ดร.มั่น พัธโนทัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กล่าวว่า หลังจากที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ได้รับมอบบัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ สมาร์ท การ์ด (Smart Card) แล้ว 3 งวด รวม 13 ล้านใบจากกิจการค้าร่วม VSK เป็นที่เรียบร้อย และได้ส่งมอบต่อไปยังกรมการปกครองเพื่อนำไปใช้งานแล้วนั้น ขณะนี้ทางสำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ได้มีการนำบัตรดังกล่าวมาให้บริการออกบัตรประจำตัวประชาชนแก่ประชาชนทั่วประเทศแล้ว
บัตรรุ่นใหม่นี้มีรูปลักษณ์การพิมพ์ และภาพสามมิติ (Hologram) ที่สวยงาม มีลวดลายการพิมพ์ลายเส้นชนิด Security ที่ปรากฏเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ซึ่งถือเป็นบัตรที่มีระบบรักษาความปลอดภัยป้องกันการปลอมแปลงบัตรได้อย่างดีเยี่ยม รวมทั้งเป็นบัตรอัจฉริยะใบแรกที่มีไมโครชิป (Microchip) ฝังอยู่
บัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์อิเล็กทรอนิกส์ หรือ สมาร์ทการ์ด (Smart Card) ในรุ่นที่ 2 นี้ มีความพิเศษตรงที่มีการบรรจุไมโครซชิป (Microchip) ที่มีหน่วยความจำ (Memory) ขนาด 64 K ในรูปของ Java Applets และมีขีดความสามารถพร้อมใช้ ระบบป้องกันการปลอมแปลง PKI (Public Key Infrastructure ซึ่งเป็นเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ช่วยให้ทำธุรกรรมพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างปลอดภัย) ประกอบด้วยรหัส Public Key (ของระบบ) และ Private Key (ของผู้ถือ) มีความปลอดภัยสูงสุดในปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังมีการบรรจุโปรแกรมอ่านลายนิ้วมือ เพื่อใช้ในการพิสูจน์ว่าผู้ถือบัตรใช่ตัวจริงหรือไม่ ซึ่งจะใช้กับเครื่องอ่านบัตรที่มีโปรแกรมอ่านลายนิ้วมือของผู้ถือบัตร เพื่อส่งข้อมูลเข้าไปเปรียบเทียบกับข้อมูลในไมโครชิป (Microchip) ว่าตรงกันหรือไม่กับเมื่อตอนออกบัตร และลายนิ้วมือนี้จะไม่สามารถนำออกมาจาก ไมโครชิป (Microchip) ได้ จึงสามารถรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล และป้องกันการลักลอบนำลายนิ้วมือไปใช้โดยมิชอบได้ด้วย
“ส่วนการส่งมอบสมาร์ท การ์ด (Smart Card) ในงวดต่อไปนั้น จะมีการจัดทำข้อกำหนดการจ้างหรือ TOR ให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคม-กันยายนนี้ โดยจะยืนราคาเดิมหรือให้ต่ำกว่า แต่ยังคงคุณสมบัติเดิมเอาไว้ คือ ต้องมีหน่วยความจำไม่น้อยกว่า 64 K ส่วนการส่งมอบบัตรในรุ่นที่สองจนครบ 26 ล้านใบนั้นคาดว่าจะดำเนินการได้แล้วเสร็จภายในเดือนมกราคม 2552” ดร.มั่นกล่าวเพิ่มเติม
ปัจจุบันกรมการปกครองได้บูรณาการร่วมใช้ประโยชน์ด้านข้อมูลพื้นฐานของบุคคลกับหน่วยงานต่างๆ คือ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร และหน่วยบัญชาการกำลังสำรองทหารบก โดยทั้ง 4 หน่วยงานได้นำข้อมูลในความรับผิดชอบมาบรรจุไว้ในชิป (Chip) เมื่อประชาชนที่เป็นสมาชิกหรือเกี่ยวข้องกับข้อมูลของหน่วยงานดังกล่าว มายื่นขอมีบัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลหน่วยงานเหล่านั้นจะถูกบรรจุลงในชิป (Chip) ในขั้นตอนของการพิมพ์บัตร โดยผู้รับบัตรประจำตัวประชาชนสามารถนำไปใช้ตามความประสงค์หรือข้อกำหนดของหน่วยงานนั้นๆ
Company Related Links :
ICT