xs
xsm
sm
md
lg

ปีหมูทองเอสวีโอเอเติบโตแบบถนอมตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายวีระ อิงค์ธเนศ
เอสวีโอเอเผยแนวทางตลาดปี 50 ของเติบโตแบบถนอมตัวประมาณ 10% ที่เป้าหมายยอดขายรวม 3,050 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมาทำรายได้ประมาณ 2,765 ล้านบาท “วีระ อิงค์ธเนศ” เผยหลังอยู่ในตลาดมา 5 ปี ปีหมูทองเป็นปีแห่งการสร้างแบรนด์เอสวีโอเอในตลาดคอนซูเมอร์ให้มากยิ่งขึ้น ฟ้องโลคอลแบรนด์ไทยขาดการส่งเสริมจากภาครัฐทำให้ไม่โตเท่าโลคอลแบรนด์ต่างชาติ

วีระ อิงค์ธเนศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าในปีที่ผ่านมาภาพรวมตลาดไอทีไม่ได้เป็นไปตามวัฏจักรของแต่ละไตรมาศโดยเฉพาะปิดไตรมาสสุดท้ายเมื่อสิ้นปีตลาดรวมไม่ดีนักทั้งที่น่าจะดีกว่านี้ โดยคาดว่าในปีนี้ ภาพรวมของตลาดกลับมาดีขึ้นอีกครั้งหนึ่ง แต่จะเห็นผลของการใช้งบประมาณกันอีกครั้งเมื่อไตรมาศ 2 ของปีนี้ไปแล้ว

“ ปีนี้ตลาดจะเล็กลง ขณะที่การแข่งขันรุนแรงขึ้น ทุกคนต้องการอยู่รอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ เชื่อว่าไตรมาสแรกของปีนี้ตลาดจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก โดยเฉพาะวงการประมูลจะคึกคักอีกครั้งเมื่อไตรมาศ 2 โดยไม่ควรนำตัวเลขของไตรมาศแรกมารวมเข้ากับยอดสิ้นปีนี้ด้วย ”

วีระ กล่าวว่าขณะที่ภาวะตลาดยังไม่ค่อยดีโดยเฉพาะในช่วงไตรมาศแรกนี้ แต่ก็เชื่อว่าตลาดยังมีจะการเติบโต แต่จะเติบโตในระดับไม่สูงนัก คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 10-15 % โดยตลาดเติบโตส่วนใหญ่จะอยู่ในส่วนฮาร์ดแวร์ อัตราการเติบโตของจำนวนยูนิตและเม็ดเงินจะไม่ไปในทิศทางเดียวกันขณะที่จำนวนยูนิตจะโตประมาณ 15% แต่ในแง่เม็ดเงินจะเติบโตประมาณ12-14%

ในส่วนเอสวีโอเอคาดว่าจะมีการเติบโตประมาณ 10%จากปีที่ผ่านมา หรือมีส่วนแบ่งในตลาดประมาณ 8% ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับปีที่ผ่านมา จากรายได้รวมในปีที่ผ่านมาประมาณ 2,765 ล้านบาท คาดว่าจะมีรายได้ในปีนี้ประมาณ3,050 ล้านบาท (รวมในส่วนดิสบิวชั่น, เฮ้าส์แบรนด์,บิซิเน็ส)

ผู้บริหารเอสวีโอเอวิเคราะห์ว่าจากตลาดรวมในปื2549ที่มีประมาณ1.5 ล้านเครื่องแบ่งเป็น พีซีประมาณ1ล้านเครื่อง และโน้ตบุ๊กประมาณ 5 แสนเครื่อง มาในปีนี้คาดว่าตลาดรวมจะอยู่ที่ประมาณ 1.8 ล้านเครื่อง แบ่งเป็นพีซีประมาณ 1 ล้านเครื่องและโน้ตบุ๊กประมาณ 8 แสนเครื่อง การเติบโตส่วนใหญ่จะอยู่ที่ตลาดโน้ตบุ๊ก ในส่วนเอสอีโอเอคาดว่าในปี 2550 จะทำตลาดได้ประมาณ 1.24 แสนเครื่อง แบ่งเป็นพีซีประมาณ1 แสนเครื่องและโน้ตบุ๊กประมาณ 2.4 หมื่นเครื่อง

การตลาดหลักๆของเอสวีโอเอในปีนี้จะเป็นการทำตลาดในประเทศเป็นส่วนใหญ่ ส่วนตลาดต่างประเทศจะเป็นแค่ 5 %ของเป้าหมายยอดขาย ทั้งนี้เพราะการแข็งตัวของค่าเงินบาท ในปีที่ผ่านมาทำรายได้จากตลาดต่างประเทศได้ประมาณ 49 ล้านบาท จากการส่งออกไปยัง เนปาล อินโด ลาว ศรีลังกา โดยตั้งเป้าหมายไว้ในระดับเดียวกันในปีนี้

เอสวีโอเอในปี 2550 จะเน้นไปที่ 1. การพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการ 2. พัฒนาคุณภาพโปรดักส์ทั้งเดสท์ท้อปและโน้ตบุ๊กให้มีความเป็นไลต์สไตย์มากยิ่งขึ้น3. พัฒนาด้านเซอร์วิสซึ่งถือเป็นจุดขายของเอสวีโอเอที่มีที่มีเซอร์วิสพาร์ทเนอร์อยู่กว่า 250 คนทั่วประเทศ

วีระ กล่าวว่า ทุกวันนี้เรายอมรับว่า เอสวีโอเอยังเป็นแบรนด์ที่ยังไม่ได้รับการยอมรับมากนักจากการสำรวจ ซึ่งถือเป็นจุดที่เราต้องปรับเปลี่ยนและจำเป็นอย่างยิ่งที่จะทำในปีนี้

“ ปีนี้เราจะเน้นที่การสร้างแบรนด์เอสวีโอเอให้เป็นแมสมากยิ่งขึ้น หลังจากเราอยู่ในตลาดมาแล้ว 5 ปี โดยการนำแบรนด์เอสวีโอเอลงในตลาดคอนซูเมอร์มากยิ่งขึ้น จากปีที่ผ่านมามุ่งแต่ตลาดไอทีเป็นหลัก โดยมองว่าสื่อที่เป็นทีวีจะเป็นตัวช่วยสร้างแบรนด์ให้กับเอสวีโอเอได้อย่างมาก โดยจะมุ่งเปิดตัวในตลาดต่างจังหวัดให้มากยิ่งขึ้นก่อนที่จะบุกตลาดภาคกลางเพราะมีการแข่งขันสูงกว่า

เอสวีโอเอไม่เน้นเป็นแบรนด์ที่แข่งขันกับแบรนด์ดัง แต่มุ่งทำตลาดที่มีความเป็นได้ โดยมองว่าจุดอ่อนของโลคอลแบรนด์ของไทยคือขาดการส่งเสริมจากภาครัฐ ขณะที่ประเทศอื่นอย่างจีนมองว่าการส่งเสริมอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ในประเทศต้องส่งเสริมที่ฮาร์ดแวร์ก่อนให้เกิดการใช้งานในประเทศกันอย่างแพร่หลายรวมทั้งส่งเสริมให้เกิดการส่งออกอีกด้วย

Company Related Links:
SVOA
กำลังโหลดความคิดเห็น