Edited - ไขแนวคิดพงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา หรือ “ปุ้ม-วงตาวัน” โปรดิวเซอร์ชื่อดังเบื้องหลังนักร้องค่ายยักษ์ใหญ่ ที่ระบุว่ากำลังสนุกสนานกับการสะกดรอยเส้นทางประวัติศาสตร์ศิลปะดนตรีเผ่าไทยทั่วเอเชีย เพื่อบันทึกลงใน “Siamese Project” เว็บไซต์แหล่งรวบรวมดนตรีหลากชนเผ่าที่คาดว่าจะเปิดใช้งานจริงในอีก 2 ปีข้างหน้า
เว็บไซต์แหล่งเรียนรู้ดนตรีเผ่าไทยแห่งอนาคตฝีมือโปรดิวเซอร์มือเก๋าคนนี้จะเกิดขึ้นที่ www.siameseproject.net พงษ์พรหมระบุว่าภายในเว็บไซต์จะรวบรวมแหล่งกำเนิดและความเป็นมาเกี่ยวกับศิลปะดนตรีของชนเผ่าไทยต่างๆ ผ่านการเดินทางและการลงมือสำรวจจริงทั่วประเทศในแถบเอเชีย ทั้งเผ่าไทยดำ ไทยใหญ่ ไทยลื้อ ไทยเสียม รวมถึงจ้วงในจีน นำเสนอบนรูปภาพสวยงามจากสถานที่จริง และคลิปวีดีโอการละเล่นของแต่ละชนเผ่า
เริ่มต้นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว
เบื้องหลังของ “Siamese Project” เกิดจากแนวความคิดของพงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ซึ่งปัจจุบันผันตัวมาเป็นอาจารย์และผู้บริหาร Gen-X Academy สถาบันพัฒนาบุคลากรสายอาชีพบันเทิง พงศ์พรหมเล่าว่าการเดินทางเพื่อรวบรวมศิลปะดนตรีเผ่าไทยพร้อม Mac Book Pro คู่ใจและอุปกรณ์บันทึกเสียง Ultra Lite โมเดลของ Audio Interface นั้นเริ่มต้นเมื่อปี 2547
พงศ์พรหมย้อนความหลังให้ฟังว่าในตอนแรกตั้งใจจะค้นคว้าเรื่องราวดนตรีไทย เผ่าไทย และศิลปวัฒนธรรมไทยเท่านั้น เพื่อนำไปใช้ในงานดนตรีของตัวเอง แต่การสะกดรอยทำให้พบว่า ความเป็นจริงแล้วคนเผ่าไทยกับเผ่าอื่นหรือชนชาติอื่นที่แบ่งแยกเป็นลาว เป็นเขมร หรือพม่านั้นเกี่ยวพันกันอย่างลึกซึ้งทั้งสิ้น แต่มาแยกกันตามกลุ่มชนแต่ละกลุ่มชนภายหลัง เพราะการอพยพเดินทาง
"เมื่อพูดถึงเรื่องนี้มันจึงโยงเข้าไปเกี่ยวกับเรื่องของพันธุกรรม Genetic ผสมกับคำว่า Music หรือดนตรี กลายมาเป็น Genomusic ผมจึงเปลี่ยนวิธีนำเสนอโปรเจ็คต์จากที่เจาะจงเฉพาะเรื่องราวของไทยอย่างเดียว มาเป็นการศึกษาข้อมูล ผ่านการเชื่อมโยงเผ่าไทยกับเผ่าชนชาติอื่นๆเข้าด้วยกัน เพื่อหาข้อพิสูจน์ว่า แท้จริงแล้ว ดนตรีในภูมิภาคนี้ มีพื้นฐานเหมือนกันหรือไม่"
สนุกและตื่นเต้น
โปรดิวเซอร์หนุ่มผู้ไม่ยอมให้ศักยภาพของตนเองหยุดอยู่กับที่ ไล่เลี่ยวิธีการทำงานในช่วงเวลา 3 ปีที่ผ่านมาว่าเริ่มต้นด้วยการทุ่มเทเวลาศึกษาข้อมูลของชนเผ่าต่างๆ หลังจากนั้นจึงลงสำรวจพื้นที่จริง โดยมีซาวด์เอ็นจีเนียร์และช่างภาพมือโปรเดินทางไปด้วย สิ่งที่ได้รับมานอกจากความรู้คือความสนุกและตื่นเต้น
“การสะกดรอยเรื่องราวครั้งนี้สำหรับผมถือเป็นโปรเจ็คต์ที่สนุกและน่าตื่นเต้น” พงษ์พรหมเล่า "มีอุปกรณ์ด้านเทคโนโลยีติดตัวไปทุกที่ 2 ชิ้นคือ Mac Book Pro และ Ultra Lite Interface คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กและเครื่องสำหรับแปลงสัญญาณเสียงให้เป็นข้อมูลเข้าสู่คอมพิวเตอร์ โดยมีซาวด์เอ็นจีเนียร์และช่างภาพเดินทางติดตามไปด้วย"
เพียงเท่านี้โปรเจ็คต์ของเขาก็จะได้ทั้งภาพ วีดีโอ และเสียงที่สมบูรณ์
ทีมสำรวจทั้ง 3 คน เริ่มต้นจากชนเผ่าต่างๆในไทยก่อน ไม่ว่าจะเป็นไทยดำ ไทยใหญ่ ไทยลื้อ ไทยเสียม ไทยเมา ไทยไต้คง รวมถึงจ้วงในจีน ยูนาน ไปภูฏานและเผ่าอื่นๆอีกมากมาย หลังจากนั้นจึงขยายพื้นที่ลงสนามต่อไปที่กวางสี เวียดนาม หลวงพระบาง พม่า มอญ จำปาศักดิ์ กัมพูชา เมืองออกแก้วอาณาจักรพนมเก่า มาเลเซีย และอื่นๆ อีกหลายแห่ง
ข้อมูลที่ได้ทั้งหมดจะถูกเก็บรวบรวมในเว็บไซต์ www.siameseproject.net เว็บไซต์ส่วนตัวที่พงศ์พรหมสร้างขึ้นเพื่อเตรียมไว้สำหรับเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลให้ผู้สนใจได้ศึกษา คาดว่าจะเปิดใช้งานในอีก 2 ปีข้างหน้า
ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว
เหตุที่ยอมเหนื่อยทุ่มเทกับโปรเจ็คต์นี้ อดีตสมาชิกวงตาวันอธิบายว่าเพื่อหวังให้เกิดผลประโยชน์ทางด้านวิชาการมากกว่าเชิงธุรกิจ อยากให้เด็กรุ่นใหม่ นักเรียน นักศึกษา หรือผู้สนใจ เข้าไปศึกษา หรือสืบค้นข้อมูลจากเว็บไซต์ดังกล่าวข้างต้นโดยไม่มีค่าใช้จ่าย สำหรับประโยชน์ที่เขาจะได้เองนั้น อาจจะแฝงมากับผลงานของเขาในอนาคตต่อไป
“ถ้าในเรื่องธุรกิจก็คงเป็นในเรื่องของสารคดีกับอัลบั้มที่จะออกใหม่ อัลบั้มนี้ก็ถือเป็นการทดลองชนิดหนึ่งซึ่งข้อมูลที่ได้จากการทำโปรเจ็คต์นี้มีเยอะมาก จึงแบ่งแยกประเภทออก ถ้าใครอยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับดนตรีไทยในส่วนที่เป็นเพลงก็มีหรือจะไปค้นคว้าเป็นรูปภาพที่เว็บไซต์หรือสารคดีก็ได้”
เรียนบนเน็ตไม่มีวันจบ
"ถ้าซื้อหนังสือเล่มหนึ่งที่มีหนึ่งร้อยหน้า เมื่ออ่านจบหนังสือเล่มนี้ก็ไม่สามารถเป็นอะไรได้มากไปกว่าหนึ่งร้อยหน้านั้น แต่หนังสือเรียนในอินเตอร์เน็ตไม่มีวันจบสิ้น" พงษ์พรหมแสดงทัศนะที่มีต่อการศึกษาออนไลน์ ณ ปัจจุบัน "แต่ละคนเลือกเอาไปใช้แตกต่างกัน หลายคนเอาไปใช้ในทางไม่ดี ขณะที่อีกไม่น้อย สามารถตักตวงประโยชน์ได้เต็มที่ ดังนั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลว่า จะเลือกใช้ในส่วนที่ดี หรือไม่ดีกับตัวเอง"
และแม้ว่าจะมีเว็บไซต์ล่อแหลมซึ่งไอซีทีต้องประกาศบล็อคจำนวนไม่น้อย แต่พงษ์พรหมเชื่อว่าคุณประโยชน์ของอินเตอร์เน็ตมีมากกว่าข้อเสีย
"อย่างเช่น wikipedia.org ที่นี่เป็นหนังสือเรียนขนาดใหญ่ สามารถค้นคว้าเรื่องอะไรก็ได้ นี่คือสิ่งที่เทคโนโลยีให้เราเรื่องคุณประโยชน์ และประโยชน์ของเทคโนโลยีสำหรับโปรเจ็คต์ที่ทำอยู่นี้ก็คือ หากผู้ที่สนใจอยากจะต่อยอดความรู้เพิ่มก็สามารถเข้ามาเอาข้อมูลไปศึกษาต่อได้เลย โดยติดตามได้ที่ www.siameseproject.net”
ทั้งหมดนี้คืออีกหนึ่งมุมมองเกี่ยวกับเทคโนโลยีของคุณปุ้ม พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ที่แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีคือสิ่งซึ่งพัฒนาไม่หยุดนิ่ง และส่งให้เราพัฒนาได้เรื่อยๆอย่างไม่หยุดนิ่งเช่นกัน อยู่ที่ว่าเราจะเอาเทคโนโลยีที่อยู่ในกำมือไปใช้ให้ก่อเกิดประโยชน์ด้านใดและแบบไหนต่างหาก