เอเซอร์ ย้ำจุดยืนบริการหลังการขาย เพิ่มกลยุทธ์เชิงรุก “QUICK”ถล่มคู่แข่งเน้น ทุกอย่างต้องรวดเร็ว เข้าถึงและตอบสนอง ปี50 ขยายศูนย์บริการเอเซอร์อีก 2 แห่ง ใช้งบอีก25 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาสแรกยังคงเหนียวแน่นเก้าอี้ผู้นำตลาด โน้ตบุ๊ค-พีซี-แอลซีดี ครองส่วนแบ่งตลาด 23% ย้ำถึงแม้การเมืองอึมครึม แต่ยังมั่นใจตลาด ถึงชะลอตัวแต่ยังมีการเติบโตอยู่
นายโสภณ ปานฉิม ผู้อำนวยการฝ่ายบริการ บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ กล่าวว่าเอเซอร์ ได้เพิ่มกลยุทธ์ QUICKในด้านการให้บริการหลังการขาย ด้วยการเพิ่มรูปแบบและคุณภาพการให้บริการ อาทิ การให้บริการซ่อมบำรุงนอกสถานที่ การอบรม การอัพเกรด ระยะเวลาการซ่อมบำรุง เพื่อแสดงถึงความเป็นผู้นำตลาด และแข่งขันเชิงรุกในด้านการจำหน่าย พร้อมกับสร้างจุดแข็งในเรื่องบริการให้เหนือคู่แข่ง
นโยบายเอเซอร์ให้ความสำคัญการให้บริการหลังการขายมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มศูนย์บริการและรูปแบบการให้บริการต่างๆซึ่งปีนี้ ภายใต้กลยุทธ์ใหม่ เอเซอร์ได้เพิ่มการให้บริการหลังการขาย ให้กับลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊กด้วยให้ทางเลือกกลุ่มลูกค้าด้วยการเพิ่มระยะเวลาในการรับประกันสินค้าหากสูญหายหรือเกิดอุบัติเหตุ จาก 1 ปี เป็น 3 ปี
การให้บริการผ่านเว็บไซต์ saby web เพื่อให้ลูกค้าสืบค้นข้อมูล การดาวน์โหลดอัพเกรดไดร์ฟเวอร์และซอฟต์แวร์ รวมไปถึงการโพสสอบถามข้อมูล ข้อสงสัยโดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยตอบ 24 ชั่วโมง ส่วนที่ศูนย์บริการสาขา จัดให้มีการให้บริการรับส่งถึงบ้าน หลังจากทำการส่งซ่อมโดยเอเซอร์ จะซ่อมบำรุงให้แล้วเสร็จ ภายใน 1 วัน กรณีพื้นที่ต่างจังหวัดส่งเข้ามาส่วนกลาง จะใช้เวลา 2 วันทำการบริการหลังการขายถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าเอเซอร์ ซึ่งเหนือกว่าคู่แข่ง
“เอเซอร์ได้สร้างเครือข่ายบริการหลังการขายที่เป็นโมเดลของตัวเองออกมา แถมยังมีเอกลักษณ์ที่เหนือกว่าใครตรงที่ บริหารเครือข่ายดังกล่าวด้วยตนเอง”
ในปีที่ผ่านมาเอเซอร์ได้ใช้งบกว่า 20 ล้านบาท เปิดศูนย์บริการ เอเซอร์ เซอร์วิส เซ็นเตอร์แห่งใหม่ บนถนนสาทร พระราม3 เป็นศูนย์บัญชาการในด้านบริการหลังการขายและศูนย์อะไหล่ของผลิตภัณฑ์เอเซอร์ทุกรุ่นมูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังเป็นศูนย์กลางด้านการซ่อมแซมให้กับลูกค้าต่างจังหวัด และดีลเลอร์ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ 120 แห่งผ่านศูนย์บริการของเอเซอร์ 12 แห่งรองรับการให้บริการ
“ปีนี้มีแผนขยายเพิ่มอีก 2 แห่ง ในเขตพื้นที่ธนบุรีและ กลางเมืองในเขตกทม. โดยใช้เงิน 25 ล้านบาท ทั้งด้านการขยายสาขาบริการและระบบไอที”
นายนิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด เอเซอร์ กล่าวว่า จากปัจจัยลบของภาพรวมเศรษฐกิจและการเมืองที่หลายฝ่ายมีการคาดการณ์ถึงพฤติกรรมการซื้อสินค้าราคาสูงที่จะมีแนวโน้มชะลอตัวลดลง อย่างกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ แต่สำหรับสินค้าในกลุ่มไอที อย่างคอมพิวเตอร์ และโน้ตบุ๊ก
พบว่ากลุ่มผู้บริโภคยังคงมีความต้องการและยังคงให้ความสนใจในการเลือกซื้อโดยสังเกตุจากยอดการจำหน่ายสินค้าในงานคอมมาร์ตไทยแลนด์ 2007 ซึ่งเอเซอร์ ประสบความสำเร็จจากการทำยอดขายได้เกินกว่าที่ตั้งเป้าไว้ คือ มากกว่า 15,000 เครื่อง เท่ากับ 30 % ของยอดขายโน้ตบุ๊กรวมทั้งงาน
ขณะที่การ์ทเนอร์ ได้ประเมินตลาดในช่วงไตรมาสแรกปี 2550 ของไทย พบว่าเอเซอร์ยังคงเป็นผู้นำยอดขายในตลาดสูงสุดเป็นอันดับ1 หรือ มีส่วนแบ่งตลาดรวม 23% หรือ 485,000 เครื่อง ในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ทั้ง โน้ตบุ๊ก พีซี จอภาพแอลซีดี โดยที่โน้ตบุ๊ก เอเซอร์มีส่วนแบ่งตลาด 43% จากตลาดรวมอยู่ที่ 170,900 เครื่องกลุ่มพีซีมีส่วนแบ่ง 13% จากตลาดรวม 288,000 เครื่อง
ทั้งนี้เอเซอร์มีส่วนแบ่งตลาดห่างจากที่สองไม่มากนัก แต่เมื่อเทียบกับอันดับ 3-4 แล้วถือว่า ทิ้งห่างค่อนข้างมากจึงไม่เกิดข้อกังวลกับคู่แข่งอันดับ 3-4 จะขึ้นมาแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดได้ หากเอเซอร์สามารถรักษามาตรฐานการให้บริการซึ่งเมื่อเทียบกับ 4-5 ปีที่แล้วที่เอเซอร์มีส่วนแบ่งตลาดอยู่เป็นอับดับ 4-5 ในตลาด
Company Relate Link :
Acer
นายโสภณ ปานฉิม ผู้อำนวยการฝ่ายบริการ บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ กล่าวว่าเอเซอร์ ได้เพิ่มกลยุทธ์ QUICKในด้านการให้บริการหลังการขาย ด้วยการเพิ่มรูปแบบและคุณภาพการให้บริการ อาทิ การให้บริการซ่อมบำรุงนอกสถานที่ การอบรม การอัพเกรด ระยะเวลาการซ่อมบำรุง เพื่อแสดงถึงความเป็นผู้นำตลาด และแข่งขันเชิงรุกในด้านการจำหน่าย พร้อมกับสร้างจุดแข็งในเรื่องบริการให้เหนือคู่แข่ง
นโยบายเอเซอร์ให้ความสำคัญการให้บริการหลังการขายมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มศูนย์บริการและรูปแบบการให้บริการต่างๆซึ่งปีนี้ ภายใต้กลยุทธ์ใหม่ เอเซอร์ได้เพิ่มการให้บริการหลังการขาย ให้กับลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊กด้วยให้ทางเลือกกลุ่มลูกค้าด้วยการเพิ่มระยะเวลาในการรับประกันสินค้าหากสูญหายหรือเกิดอุบัติเหตุ จาก 1 ปี เป็น 3 ปี
การให้บริการผ่านเว็บไซต์ saby web เพื่อให้ลูกค้าสืบค้นข้อมูล การดาวน์โหลดอัพเกรดไดร์ฟเวอร์และซอฟต์แวร์ รวมไปถึงการโพสสอบถามข้อมูล ข้อสงสัยโดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยตอบ 24 ชั่วโมง ส่วนที่ศูนย์บริการสาขา จัดให้มีการให้บริการรับส่งถึงบ้าน หลังจากทำการส่งซ่อมโดยเอเซอร์ จะซ่อมบำรุงให้แล้วเสร็จ ภายใน 1 วัน กรณีพื้นที่ต่างจังหวัดส่งเข้ามาส่วนกลาง จะใช้เวลา 2 วันทำการบริการหลังการขายถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าเอเซอร์ ซึ่งเหนือกว่าคู่แข่ง
“เอเซอร์ได้สร้างเครือข่ายบริการหลังการขายที่เป็นโมเดลของตัวเองออกมา แถมยังมีเอกลักษณ์ที่เหนือกว่าใครตรงที่ บริหารเครือข่ายดังกล่าวด้วยตนเอง”
ในปีที่ผ่านมาเอเซอร์ได้ใช้งบกว่า 20 ล้านบาท เปิดศูนย์บริการ เอเซอร์ เซอร์วิส เซ็นเตอร์แห่งใหม่ บนถนนสาทร พระราม3 เป็นศูนย์บัญชาการในด้านบริการหลังการขายและศูนย์อะไหล่ของผลิตภัณฑ์เอเซอร์ทุกรุ่นมูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังเป็นศูนย์กลางด้านการซ่อมแซมให้กับลูกค้าต่างจังหวัด และดีลเลอร์ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ 120 แห่งผ่านศูนย์บริการของเอเซอร์ 12 แห่งรองรับการให้บริการ
“ปีนี้มีแผนขยายเพิ่มอีก 2 แห่ง ในเขตพื้นที่ธนบุรีและ กลางเมืองในเขตกทม. โดยใช้เงิน 25 ล้านบาท ทั้งด้านการขยายสาขาบริการและระบบไอที”
นายนิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด เอเซอร์ กล่าวว่า จากปัจจัยลบของภาพรวมเศรษฐกิจและการเมืองที่หลายฝ่ายมีการคาดการณ์ถึงพฤติกรรมการซื้อสินค้าราคาสูงที่จะมีแนวโน้มชะลอตัวลดลง อย่างกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ แต่สำหรับสินค้าในกลุ่มไอที อย่างคอมพิวเตอร์ และโน้ตบุ๊ก
พบว่ากลุ่มผู้บริโภคยังคงมีความต้องการและยังคงให้ความสนใจในการเลือกซื้อโดยสังเกตุจากยอดการจำหน่ายสินค้าในงานคอมมาร์ตไทยแลนด์ 2007 ซึ่งเอเซอร์ ประสบความสำเร็จจากการทำยอดขายได้เกินกว่าที่ตั้งเป้าไว้ คือ มากกว่า 15,000 เครื่อง เท่ากับ 30 % ของยอดขายโน้ตบุ๊กรวมทั้งงาน
ขณะที่การ์ทเนอร์ ได้ประเมินตลาดในช่วงไตรมาสแรกปี 2550 ของไทย พบว่าเอเซอร์ยังคงเป็นผู้นำยอดขายในตลาดสูงสุดเป็นอันดับ1 หรือ มีส่วนแบ่งตลาดรวม 23% หรือ 485,000 เครื่อง ในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ทั้ง โน้ตบุ๊ก พีซี จอภาพแอลซีดี โดยที่โน้ตบุ๊ก เอเซอร์มีส่วนแบ่งตลาด 43% จากตลาดรวมอยู่ที่ 170,900 เครื่องกลุ่มพีซีมีส่วนแบ่ง 13% จากตลาดรวม 288,000 เครื่อง
ทั้งนี้เอเซอร์มีส่วนแบ่งตลาดห่างจากที่สองไม่มากนัก แต่เมื่อเทียบกับอันดับ 3-4 แล้วถือว่า ทิ้งห่างค่อนข้างมากจึงไม่เกิดข้อกังวลกับคู่แข่งอันดับ 3-4 จะขึ้นมาแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดได้ หากเอเซอร์สามารถรักษามาตรฐานการให้บริการซึ่งเมื่อเทียบกับ 4-5 ปีที่แล้วที่เอเซอร์มีส่วนแบ่งตลาดอยู่เป็นอับดับ 4-5 ในตลาด
Company Relate Link :
Acer