เอปสันวิเคราะห์ภาพรวมตลาดพริ้นเตอร์ปีหน้ามัลติฟังก์ชั่นมาแรงแซงซิงก์เกิลฟังก์ชั่น คาดตลาดรวมถึง 1 ล้านตัวจากปัจจัยความพร้อมด้านการเมืองและเศรษฐกิจส่งผลกำลังซื้อเพิ่มขึ้น พร้อมปรับกลยุทธ์ตลาดเลือกตัวแทนตั้งเป็น “EAP” ถ่ายทอดความเป็นเอปสันสื่อสารตรงถึงลูกค้าทั้งคุณสมบัติและความคุ้มค่า ตั้งเป้าของเป็นที่ 1 ในอีก 3 ปีข้างหน้า
ยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท แอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงภาพรวมของตลาดในปี 2551 ว่ากระแสความนิยมของเครื่องมัลติฟังก์ชั่นจะมาแรงกว่าเครื่องซิงก์เกิลฟังก์ชั่น จากปัจจุบันที่ยอดรวมเครื่องซิงก์เกิลฟังก์ชั่นจะมีตัวเลขสูงกว่าเครื่องมัลติฟังก์ชั่นนิดหน่อย ขณะประเทศอื่นอย่างสิงคโปร์ตัวเลขการทำตลาดเครื่องมัลติฟังก์ชั่นจะมากกว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความแตกต่างด้านราคามีไม่มากนัก บางรุ่นราคาต่างกันไม่ถึงหนึ่งพันบาท ส่งผลให้การตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น โดยเฉพาะในตลาดที่ต้องการซื้อพริ้นเตอร์เครื่องที่ 2 ก็จะเลือกเครื่องมัลติฟังก์ชั่น
“ปีหน้าตลาดรวมยังคงขยายตัวและคาดว่าจะขยายตัวมากกว่าปีนี้ ปีนี้คนยังรอปัจจัยหลายอย่างแต่ปีหน้าเลือกตั้งเสร็จ ความลงตัวมีมากขึ้น การตัดสินค้าเลือกลงทุนก็ทำได้ง่ายขึ้น และเมื่อตลาดพีซีขยายตัวพริ้นเตอร์เป็นตลาดที่โตตามพีซีก็ต้องขยายตัวตามไปด้วย โดยคาดว่าตลาดรวมจะเติบโตมากกว่า 10 %”
ในส่วนของเอปสันตั้งเป้าไว้ว่าจะขอเป็นที่ 1 ในตลาดอิงค์เจ็ตทั้งมัลติฟังก์ชั่นและซิงก์เกิลฟังก์ชั่นให้ได้ภายใน 3ปี จากปัจจุบันอยู่ในอันดับ 2 ของตลาดไทย
หนึ่งในกลยุทธ์ที่เอปสันจะนำมาใช้เพื่อไปสู่เป้าหมายคือการผลักดันให้ร้านค้าตลอดจนตัวแทนจำหน่ายของเอปสันมีความเป็นหนึ่งเดียวกับเอปสันเพื่อเป็นตัวกลางในการสื่อสารกับลูกค้าให้มีความเข้าใจในตัวโปรดักส์ทั้งด้านคุณภาพ ความคุ้มค่าในการใช้งานมิใช่คำนึงแต่เรื่องราคาเท่านั้น
เอปสันเรียกตัวแทนจำหน่ายที่รับการคัดเลือกเพื่อให้ทำงานใกล้ชิดกับลูกค้ามากที่สุดนี้ว่า “ EAP”หรือ Epson Authorized Partner ที่ทำตลาดสินค้าของเอปสันอย่างเป็นทางการและได้มาตรฐานเดียวกัน โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะมีร้าน EAPให้ได้ 110 แห่งใน 40 จังหวัดในสิ้นปี 2550 และในปี 2551 จะต้องมีอย่างน้อย 1 ร้านค้าใน 1 จังหวัด และถึงมีนาคม 2552 จะมีร้าน EAP 150 แห่งทั่วประเทศโดยทางเอปสันจะดูแลตัวแทนเหล่านี้อย่างใกล้ชิดซึ่งหมายรวมถึงการร่วมรับรู้เรื่องการสต็อกสินค้าด้วย
"ช่วงนี้อยู่ในระหว่างการปรับโครงสร้าง และแผนการตลาดปีหน้าจะได้เห็นเอปสันทำกิจกรรมการตลาดใหม่ๆอีกเยอะ เป้าหมายของเอปสันคือเมื่อคนคิดถึงเราให้คิดถึงเรื่องอิมเมจจิ้ง ไม่ได้คิดว่าเป็นเพียงผู้ทำตลาดพริ้นเตอร์อย่างเดียว" ยรรยงกล่าว
มร.นาโอยูกิ ซาเอกิ ประธาน บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงแนวทางการทำตลาดครึ่งปีหลัง ( ปีงบประมาณของเอปสันนับเมษายนถึงมีนาคมของปีถัดไป)ว่าจะเน้นการพัฒนาทีมงานขายและช่องทางการจำหน่ายให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นเพื่อให้ครอบคลุมทุกตลาดกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งเสริมสินค้าที่อยู่ในความต้องการของตลาดราชการรัฐวิสาหกิจ เอกชน โรงพยาบาล การศึกษา ธนาคาร กลุ่มธุรกิจค้าปลีกซึ่งรวมถึงกลุ่ม SME ด้วย โดยจะเน้นความสัมพันธ์กับกลุ่มตัวแทนให้มากยิ่งขึ้นเพื่อให้บุกตลาดเหล่านี้ให้มากยิ่งขึ้นด้วย
“เราจะใช้กลยุทธ์ Cross-Sellingทางการตลดามาเสริมในครึ่งปีหลัง โดยการเพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์ให้กับตัวแทนจำหน่ายเดิมที่ทำตลาดเช่น รายไหนที่จำหน่ายพริ้นเตอร์ก็จะเสนอสินค้าอื่นเช่นสแกนเนอร์เพื่อเสริมไลน์สินค้าให้ทำตลาดได้มากยิ่งขึ้น”
ในส่วนปีงบประมาณ 2549 ที่ผ่านมาเอปสันมียอดรายได้ประมาณ 2,432 ล้านบาท ในจำนวนนี้มาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ 47% และกลุ่มธุรกิจ 53% โดยในปีงบประมาณ 2550 ตั้งเป้ายอดขายรวมไว้ที่ 2,700 ล้านบาท ซึ่ง ณ ปัจจุบันทำได้ 47 % ของเป้าหมายที่ตั้งไว้คิดเป็นรายได้ประมาณ 1,270 ล้านบาท
ล่าสุดเอปสันเปิดตัวผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ 3 รุ่น คือ Epson Stylus Photo R290 ,RX 610 และ PictureMate PM 270 ที่เน้นประสิทธิภาพของ Epson Claria Photo Lap Systemทำงานด้วยหมึก Claria Photographic Ink ให้ภาพสวยงานยาวนานถึง 200 ปี พร้อมระบบอัตโนมัติในการตรวจสอบและแก้ไขไฟล์ภาพดิจิตอลด้วย Claria Photo Enhance
ยรรยง กล่าวว่า จากตลาดรวมอิงค์เจ็ตพริ้นเตอร์ในปีนี้ประมาณ 9 แสนตัว คาดว่าในปีหน้าจะเพิ่มเป็น 1 ล้านตัว ซึ่งในจำนวนนี้จะเป็นของตลาดโฟโต้พริ้นเตอร์ประมาณ 10 % โดยเอปสันจะให้ความสำคัญกับตลาดโฟโต้ให้มากยิ่งขึ้น โดยจะชูจุดเด่นอื่นๆของการพริ้นภาพเองที่บ้านซึ่งทั้งความสะดวก สบาย และในแง่จิตใจมาเป็นข้อดีเมื่อเทียบกับการไปพริ้นที่ร้านแลปสี ซึ่งปัจจุบันยังมีต้นทุนในการพิมพ์ต่อใบถูกกว่าการพิมพ์เองอยู่มากอันเนื่องจากต้นทุนราคากระดาษสูงกว่า
Company Related Link :
Epson