บอร์ด กสท เร่งเจรจาไกล่เกลี่ยฮัทช์ หลังยืดเยื้อร่วมสองปี “พล.อ.มนตรี สังขะทรัพย์ ”มั่นใจเสร็จได้ก่อนหมดวาระเข้ามาสางปัญหาใน กสท ด้าน “พิศาลจอโภชาอุดม ” รับคำต่อหน้าขอเวลา 6 เดือนจบแน่ พร้อมตั้งคณะทำงานกลั่นกรอง 2ชุด ตรวจสอบสัญญา และ ติดตามโครงการ ก่อนนำเสนอต่อบอร์ด ส่วนจัดซื้อ IBACSS ให้เอกชนทำเสนอราคาก่อนจัดซื้อ เพื่อสอบราคากลาง หวังลดข้อจำกัดและฮั้วก่อนเปิดประมูล
พล.อ.มนตรี สังขะทรัพย์ ประธานคณะกรรมการ(บอร์ด) บริษัท กสท โทรคมนาคม กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการหารือถึงการเจรจาซื้อหุ้น ของ บริษัท ซีเอที ไวร์เลส มัลติมีเดีย หรือ ฮัทช์ ผู้ทำการตลาดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบซีดีเอ็มเอ ในเขตกรุงเทพมหานครและส่วนภาคกลางทั้ง 25 จังหวัด โดยตนได้ตั้งเป้าไว้ว่าภายในอายุงานที่ตนดำรงตำแหน่งอยู่ในฐานะ ประธานบอร์ด กสท จะต้องมีข้อสรุปเรื่องดังกล่าวได้อย่างแน่นอน เนื่องจากว่าขณะนี้ โทรศัพท์เคลื่อนที่ของ “แคท ซีดีเอ็มเอ” ก็ได้เปิดให้บริการแก่ประชาชนครบทั้ง 51 จังหวัดแล้ว ตนจึงไม่อยากให้เกิดความสับสนต่อผู้ใช้งาน ซึ่งในเบื้องต้นตนคาดว่าบอร์ดจะหารือร่วมกัน ในเรื่องดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ที่ประชุมยังมีมติให้คณะกรรมการขึ้นมา 2 กลุ่ม โดยในกลุ่มแรกจะมี นาย ไกรสร บวรมีอวยชัย หนึ่งในบอร์ดและตัวแทนจากกระทรวงการคลัง มาเป็นประธานคณะกรรมการ มาพิจารณาสัญญาต่างๆที่ กสท ทำร่วมกับเอกชนว่ามีข้อได้เปรียบเสียเปรียบตรงจุดไหนบ้าง ทั้งสัญญาร่วมการงานกับฮัทช์ ซึ่งการแต่งตั้งดังกล่าวจะช่วยให้บอร์ดทำงานได้คล่องตัวมากขึ้น เพราะถือว่าได้มีการกลั่นกรองจากคณะกรรมการมาแล้วครั้ง ส่วนคณะกรรมการอีก 1 ชุดจะมี นายศุภชัย จงศิริ หนึ่งในบอร์ดมาเป็นประธานดูแลรับผิดชอบติดตามโครงการของ กสท ให้แล้วเสร็จตามกำหนด รวมทั้งดูแลการส่งมอบสถานีหรือตรวจรับอุปกรณ์ต่างๆด้วย
สำหรับโมเดลการเจรจานั้น บอร์ดจะให้คณะกรรมการทำการศึกษาในทุกๆด้าน พร้อมรายงาน โดยไม่มีการกำหนดแนวทางอย่างชัดเจนให้ ถึงแม้ก่อนหน้านี้ บอร์ดในชุดเก่าที่เคยดำเนินการเจรจาโดยให้ 2 เลือก คือ 1.ซื้อกิจการของฮัทช์ที่ให้บริการ 25 จังหวัดพร้อมหนี้สิ้นรวม 40,000 ล้านบาท มาบริหารงานเองทั้งหมด หรือ 2. กสท จะเจรจาทำธุรกิจนี้ร่วมกับฮัทช์ไปเลย
“ผมมั่นใจว่าการเจรจากับฮัทช์จบได้แน่นอน แม้ว่าจะเคยมีการเจรจาร่วมกันมาแล้วหลายครั้งก็ตาม เพราะว่าบอร์ดชุดผม แต่งตั้งมาโดยรัฐบาลที่ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนทางการเมือง รวมทั้งตอนนี้ กสท ก็เปิดซีดีเอ็มเอของตัวเองแล้ว เราก็จำเป็นต้องหาลูกค้ามาใช้บริการให้มากที่สุด เพราะการดูแลสถานีฐานทั้ง 51 จังหวัดก็มีต้นทุนอยู่เดือนละ 50 ล้านบาทด้วย”
นายพิศาล จอโภชาอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ กสท กล่าวเสริมว่า การเจรจาให้เกิดข้อสรุป ตนจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือนนี้ ซึ่งที่ผ่านมาการประเมินมูลค่าทรัพย์สินหรือเรื่องหนี้สิน จากการบริหารงาน ที่เป็นตัวเลขประเมิน โดย กสท และเป็นมูลค่าตัวเลขที่ยังไม่สมบูรณ์ แต่ตอนนี้ได้มีการว่าจ้างที่ปรึกษาทางการเงิน(เอฟเอ) เข้ามาช่วยประเมินแล้ว เพื่อช่วยให้การประเมินออกมาเป็นตัวเลขที่เป็นกลางและเป็นต้นทุนที่แท้จริง และในขณะเดียวกัน กสท ยังรอความชัดเจน จากคณะกฤษฎีกา ตีความในด้านข้อสัญญา แต่เรื่องนี้ จะทำควบคู่ขนานกันไปกับการเจรจาให้เกิดข้อยุติ
ประธานบอร์ด กสท กล่าวอีกว่า จากผลการประชุมในครั้งก่อน ที่มีมติให้ อนุมัติโครงการจัดซื้อจัดจ้างระบบintegrated billing and customer service system (IBACSS) มาแทนTBOSS ที่ใช้งานมาเกือบ 10 ปีนั้น บอร์ดกำลังดำเนินการส่งจดหมายและเงื่อนไขการประมูลต่างๆกับไปให้ บริษัทที่สนใจจะเข้าประมูลให้ เสนอราคากลับมาว่าจะเป็นเท่าไร ซึ่งหลังจากได้ราคาที่บริษัทเสนอมาแล้วนั้น กสท ก็จะนำมาพิจาณาเพื่อตั้งราคากลางต่อไปด้วย
ทั้งนี้ระบบ IBACSS ราคากลางก่อนหน้านี้ได้ตั้งเอาไว้ 2 พันล้านบาท ซึ่งการประมูลครั้งนี้ จะรวมกับระบบบิลลิ่ง โครงการซีดีเอ็มเอ ด้วย ซึ่งเดิมได้แยกไว้ 2 ส่วนคือ IBACSS 1,500 ล้านบาทและระบบบิลลิ่ง 500 ล้านบาท เนื่องจากบอร์ดมีความเห็นว่าควรจะรวมทั้ง 2 โครงการไว้เป็นการจัดซื้อจัดจ้างในล็อตเดียวกัน เนื่องจากอยากให้อุปกรณ์ทั้งชุดมาจากบริษัทเดียวกัน เพื่อจะได้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุด การลดปัญหาในส่วนของการดูแลรักษา การเปลี่ยนแปลง อัพเกรด ซอฟต์แวร์ ระบบ รวมถึงการได้ราคาที่เหมาะสมจากการประกวดโดย ระบบนี้จะเป็นหัวใจสำคัญอย่างยิ่ง ต่อ กสท ซึ่งระบบจะทำงานร่วมกัน 2 ระบบ ทั้งระบบที่ใช้งานจริง และ ระบบสำรอง (Back up) อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาระบบบริหารการจัดการความสัมพันธ์ของลูกค้า หรือ CRM Customer Relationship Management อีกด้วย
พล.อ. มนตรี กล่าวอีกว่า บอร์ด จะแก้ไข ปัญหาระบบการจัดซื้อจัดจ้าง และสร้างแนวทางใหม่ โดยจะให้มีการรวบรวมรายชื่อข้อมูลผู้เข้าร่วมประมูล ที่บริษัทไหนประมูลงานของ กสท ไปได้แล้วกลับไม่ดำเนินงานตามทีโออาร์ที่วางไว้ ส่งมอบงานไม่ทันตามกำหนด โดยไม่มีเหตุผลเพียงพอ กสท จะเรียบเรียงรายชื่อขึ้นเป็นบัญชีดำเอาไว้ และจะส่งรายชื่อบริษัท เหล่านี้กลับไปให้ บริษัท ทีโอที และหน่วยงานทางกองทัพ ได้รับทราบด้วยจะได้ไม่ต้องรับบริษัทนี้เข้าร่วมประมูล แต่หากบริษัทไหนที่มีผลงานดี ดำเนินงานตามที่กำหนดก็จะบันทึกลงในบัญชีไว้ด้วย เพื่อส่งให้หน่วยงานที่กล่าวมา นำไปพิจาณาด้วย
“ผมจะเลิกพฤติกรรมที่จะมาโกงประมูล ฮั้วราคาต่ำ หรือมาล็อบบี้กับบอร์ดหรือผู้บริหารให้ได้งานชิ้นนั้น เพราผมเน้นความโปร่งใส มาประมูลกันด้วยราคาที่สมเหตุสมผล หากบริษัทยังมีพฤติกรรมดังกล่าว หรือ ประมูลงานไปแล้วทำไม่ได้ตามเงื่อนไขในสัญญาตนก็จะขึ้นบัญชีดำเอาไว้ จะได้ตัดออกจากการประมูลไปเลย”
Company Releted Links:
CAT
Hutch
พล.อ.มนตรี สังขะทรัพย์ ประธานคณะกรรมการ(บอร์ด) บริษัท กสท โทรคมนาคม กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการหารือถึงการเจรจาซื้อหุ้น ของ บริษัท ซีเอที ไวร์เลส มัลติมีเดีย หรือ ฮัทช์ ผู้ทำการตลาดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบซีดีเอ็มเอ ในเขตกรุงเทพมหานครและส่วนภาคกลางทั้ง 25 จังหวัด โดยตนได้ตั้งเป้าไว้ว่าภายในอายุงานที่ตนดำรงตำแหน่งอยู่ในฐานะ ประธานบอร์ด กสท จะต้องมีข้อสรุปเรื่องดังกล่าวได้อย่างแน่นอน เนื่องจากว่าขณะนี้ โทรศัพท์เคลื่อนที่ของ “แคท ซีดีเอ็มเอ” ก็ได้เปิดให้บริการแก่ประชาชนครบทั้ง 51 จังหวัดแล้ว ตนจึงไม่อยากให้เกิดความสับสนต่อผู้ใช้งาน ซึ่งในเบื้องต้นตนคาดว่าบอร์ดจะหารือร่วมกัน ในเรื่องดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ที่ประชุมยังมีมติให้คณะกรรมการขึ้นมา 2 กลุ่ม โดยในกลุ่มแรกจะมี นาย ไกรสร บวรมีอวยชัย หนึ่งในบอร์ดและตัวแทนจากกระทรวงการคลัง มาเป็นประธานคณะกรรมการ มาพิจารณาสัญญาต่างๆที่ กสท ทำร่วมกับเอกชนว่ามีข้อได้เปรียบเสียเปรียบตรงจุดไหนบ้าง ทั้งสัญญาร่วมการงานกับฮัทช์ ซึ่งการแต่งตั้งดังกล่าวจะช่วยให้บอร์ดทำงานได้คล่องตัวมากขึ้น เพราะถือว่าได้มีการกลั่นกรองจากคณะกรรมการมาแล้วครั้ง ส่วนคณะกรรมการอีก 1 ชุดจะมี นายศุภชัย จงศิริ หนึ่งในบอร์ดมาเป็นประธานดูแลรับผิดชอบติดตามโครงการของ กสท ให้แล้วเสร็จตามกำหนด รวมทั้งดูแลการส่งมอบสถานีหรือตรวจรับอุปกรณ์ต่างๆด้วย
สำหรับโมเดลการเจรจานั้น บอร์ดจะให้คณะกรรมการทำการศึกษาในทุกๆด้าน พร้อมรายงาน โดยไม่มีการกำหนดแนวทางอย่างชัดเจนให้ ถึงแม้ก่อนหน้านี้ บอร์ดในชุดเก่าที่เคยดำเนินการเจรจาโดยให้ 2 เลือก คือ 1.ซื้อกิจการของฮัทช์ที่ให้บริการ 25 จังหวัดพร้อมหนี้สิ้นรวม 40,000 ล้านบาท มาบริหารงานเองทั้งหมด หรือ 2. กสท จะเจรจาทำธุรกิจนี้ร่วมกับฮัทช์ไปเลย
“ผมมั่นใจว่าการเจรจากับฮัทช์จบได้แน่นอน แม้ว่าจะเคยมีการเจรจาร่วมกันมาแล้วหลายครั้งก็ตาม เพราะว่าบอร์ดชุดผม แต่งตั้งมาโดยรัฐบาลที่ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนทางการเมือง รวมทั้งตอนนี้ กสท ก็เปิดซีดีเอ็มเอของตัวเองแล้ว เราก็จำเป็นต้องหาลูกค้ามาใช้บริการให้มากที่สุด เพราะการดูแลสถานีฐานทั้ง 51 จังหวัดก็มีต้นทุนอยู่เดือนละ 50 ล้านบาทด้วย”
นายพิศาล จอโภชาอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ กสท กล่าวเสริมว่า การเจรจาให้เกิดข้อสรุป ตนจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือนนี้ ซึ่งที่ผ่านมาการประเมินมูลค่าทรัพย์สินหรือเรื่องหนี้สิน จากการบริหารงาน ที่เป็นตัวเลขประเมิน โดย กสท และเป็นมูลค่าตัวเลขที่ยังไม่สมบูรณ์ แต่ตอนนี้ได้มีการว่าจ้างที่ปรึกษาทางการเงิน(เอฟเอ) เข้ามาช่วยประเมินแล้ว เพื่อช่วยให้การประเมินออกมาเป็นตัวเลขที่เป็นกลางและเป็นต้นทุนที่แท้จริง และในขณะเดียวกัน กสท ยังรอความชัดเจน จากคณะกฤษฎีกา ตีความในด้านข้อสัญญา แต่เรื่องนี้ จะทำควบคู่ขนานกันไปกับการเจรจาให้เกิดข้อยุติ
ประธานบอร์ด กสท กล่าวอีกว่า จากผลการประชุมในครั้งก่อน ที่มีมติให้ อนุมัติโครงการจัดซื้อจัดจ้างระบบintegrated billing and customer service system (IBACSS) มาแทนTBOSS ที่ใช้งานมาเกือบ 10 ปีนั้น บอร์ดกำลังดำเนินการส่งจดหมายและเงื่อนไขการประมูลต่างๆกับไปให้ บริษัทที่สนใจจะเข้าประมูลให้ เสนอราคากลับมาว่าจะเป็นเท่าไร ซึ่งหลังจากได้ราคาที่บริษัทเสนอมาแล้วนั้น กสท ก็จะนำมาพิจาณาเพื่อตั้งราคากลางต่อไปด้วย
ทั้งนี้ระบบ IBACSS ราคากลางก่อนหน้านี้ได้ตั้งเอาไว้ 2 พันล้านบาท ซึ่งการประมูลครั้งนี้ จะรวมกับระบบบิลลิ่ง โครงการซีดีเอ็มเอ ด้วย ซึ่งเดิมได้แยกไว้ 2 ส่วนคือ IBACSS 1,500 ล้านบาทและระบบบิลลิ่ง 500 ล้านบาท เนื่องจากบอร์ดมีความเห็นว่าควรจะรวมทั้ง 2 โครงการไว้เป็นการจัดซื้อจัดจ้างในล็อตเดียวกัน เนื่องจากอยากให้อุปกรณ์ทั้งชุดมาจากบริษัทเดียวกัน เพื่อจะได้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุด การลดปัญหาในส่วนของการดูแลรักษา การเปลี่ยนแปลง อัพเกรด ซอฟต์แวร์ ระบบ รวมถึงการได้ราคาที่เหมาะสมจากการประกวดโดย ระบบนี้จะเป็นหัวใจสำคัญอย่างยิ่ง ต่อ กสท ซึ่งระบบจะทำงานร่วมกัน 2 ระบบ ทั้งระบบที่ใช้งานจริง และ ระบบสำรอง (Back up) อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาระบบบริหารการจัดการความสัมพันธ์ของลูกค้า หรือ CRM Customer Relationship Management อีกด้วย
พล.อ. มนตรี กล่าวอีกว่า บอร์ด จะแก้ไข ปัญหาระบบการจัดซื้อจัดจ้าง และสร้างแนวทางใหม่ โดยจะให้มีการรวบรวมรายชื่อข้อมูลผู้เข้าร่วมประมูล ที่บริษัทไหนประมูลงานของ กสท ไปได้แล้วกลับไม่ดำเนินงานตามทีโออาร์ที่วางไว้ ส่งมอบงานไม่ทันตามกำหนด โดยไม่มีเหตุผลเพียงพอ กสท จะเรียบเรียงรายชื่อขึ้นเป็นบัญชีดำเอาไว้ และจะส่งรายชื่อบริษัท เหล่านี้กลับไปให้ บริษัท ทีโอที และหน่วยงานทางกองทัพ ได้รับทราบด้วยจะได้ไม่ต้องรับบริษัทนี้เข้าร่วมประมูล แต่หากบริษัทไหนที่มีผลงานดี ดำเนินงานตามที่กำหนดก็จะบันทึกลงในบัญชีไว้ด้วย เพื่อส่งให้หน่วยงานที่กล่าวมา นำไปพิจาณาด้วย
“ผมจะเลิกพฤติกรรมที่จะมาโกงประมูล ฮั้วราคาต่ำ หรือมาล็อบบี้กับบอร์ดหรือผู้บริหารให้ได้งานชิ้นนั้น เพราผมเน้นความโปร่งใส มาประมูลกันด้วยราคาที่สมเหตุสมผล หากบริษัทยังมีพฤติกรรมดังกล่าว หรือ ประมูลงานไปแล้วทำไม่ได้ตามเงื่อนไขในสัญญาตนก็จะขึ้นบัญชีดำเอาไว้ จะได้ตัดออกจากการประมูลไปเลย”
Company Releted Links:
CAT
Hutch