เรดแฮทปล่อย Red Hat Enterprise Linux 5 ลงตลาดไทย หลังพัฒนาร่วมกับลูกค้าและพันธมิตรร่วม 2 ปี เน้นตอบโจทก์ประสิทธิภาพ ลดต้นทุน ผสานเทคโนโลยี ชี้ตลาดโอเพ่นซอร์สไทยอยู่ในช่วงเริ่มต้นองค์กรใหญ่เริ่มหันมาใช้มากขึ้น เล็งช่วยดันนักพัฒนาไทยผ่าน เรดแอท เอกเชน กระจายขายสู่ตลาดโลกเหตุปัจจัยใช้งานขยายตัวไม่น้อยกว่า 40%ต่อปี ส่วนเรื่องสถานการณ์ลงทุนอยู่ในภาวะชะลอตัว การเมืองสงบ ตลาดองค์กรกล้าลงทุน
นายเชน โอเวนบี ผู้จัดการส่วนภูมิภาคอาเซียน เรดแฮท เอเซีย แปซิฟิค กล่าวว่า จากผลความสำเร็จในการนำเสนอสถาปัตยกรรมโอเพ่นซอร์สให้กับลูกค้าองค์กรในระบบปฏิบัติการ Red Hat Enterprise Linux หลังจากที่เปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2002 จากผลความโดดเด่นด้านขีดความสามารถ ความแตกต่างสิ่งที่ตอบสนองการใช้งานและ การลงทุนจนทำให้ระบบเป็นที่ยอมรับ เรดแฮท ได้เปิดตัว Red Hat Enterprise Linux 5 หลังจากที่ได้มีการพัฒนาระบบร่วมกับลูกค้าและพันธมิตรให้สามารถตอบประโยชน์การใช้งานและการทำงานให้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้นจากพื้นฐานของปัญหาการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ได้ลงทุนจัดหาไปไม่สามารถแก้ปัญหาและใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ Red Hat Enterprise Linux เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มระบบปฏิบัติการที่เหมาะสำหรับการใช้งานระดับเซอร์ฟเวอร์หลัก ด้านการประมวลผลข้อมูลรวมถึงการใช้งานเครื่องเดสก์ทอปในระดับผู้ใช้งานทั่วไปโดยระบบที่พัฒนาออกมาล่าสุดนี้จะเข้ามาช่วยสอดรับด้านการลงทุนตอบสนองด้านความคุ้มค่า การลดค่าใช้จ่ายของการบริการจัดการและการใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์ของรายอื่น ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนถ่ายแพลตฟอร์มจาก32 บิต ไปสู่ 64 บิต หรือบนความซับซ้อนของสภาวะแวดล้อมเสมือนให้ผสมผสานใช้งานร่วมกันได้
“ลูกค้าเรดแฮท ต้องการประโยชน์สูงสุดจากซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส ที่นอกเหนือจากสิ่งที่เทคโนโลยีปัจจัยพื้นฐานจะสามารถทำได้ แต่ที่ผ่านมามักจะประสบอุปสรรคความยุ่งยากซับซ้อนของการติดตั้ง การทดสอบและใช้โซลูชั่น ด้วยเหตุนี้ เรด แฮท จึงได้ร่วมมือกับลูกค้า และพันธมิตร พัฒนาร่วมกัน ในสิ่งที่ต้องการ”
สำหรับตลาดการใช้งานโอเพ่นซอร์สในประเทศไทย นายโอเวนบี กล่าวว่า อยู่ในช่วงเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงในการหันมาใช้งาน ซึ่งในกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่เริ่มมีหลายรายได้หันมาใช้งาน อย่างบริษัท แอดวานซ์ อินโฟ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส ได้มีการนำ Red Hat Enterprise Linux ไปใช้บริหารจัดการข้อมูลบริการลูกค้า ส่งผลให้ เอไอเอส สามารถลดต้นทุนบริหารจัดการได้อย่างที่ต้องการ
ส่วนด้านสถานการณ์ลงทุนของประเทศไทยขณะนี้ยังอยู่ในภาวะชะลอตัวจากเหตุปัจจัยการเปลี่ยนแปลงรัฐประหาร หากการเมืองสงบและมีรัฐบาลใหม่ตลาดองค์กรหรือภาคธุรกิจจะมีการลงทุนมากขึ้น
นอกจากนี้ในอนาคต เรดแฮท มีแผนร่วมกับพันธมิตรในการพัฒนาแอปพลิเคชัน และโซลูชั่น สำหรับองค์กรในการสร้างกลุ่มผู้พัฒนาโอเพ่นซอร์ส ให้สามารถสร้างรายได้จากการพัฒนา ผ่าน เรดแฮท เอ็กเชน (RHX) โดยที่ผ่านมากลุ่มผู้พัฒนาไทย ยังขาดช่องทางในการเข้าไปเปิดตลาด ซึ่งตลาดโอเพ่นซอร์สจะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจซอฟต์แวร์อนาคตที่จะมีส่วนแบ่งการใช้งานที่สัดส่วนสูง โดยผู้ใช้งานจะเน้นด้านการลงทุน และ การตอบสนองการใช้งานให้ตรงกับความต้องการให้มากที่สุด โดยตลาดแอปพลิเคชั่นและโซลูชั่นของโอเพ่นซอร์ส จากนี้ไปจนถึงปี 2010 จะมีอัตราการขยายตัวต่อปีไม่ต่ำกว่า 30-40 %
“เหตุที่โอเพ่นซอร์สจะขยายตัวเป็นเพราะผู้ใช้ต้องการลดต้นทุนแต่ต้องการใช้อย่างคุ้มค่าบริหารจัดการได้ และเปลี่ยนแปลงได้ตามสิ่งที่ต้องการเมื่อเทียบกับระบบปิดที่ผู้ใช้ต้องรอเวอร์ชั่นใหม่มีทางเลือกการตอบสนองน้อยกว่าที่ต้องการ”
เรดแฮท เป็นอีกหนึ่งในบริษัท ที่บุกเบิกและผลักดันระบบปฏิบัติการลีนุกซ์และโซลูชั่นโอเพ่นซอร์สอื่นๆให้เข้าสู่ตลาด พร้อมกับการสร้างมูลค่าจากซอฟต์แวร์ โดยการพัฒนาบนพื้นฐานการใช้งานและต้นทุนต่ำ โดยผลงานเรดแฮท ได้แก่ ระบบปฏิบัติการ Red Hat Enterprise Linux รวมทั้งแอปพลิเคชันต่างๆ เครื่องมือสำหรับการบริหารจัดการระบบ และ มิดเดิ้ลแวร์โซลูชั่น ได้แก่ JBoss Enterprise Middleware Suite และในอนาคตกำลังเดินหน้าพัฒนาสู่ระบบสถาปัตยกรรม SOA และการใช้งานในรูปแบบเว็บเซอร์วิส โดยบริษัทตัวแทนที่ได้รับการแต่งตั้ง จาก เรด แฮท ในไทย มี 2 ราย คือ บริษัท วีเทค และ บริษัท เอสซีเอส เอนเตอร์ไพรซ์ ซิสเตมส์
Company Related Links :
RedHat