การสำรวจฟันธง อีก 3 ปีข้างหน้าคือปี 2010 อัตราการใช้พลังงานของศูนย์กลางข้อมูลหรือดาต้าเซ็นเตอร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะเพิ่มขึ้นจากตัวเลขในปี 2005 ราวหนึ่งเท่าตัว ผลจากอัตราการขยายตัวของศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ในเอเชียที่เชื่อว่าจะมีการเติบโตสูงมากในอนาคตอันใกล้
เอเอ็มดีเป็นผู้เผยแพร่ผลการสำรวจดังกล่าว โดยเชื่อว่าในปี 2010 ศูนย์ข้อมูลในเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น) จะต้องใช้พลังงานจากโรงไฟฟ้าขนาด 1,000 เมกะวัตต์ถึงสองแห่งเพื่อเลี้ยงศูนย์ ทั้งในส่วนระบบคอมพิวเตอร์ ระบบการโทรคมนาคม ระบบเก็บข้อมูล และระบบระบายความร้อน สิ่งที่เกิดขึ้นสามารถวาดเป็นภาพคร่าวๆของรูปแบบการใช้งานพลังงานในศูนย์ข้อมูลทั่วโลกที่เปลี่ยนแปลงไป
ผลสำรวจนี้พยากรณ์ว่า ในปี 2010 สัดส่วนการใช้พลังงานของศูนย์ข้อมูลในประเทศสหรัฐอเมริกาจะน้อยลงจากที่เคยคิดเป็น 40 เปอร์เซ็นต์ในปี 2000 เหลือราว 30 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 10 เปอร์เซ็นต์เป็น 16 เปอร์เซ็นต์ คาดว่าการใช้พลังงานในศูนย์ข้อมูลสหรัฐฯและยุโรปจะคิดเป็น 2 ใน 3 ของการใช้พลังงานทั้งหมด
ตั้งแต่ปี 2000 ถึง 2005 การสำรวจพบว่าศูนย์ข้อมูลในเอเชียแปซิฟิกมีการใช้พลังงานเพิ่มขึ้น 23 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ขณะที่เอเชียแปซิฟิกมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 16 เปอร์เซ็นต์ต่อปี สถิติดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศจะกลายเป็นสาเหตุหลักของปัญหาโลกร้อนในอนาคต เนื่องจากพลังงานไฟฟ้าเหล่านี้ต้องใช้การเผาผลาญเชื้อเพลิงธรรมชาติเพื่อเป็นแหล่งกำเนิดไฟฟ้า
"ปัจจุบัน ถ่านหินถูกนำไปสร้างพลังงานราว 25 เปอร์เซ็นต์ของพลังงานโลก และพลังงานไฟฟ้า 40 เปอร์เซ็นต์สร้างมาจากถ่านหิน" แลร์รี่ เวอร์ทอล นักกำหนดยุทธศาสตร์สิ่งแวดล้อมของเอเอ็มดีกล่าว "เราต้องทำงานให้มากขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่พัฒนาประสิทธิภาพและระบบระบายความร้อน แต่ต้องทำงานร่วมกับพันธมิตรอุตสาหกรรมและภาครัฐเพื่อลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าลงให้ได้มากกว่าที่เป็นอยู่"
Company Related Links :
AMD