ถึงยุคการพัฒนาสู่ดาต้าเซ็นเตอร์3.0 ซิสโก้มองความพร้อมของตลาดไทยยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น แต่จะบูมในอีก2-3 ปีข้างหน้า โดยมีอัตราการเติบโตในระดับ 30-50 % พร้อมเปิดตัวแพลตฟอร์มระดับดาต้าเซ็นเตคอร์ยุคใหม่ เตรียมความพร้อมรองรับตลาดโต ชูจุดขายของความครอบคลุม ครบวงจร เอื้อประโยชน์กับผู้ใช้กว่าแบรนด์อื่น
มงคล อัศวโกวิทกรณ์ ผู้อำนวยการกลุ่มแอ๊ดวานซ์เทคโนโลยี บริษัท ซิสโก้ ซีสเต็มส์(ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญกับการปรับตัวเข้าสู่กระแสเทคโนโลยีดาต้าเซ็นเตอร์ 3.0 กันอย่างมากโดยมองเห็นประโยชน์ในเรื่องการประหยัดพลังงานอันเนื่องจากเซิร์ฟเวอร์ใช้เวลาในการเตรียมการไม่นานนัก ที่สำคัญช่วยลดภาวะโลกร้อนตามกระแสความนิยม และโดยเฉพาะในพีเจอร์ เวอร์ชวลไลเซชั่น จะส่งผลถึงการลดต้นทุนจ่ายค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาระบบลงได้อย่างมาก สามารถใช้รีสอดได้คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น ตลอดจนการดูแลรักษาระบบได้ง่ายขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ 2.0 รูปแบบเดิม
ในส่วนเมืองไทยผู้บริหารซิสโก้มองว่าอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการยอมรับและคาดว่าอีก 2-3 ปี ประเทศไทยจะพัฒนาไปสู่ดาต้าเซ็นเตอร์ 3.0 กันอย่างแพร่หลาย โดยมองการเติบโตนับจากนี้ไปว่าน่าจะอยู่ในระดับ 30 -50% ต่อปี
“การที่ประเทศไทยยังช้าในเรื่องการยอมรับและพัฒนาสู่ดาต้าเซ็นเตอร์ 3.0 อาจมองได้หลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการเคยชินอยู่กับการทำงานแบบเดิมๆ เคยชินกับแอพพริเคชั่นเดิมอยู่อย่างกลุ่มธุรกิจธนาคาร เมื่อจะเปลี่ยนเป็นเทคโนโลยีใหม่จึงให้ความสำคัญกับแอปพลิเคชั่นที่จะมารองรับเป็นสำคัญ นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับช่วงจังเหวาะเวลาที่ยังไม่ถึงเวลาอัปเกรดระบบงาน ปัจจัยเหล่านี้จึงเป็นตัวสกัดการพัฒนาสู่ดาต้าเตอร์ 3.0 ของประเทศไทย”
เพื่อรองรับกระแสดาต้าเซ็นเตอร์ 3.0 ซิสโก้เปิดตัวโซลูชั่นใหม่ที่จะมารองรับดาต้าเซ็นเตอร์รุ่นใหม่ในอนาคต โดยการเปิดตัวแพลตฟอร์มเครือข่ายสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ 3.0และกลุ่มผลิตภัณฑ์สวิตซ์ Cisco Nexus สำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ และการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ Cisco Catalyst โดยมุ่งประโยชน์ที่ได้รับของความต่อเนื่องในการดำเนินงานและการับส่งข้อมูลตลอดจนการปรับขนาดงาน
ภายใต้วิสัยทัศน์ดาต้าเซ็นเตอร์ 3.0 ซิสโก้มุ่งปรับเปลี่ยนดาต้าเซ็นเตอร์ให้กลายเป็นสภาพแวดล้อมแบบเสมือน ช่วยให้องค์กรต่างๆสามารถปรับใช้กลยุทธ์ใหม่ๆทางด้านไอที โดย Cisco Nexus7000Series เมื่อใช้งานร่วมกับ Catalyst 6500 Series ซึ่งรองรับเครือข่าย 10 กิกะบิต อีเธอร์เน็ตจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนย้ายไปสู่ระบบเครือข่ายดาต้าเซ็นเตอร์ยุคใหม่ได้อย่างมีปริทธิภาพ
การสร้างดาต้าเซ็นเตอร์โดยใช้ระบบเครือข่ายแบบครบวงจรจะช่วยให้ลูกค้าไม่จำเป็นต้องติดตั้งเครือข่ายสตอเรจและครือข่ายประมวลผลในลักษณะคู่ขนาน ทั้งช่วยลดจำนวนอินเทอร์เฟชของเซิร์ฟเวอร์และลดความจำเป็นในการเดินสายสัญญาณติดตั้งระบบสวิตช์บยโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้เครือข่ายแบบครบวงจรยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ที่มีประสิทธิภาพ สามารถรองรับเวิร์กโหลดทางด้านไอทีได้มากขึ้น ประหยัดพลังงานโดยรวมได้มากกว่าปกติ
ผู้บริหารซิสโก้กล่าวว่าจุดขายของซิสโก้อยู่ที่การมีการเป็นโททอล ดาต้าเซ็นเตอร์ครบวงจร ที่ต่างจากผู้ทำตลาดรายอื่นที่มองเป็นจุดไป ไม่ครอบคลุมทั้งหมดผู้ใช้จึงไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร โดยซิสโก้มีการวางแนวทางในอนาคตไว้ว่านับจากนี้ต่อไปอีก 18 เดือนซิสโก้จะมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์อย่างต่อเนื่อง โดยจะเพิ่มผลิตภัณฑ์และความสามารถใหม่ๆเพื่อใช้ดาต้าเซ็นเตอร์รุ่นใหม่ๆมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่พร้อมกันทั่วโลกในครั้งนี้ของซิสโก้ น่าจะมองว่าเป็นการเตรียมตัวเพื่อรองรับตลาดขององค์กรธุรกิจทุกประเภทที่จะมีการพัฒนาสู่ดาต้าเซ็นเตอร์ 3.0 ในอีกเร็ววันนี้มากกว่าการมุ่งเรื่องการทำรายได้ที่จะเห็นตัวเลขได้ในปีนี้ โดยในปีหน้าซิสโก้เมืองไทยคาดว่าจะมีลูกค้าประมาณ 2-3 แห่ง
Company Related Links :
Cisco