แคนนอนวางกลยุทธ์สู่ความเป็นผู้นำอันดับในตลาดเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชั่นรวมทั้งสีและขาวดำ ในปี 2552 ที่ส่วนแบ่งตลาดประมาณ 28 % ชูแนวคิด Stress Free with Canon ที่จับปัญหาผู้ใช้มาตีให้แตกปรับเป็นจุดขาย พร้อมเตรียมสร้างกระแส“ แคนนอนเอกสาร” เพื่อให้เป็นคำติดปากคนทั่วไป
ร้อยเอกสุนทร ปัณฑรมงคล ผู้อำนวยการอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ส่วนงานบิสซิเนส อิมเมจจิ้ง โซลูชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) กล่าวว่า สิ่งที่จะมาอำนวยความสะดวกในการทำงานปัจจุบันต้องมีฟังก์ชั่นการทำงานได้มากกว่าหนึ่งเดียวโดยเฉพาะอุปกรณ์สำนักงานอย่างเครื่องถ่ายเอกสาร นอกจากเป็นเครื่องถ่ายเอกสารแล้วจำเป็นต้องมีฟังก์ชั่นการทำงานด้านแฟกซ์ เมโมรี่ และอื่นๆ คือเป็นมัลติฟังก์ชั่นในเครื่องเดียวกัน ซึ่งเป็นทิศทางการตลาดที่แคนนอนให้ความสำคัญในการทำตลาดเครื่องถ่ายเอกสาร
ในปี 2549 ที่ผ่านมา แคนนอนทำตลาดเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชั่นได้ประมาณ 4,100 เครื่อง รวมทั้งตลาดสีและขาวดำมีส่วนแบ่งในตลาดประมาณ 19 % จากตลาดรวมเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชั่นรวมประมาณ 24,000 เครื่อง เมื่อเทียบในตลาดแล้วอยู่ในอันดับ 2 ผู้บริหารแคนนอนกล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้แคนนอนประมาณความสำเร็จมาจากหลายส่วนโดยเฉพาะความเชื่อมั่นในส่วนโปรดักส์ตลอดจนโซลูชันในการจัดการงานเอกสาร บริการหลังการขาย
ผู้บริหารแคนนอนกล่าวว่า เครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชั่นของแคนนอนเป็นที่ 1 ของโลกในด้านยอดขาย ในส่วนประเทศไทยตั้งเป้าในปี 2551 จะเป็นที่ 1 ในตลาดเครื่องสี และในปี 2552 ต้องการเป็นที่ 1 ของตลาดรวมทั้งสีและขาวดำโดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 28 % จากยอดขายในปี 2549 ประมาณ 4,100 เครื่องแคนนอนตั้งเป้าเพิ่มยอดขายเป็น 5,600 เครื่องในปี 2550 หรือมีส่วนแบ่งในตลาดประมาณ 23 % และเพิ่มขึ้นเป็น 26 % ในปี 2552
แผนของการสร้างความเป็นผู้นำอันดับ 1 ของแคนนอนเดินตามแนวคิด Stress Free with Canon ที่มองปัญหาของผู้ใช้และหาทางแก้ไข 6 ประการคือ ประหยัดเนื้อที่ในการทำงานเพื่อให้การทำงานแข่งกับเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดต้นทุนในการจัดเก็บเอกสาร ปลอดภัยจากการรั่วไหลของข้อมูล ปลอดภัยจากสารเคมีผงหมึกที่ปลอดสารพิษ และลดความเสียหายด้วยบริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพ
แคนนอนสื่อแนวคิด Stress Free with Canon ออกมาเป็นสื่อโฆษณาที่จะออกไปตามสื่อต่างๆทั้งสิ่งพิมพ์และวิทยุ เพื่อให้ผู้ใช้เข้าในคอนเซ็ปต์ทั้ง 6 อย่าง ภายใต้งบการตลาดประมาณ 90 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบที่มากกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 30 % นอกจากนี้แคนนอนยังมีวางแนวทางที่จะสร้างกระแส “แคนนอนเอกสาร” เพื่อให้เป็นคำติดปากคนทั่วไป โดยมีแผนในการโปรโมตกระแสนี้ในไตรมาส 2 ของปีนี้
ร้อยเอกสุนทร กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมาแคนนอนผลักดันตลาดเครื่องถ่ายเอกสารสีอย่างมาก เป็นผลให้มียอดขายเพิ่มขึ้น 125 % ขาวดำเพิ่มขึ้น 10 % รวมสีและขาวดำประมาณ 15 %
ผู้บริหารแคนนอนวิเคราะห์ถึงผลกระทบทางด้านการเมือง ปัญหาความไม่สงบที่ส่งกระทบต่อเศรษฐกิจในปัจจุบัน ไม่น่าจะส่งผลต่อการทำตลาดเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชั่น เพราะมองว่าเครื่องถ่ายเอกสารเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นในการทำธุรกิจ การเติบโตของตลาดขึ้นอยู่กับ GDP ของประเทศ หาก GDP มีการเติบโตในระดับ 3-4 % ตลาดเครื่องถ่ายเอกสารก็ยังคงมีการเติบโตได้อยู่ โดยแคนนอนจะให้ความสำคัญกับการขยายตลาดให้กว้างมากยิ่งขึ้น ปรับยอดขายตัวแทนจำหน่ายให้เพิ่มขึ้นอีก 20% เน้นการทำงานกับตัวแทนในรูปแบบพาร์ตเนอร์มากกว่าการเป็นตัวแทนขายเพื่อให้มีความรู้และสร้างประสบการณ์ด้านการตลาดไปพร้อมๆ กัน
Company Related Links :
Canon
ร้อยเอกสุนทร ปัณฑรมงคล ผู้อำนวยการอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ส่วนงานบิสซิเนส อิมเมจจิ้ง โซลูชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) กล่าวว่า สิ่งที่จะมาอำนวยความสะดวกในการทำงานปัจจุบันต้องมีฟังก์ชั่นการทำงานได้มากกว่าหนึ่งเดียวโดยเฉพาะอุปกรณ์สำนักงานอย่างเครื่องถ่ายเอกสาร นอกจากเป็นเครื่องถ่ายเอกสารแล้วจำเป็นต้องมีฟังก์ชั่นการทำงานด้านแฟกซ์ เมโมรี่ และอื่นๆ คือเป็นมัลติฟังก์ชั่นในเครื่องเดียวกัน ซึ่งเป็นทิศทางการตลาดที่แคนนอนให้ความสำคัญในการทำตลาดเครื่องถ่ายเอกสาร
ในปี 2549 ที่ผ่านมา แคนนอนทำตลาดเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชั่นได้ประมาณ 4,100 เครื่อง รวมทั้งตลาดสีและขาวดำมีส่วนแบ่งในตลาดประมาณ 19 % จากตลาดรวมเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชั่นรวมประมาณ 24,000 เครื่อง เมื่อเทียบในตลาดแล้วอยู่ในอันดับ 2 ผู้บริหารแคนนอนกล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้แคนนอนประมาณความสำเร็จมาจากหลายส่วนโดยเฉพาะความเชื่อมั่นในส่วนโปรดักส์ตลอดจนโซลูชันในการจัดการงานเอกสาร บริการหลังการขาย
ผู้บริหารแคนนอนกล่าวว่า เครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชั่นของแคนนอนเป็นที่ 1 ของโลกในด้านยอดขาย ในส่วนประเทศไทยตั้งเป้าในปี 2551 จะเป็นที่ 1 ในตลาดเครื่องสี และในปี 2552 ต้องการเป็นที่ 1 ของตลาดรวมทั้งสีและขาวดำโดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 28 % จากยอดขายในปี 2549 ประมาณ 4,100 เครื่องแคนนอนตั้งเป้าเพิ่มยอดขายเป็น 5,600 เครื่องในปี 2550 หรือมีส่วนแบ่งในตลาดประมาณ 23 % และเพิ่มขึ้นเป็น 26 % ในปี 2552
แผนของการสร้างความเป็นผู้นำอันดับ 1 ของแคนนอนเดินตามแนวคิด Stress Free with Canon ที่มองปัญหาของผู้ใช้และหาทางแก้ไข 6 ประการคือ ประหยัดเนื้อที่ในการทำงานเพื่อให้การทำงานแข่งกับเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดต้นทุนในการจัดเก็บเอกสาร ปลอดภัยจากการรั่วไหลของข้อมูล ปลอดภัยจากสารเคมีผงหมึกที่ปลอดสารพิษ และลดความเสียหายด้วยบริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพ
แคนนอนสื่อแนวคิด Stress Free with Canon ออกมาเป็นสื่อโฆษณาที่จะออกไปตามสื่อต่างๆทั้งสิ่งพิมพ์และวิทยุ เพื่อให้ผู้ใช้เข้าในคอนเซ็ปต์ทั้ง 6 อย่าง ภายใต้งบการตลาดประมาณ 90 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบที่มากกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 30 % นอกจากนี้แคนนอนยังมีวางแนวทางที่จะสร้างกระแส “แคนนอนเอกสาร” เพื่อให้เป็นคำติดปากคนทั่วไป โดยมีแผนในการโปรโมตกระแสนี้ในไตรมาส 2 ของปีนี้
ร้อยเอกสุนทร กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมาแคนนอนผลักดันตลาดเครื่องถ่ายเอกสารสีอย่างมาก เป็นผลให้มียอดขายเพิ่มขึ้น 125 % ขาวดำเพิ่มขึ้น 10 % รวมสีและขาวดำประมาณ 15 %
ผู้บริหารแคนนอนวิเคราะห์ถึงผลกระทบทางด้านการเมือง ปัญหาความไม่สงบที่ส่งกระทบต่อเศรษฐกิจในปัจจุบัน ไม่น่าจะส่งผลต่อการทำตลาดเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชั่น เพราะมองว่าเครื่องถ่ายเอกสารเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นในการทำธุรกิจ การเติบโตของตลาดขึ้นอยู่กับ GDP ของประเทศ หาก GDP มีการเติบโตในระดับ 3-4 % ตลาดเครื่องถ่ายเอกสารก็ยังคงมีการเติบโตได้อยู่ โดยแคนนอนจะให้ความสำคัญกับการขยายตลาดให้กว้างมากยิ่งขึ้น ปรับยอดขายตัวแทนจำหน่ายให้เพิ่มขึ้นอีก 20% เน้นการทำงานกับตัวแทนในรูปแบบพาร์ตเนอร์มากกว่าการเป็นตัวแทนขายเพื่อให้มีความรู้และสร้างประสบการณ์ด้านการตลาดไปพร้อมๆ กัน
Company Related Links :
Canon