ซัมซุงส่งมอนิเตอร์ทีซีรีส์ลงตลาด 6 รุ่น เน้นความความแตกต่างสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันที่ทำสงครามราคา ในภาวะตลาดแข่งเดือดเพราะมีผู้ค้าหลายราย โดยมุ่งไปที่กลุ่มพรีเมียมที่ต้องการจอที่ 2 ในการทำงาน และเพื่อความบันเทิง ตั้งเป้ายอดขายสิ้นปี 1 หมื่นเครื่อง ส่วนแบ่งตลาด 30% เพื่อรักษาแชมป์เป็นปีที่ 8
นายบุญเลิศ วิบูลย์เกียรติ หัวหน้ากลุ่มธุรกิจไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจแอลซีดีมอนิเตอร์ไอทีปีนี้ว่า ตลาดจะมีอัตราการเติบโตกว่า 15% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และยังมีแนวโน้มการเติบโตของผลิตภัณฑ์แอลซีดีมอนิเตอร์ระดับพรีเมียมที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
สำหรับซัมซุงในปีที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงในกลุ่มผลิตภัณฑ์แอลซีดีมอนิเตอร์ ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำด้านยอดขายอันดับหนึ่งต่อเนื่องด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 23% และในปีนี้ซัมซุงคาดว่าจะสามารถรักษาแชมป์ในกลุ่มธุรกิจนี้ได้ต่อไป โดยมีเป้าหมายเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดให้ได้เป็น 30% ด้วยจุดเด่นด้านดีไซน์ที่ล้ำสมัยและความเหนือระดับแห่งเทคโนโลยีอันก้าวหน้าที่ทำให้แอลซีดีมอนิเตอร์ซัมซุงโดดเด่นกว่าแบรนด์อื่น
จากนโยบายบายและเป้าหมายที่ซัมซุงวางไว้ จึงได้มีการเปิดตัวแอลซีดีมอนิเตอร์ดีไซน์ใหม่ล่าสุด Samsung SyncMaster T220 ซึ่งเป็นแอลซีดีจอแรกของโลกที่ให้อัตราความคมชัดสูงสุด 20,000:1 และอัตราตอบสนองเร็วสุดเพียง 2 มิลลิวินาที พร้อมรองรับการเชื่อมต่อทั้งแบบเอชดีเอ็มไอ (HDMI) และระบบยูเอสบี (USB) (เฉพาะรุ่น T240 และ T260) เน้นความสวยงาม หรูหรา ด้วยดีไซน์ผสานเทคโนโลยีระดับมาสเตอร์พีซ คริสตัล ดีไซน์ในการสร้างสรรค์มอนิเตอร์แอลซีดีให้กลายเป็นงานศิลป์ ฉีกกฎความจำเจจากการทำงานแบบเก่า โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือผู้ใช้งานโน้ตบุ๊กที่ต้องการทำงานด้วยหน้าจอที่สองได้อย่างอิสระและรวดเร็ว
นอกจากนี้ ยังเปิดตัวแอลซีดีมอนิเตอร์ซัมซุงที-ซีรีส์ ใหม่ร่วมด้วยอีก 5 รุ่น เพื่อตอบสนองทุกระดับการใช้งานที่หลากหลาย ได้แก่ ซัมซุง T190, ซัมซุง T190 (G), ซัมซุง T200 (G), ซัมซุง T240 (N), และ ซัมซุง T260 (N)
"แอลซีดีมอนิเตอร์ที-ซีรีส์ทั้ง 6 รุ่นใหม่ ได้แรงบันดาลใจมาจากแสงสะท้อนของเครื่องแก้วคริสตัลที่ให้แสงหักเหไปตามองศาที่ตกกระทบ ขอบจอภาพสามารถปรับเปลี่ยนไปตามสภาพแสง อันเป็นดีไซน์ต่อยอดจากซัมซุง คริสตัล ดีไซน์ แอลซีดีทีวี A650 ที่เพิ่งเปิดตัวในประเทศไทยเมื่อไม่นานมานี้และได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคในระดับพรีเมียม ตลาดประเทศไทยต้องยอมรับว่าเป็นตลาดโหดและหิน เพราะมีผู้ค้าหลายราย ทำให้เกิดการแข่งขันกันสูง รายไหนไม่มีความแตกต่าง ก็จะแข่งเรื่องราคา เราจึงต้องสร้างความแตกต่างให้ผลิตภัณฑ์เพื่อฉีกหนีตลาด"
สำหรับแอลซีดีมอนิเตอร์ ที-ซีรีส์ที่จะนำมาทำตลาดในประเทศไทย จะเน้นไปที่จอภาพขนาดใหญ่ใน 3 ขนาด คือ 19 นิ้ว (T190) 22 นิ้ว (T220) และ 26 นิ้ว (T260) เพื่อตอบรับกับกระแสการทำงานบนแอลซีดีมอนิเตอร์จอที่สองที่กำลังมีเพิ่มขึ้น
นอกจากกลุ่มคอนซูเมอร์แล้ว ซัมซุงยังจะเน้นทำตลาดในกลุ่มองค์กรเพิ่มเติมในภาคธุรกิจต่างๆ เช่น ภาคการศึกษา, ธุรกิจการบิน, ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่, ห้างสรรพสินค้าและกลุ่มโรงแรม เป็นต้น โดยตั้งเป้ายอดขายแอลซีดีมอนิเตอร์ซีรีส์นี้ไว้ที่ 10,000 เครื่องภายในสิ้นปีนี้ ส่วนตลาดรวมปีนี้คาดว่าจะมียอดขายอยู่ที่ 4.4 แสนเครื่อง
ส่วนแผนการตลาดรอบปีนี้ ซัมซุงจะใช้งบทำตลาดเฉพาะผลิตภัณฑ์แอลซีดีมอนิเตอร์ประมาณ 150 ล้านบาท เพื่อให้ยอดขายเป็นไปตามเป้า และรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดเป็นปีที่ 8 ติดต่อกัน
ที่ผ่านมาธุรกิจในกลุ่มแอลซีดีมอนิเตอร์ ซัมซุงครองอันดับหนึ่งในตลาดมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมาซัมซุงมีส่วนแบ่งตลาดที่ 23% หรือ 1,650 ล้านบาท จากมูลค่าตลาดรวมจอภาพมูลค่า 7.5 พันล้านบาท สำหรับในปีนี้ ซัมซุงตั้งเป้าที่จะเพิ่มส่วนแบ่งตลาดแอลซีดีมอนิเตอร์ขึ้นเป็น 30% ซึ่งซัมซุงได้วางกลยุทธ์ในการทำตลาดโดยจะเน้นไปทำตลาดในผลิตภัณฑ์จอภาพขนาด 19 นิ้วขึ้นไป เพราะผู้บริโภคไม่ใช้งานแค่การดูข้อมูลเท่านั้น แต่ยังใช้ควบคู่ไปกับความบันเทิงด้วย
Company Related Links :
Samsung
