูปแบบของบริการ เช่น บริการรับฝากไฟล์ความจุสูง หรือบริการซอฟต์แวร์ออนไลน์นานาชนิดซึ่งต้องใช้ทรัพยากรไอทีขนาดใหญ่มากๆ
ข้อมูลจากสารานุกรมวิกิพีเดีย ระบุว่าส่วนประกอบหนึ่งของระบบ cloud computing คือเซิร์ฟเวอร์จำนวนมหาศาลเรือนหมื่นเรือนแสนเครื่อง กลุ่มเมฆไอทีแต่ละก้อนจะเชื่อมกันด้วยเครือข่ายเป็นระบบกริด ใช้ซอฟต์แวร์การทำงานเสมือนเพื่อให้กินทรัพยากรระบบน้อยที่สุด
เมื่อผลที่ได้จาก cloud computing คือคลังเก็บข้อมูลออนไลน์ขนาดความจุมหาศาล และบริการด้านข้อมูลบนโลกออนไลน์แบบไร้ขีดจำกัด บริษัทวิจัยการ์ทเนอร์จึงเชื่อว่า cloud computing จะปฏิวัติวงการไอทีเหมือนที่พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์หรือ e-business เคยทำได้ในยุคหนึ่ง
"เราต้องการสร้างระบบที่สามารถตอบคำถามที่ระบบปัจจุบันทำไม่ได้" John Manley ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยกลยุทธ์ของ HP กล่าว ยืนยันว่า cloud computing ไม่ใช่การพัฒนาด้านการเก็บข้อมูลบนโลกออนไลน์เท่านั้น แต่ยังนำไปสู่ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการใช้งานข้อมูล
ความร่วมมือที่อินเทล เอชพี และยาฮูประกาศร่วมกัน จะเปิดให้นักวิจัยสามารถทดสอบแอปพลิเคชันใหม่กับศูนย์ข้อมูล 6 แห่งที่อยู่ในส่วนต่างๆของโลก เพื่อศึกษาวิจัยเทคโนโลยี cloud computing อย่างจริงจัง ศูนย์วิจัยสามแห่งเป็นของอินเทล เอชพี และยาฮู อีกสามแห่งเป็นศูนย์วิจัยของ Infocomm Development Authority ในสิงคโปร์, มหาวิทยาลัยแห่งรัฐอิลินอยส์ (University of Illinois) และศูนย์ Steinbuch Centre for Computing ในเยอรมัน
เนื้อหาการศึกษาจะครอบคลุมถึงการสร้างแอปพลิเคชันใหม่เพื่อใช้กับระบบ cloud computing การศึกษาว่าจะทำอย่างไรให้ระบบคำนวณขนาดใหญ่มีความเสถียร มีการ บริหารจัดการข้อมูลภายในที่ดี และมีความปลอดภัยสูง
การศึกษาเรื่อง cloud computing เป็นเรื่องยากที่จะกระทำลำพังคนเดียว ภายใต้ความร่วมมือนี้ ศูนย์วิจัยแต่ละศูนย์จะลงขันเครื่องคอมพิวเตอร์ศูนย์ละ 1,000 ถึง 4,000 เครื่องเพื่อทำการวิจัยร่วมกัน กำหนดการเริ่มวิจัยเต็มรูปแบบคือภายในปีนี้
ปัจจุบัน เจ้าตลาดไอทียักษ์ใหญ่อย่าง Amazon AOL Google Microsoft และ Symantec ล้วนให้บริการเทคโนโลยีนี้แล้ว เช่นเดียวกับ IBM ที่ระบุว่ากำลังเร่งพัฒนา cloud computing มาระยะหนึ่งแล้ว
Company Related Links :
Intel
Yahoo
HP