โนเกีย ยังคงคาดการณ์ยอดรวมขายมือถือสิ้นปี ตลาดใหญ่ยังคงเป็นเครื่องทดแทนกว่า 60% ส่งท้ายไตรมาส4 ปล่อยมิวสิคโฟน เขย่าคู่แข่ง 6 รุ่น ยึดแท่นผู้นำตลาด ชนทั้งราคา และเทคโนโลยี ส่วนปีหน้าเล็งขยายบริการหลังการขาย “โนเกียแคร์” เหตุลูกค้าบ่นช้าไม่ทันใจ เป็นจากผลสำเร็จทางการตลาดที่เติบโตขึ้นกว่า20%
นายบ๊อบ แม็คดูกอล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายบริหารลูกค้าและการตลาด บริษัท โนเกีย(ประเทศไทย) เปิดเผยว่า โนเกีย ยังคงคาดการณ์ตลาดรวมยอดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของประเทศไทยในปี 2549 อยู่ที่ 8.5 ล้านเครื่อง ถึงแม้ผู้จัดจำหน่ายรายอื่นได้คาดการณ์ยอดรวมต่ำกว่าตัวเลขดังกล่าว โดยตลาดโนเกียเชื่อว่าผู้บริโภคยังคงมีความต้องการเลือกซื้อ ทั้งในกลุ่มเครื่องทดแทน และกลุ่มผู้ซื้อเครื่องใหม่ที่เป็นผลมาจากการแข่งขันการตลาดด้านราคาของกลุ่มผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยมีสัดส่วนกลุ่มผู้ซื้อเครื่องทดแทน 60-65% และที่เหลือเป็นกลุ่มผู้ซื้อเครื่องใหม่
โดยล่าสุดโนเกีย ได้เปิดตัวโทรศัพท์เคลื่อนที่ กลุ่ม มิวสิค โฟน 6 รุ่นใหม่ สะท้อนแนวคิด Nokia Music Connects เชื่อมโยงศักยภาพด้านการสื่อสารกับเสียงเพลงไร้สายไว้ในโทรศัพท์มือถือได้ ในกลุ่ม XpressMusic และกลุ่ม Nseries Music Range ครบทีม
โดยกลุ่ม XpressMusic ประกอบด้วย โนเกีย N5300 รูปทรงสไลด์โฟน สามารถจุเพลงได้มากราว 1,500 เพลงหรือเท่ากับ 75 อัลบั้ม โดยใช้การ์ดหน่วยความจำ microSD ขนาด 2 GB มีปุ่มพิเศษเพื่อควบคุมการเล่นเพลงได้ง่ายแยกต่างหากจากการใช้งานอื่นๆ ราคา 9,620 บาท โนเกีย 3250 XpressMusic ดีไซน์บิดหมุน จุเพลงได้ถึง 1,500 เพลง มาพร้อมหน่วยความจำ microSD 1GB ราคา 12,860 บาท และโนเกีย 6233 Music รูปทรงแบบบาร์ไทป์ ลำโพงระบบสเตอริโอรองรับเทคโนโลยี 3G และEDGE ราคา 13,540 บาท
ส่วนมิวสิคโฟนในกลุ่ม Nseries ประกอบด้วย โนเกีย N70 Music, โนเกีย N73 Music, และโนเกีย N91 8GB Music โดยมีราคา ราคา 25,540 บาท 21,260 บาท และ 14,900 บาท ตามลำดับ ซึ่งโทรศัพท์ในกลุ่มนี้ได้พัฒนาแตกต่างในด้านการรองรับด้านเสียงเพลงโดยเฉพาะ ทั้งส่วนการเล่น การควบคุม และขนาดพื้นที่จุเพลง ซึ่งมีคุณสมบัติสำคัญได้แก่ ปุ่มพิเศษสำหรับการใช้งานด้านเสียงเพลงโดยเฉพาะ Nokia PC Suite และซอฟต์แวร์ใหม่ในการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์และการบริหารเสียงเพลง
“การเปิดตัวโนเกียมิวสิคโฟน ถึง 6 รุ่นครั้งนี้ ทางโนเกียเอง ต้องการให้โทรศัพท์สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ใทุกๆกลุ่มทั้งเรื่องราคา เทคโฯโลยี และไลฟ์สไตล์ใช้งาน ซึ่งเป็นการแสดงถึงการมุ่งมั่นในการแข่งขันในตลาดกลุ่มมิวสิคโฟน ที่สามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์”
เขากล่าวอีกว่า ในปีหน้า โนเกียได้มีแผนเพิ่มศูนย์บริการหลังการขาย หรือโนเกียแคร์ ขึ้นอีก เพื่อเป็นการเข้ามารองรับการเติบโตของลูกค้า ประกอบกับเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดี โดยที่ผ่านมาโนเกียแคร์ บางพื้นที่ประสบปัญหาการรองรับการใช้บริการลูกค้าในด้านอัพเกรดซอฟต์แวร์ การซ่อมบำรุง จากการขยายตัวในธุรกิจและผลสำเร็จทางการตลาดที่เติบโตขึ้นกว่า20% ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีจุดรองรับบริการอยู่ทั่วประเทศและมีศูนย์บริการหลักอยู่ 7 แห่งแล้วก็ตาม โดยแผนดังกล่าว โนเกียจะทำการขยายสาขา การเพิ่มส่วนจำแนกส่วนบริการซ่อมบำรุง ตามประเภท ชนิดของเครื่องและรุ่น ตามระดับความยาก ง่าย เพื่อให้ลูกค้ามีความพึงพอใจในการเข้าใช้บริการ
Company Related Links :
Nokia
นายบ๊อบ แม็คดูกอล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายบริหารลูกค้าและการตลาด บริษัท โนเกีย(ประเทศไทย) เปิดเผยว่า โนเกีย ยังคงคาดการณ์ตลาดรวมยอดจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของประเทศไทยในปี 2549 อยู่ที่ 8.5 ล้านเครื่อง ถึงแม้ผู้จัดจำหน่ายรายอื่นได้คาดการณ์ยอดรวมต่ำกว่าตัวเลขดังกล่าว โดยตลาดโนเกียเชื่อว่าผู้บริโภคยังคงมีความต้องการเลือกซื้อ ทั้งในกลุ่มเครื่องทดแทน และกลุ่มผู้ซื้อเครื่องใหม่ที่เป็นผลมาจากการแข่งขันการตลาดด้านราคาของกลุ่มผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยมีสัดส่วนกลุ่มผู้ซื้อเครื่องทดแทน 60-65% และที่เหลือเป็นกลุ่มผู้ซื้อเครื่องใหม่
โดยล่าสุดโนเกีย ได้เปิดตัวโทรศัพท์เคลื่อนที่ กลุ่ม มิวสิค โฟน 6 รุ่นใหม่ สะท้อนแนวคิด Nokia Music Connects เชื่อมโยงศักยภาพด้านการสื่อสารกับเสียงเพลงไร้สายไว้ในโทรศัพท์มือถือได้ ในกลุ่ม XpressMusic และกลุ่ม Nseries Music Range ครบทีม
โดยกลุ่ม XpressMusic ประกอบด้วย โนเกีย N5300 รูปทรงสไลด์โฟน สามารถจุเพลงได้มากราว 1,500 เพลงหรือเท่ากับ 75 อัลบั้ม โดยใช้การ์ดหน่วยความจำ microSD ขนาด 2 GB มีปุ่มพิเศษเพื่อควบคุมการเล่นเพลงได้ง่ายแยกต่างหากจากการใช้งานอื่นๆ ราคา 9,620 บาท โนเกีย 3250 XpressMusic ดีไซน์บิดหมุน จุเพลงได้ถึง 1,500 เพลง มาพร้อมหน่วยความจำ microSD 1GB ราคา 12,860 บาท และโนเกีย 6233 Music รูปทรงแบบบาร์ไทป์ ลำโพงระบบสเตอริโอรองรับเทคโนโลยี 3G และEDGE ราคา 13,540 บาท
ส่วนมิวสิคโฟนในกลุ่ม Nseries ประกอบด้วย โนเกีย N70 Music, โนเกีย N73 Music, และโนเกีย N91 8GB Music โดยมีราคา ราคา 25,540 บาท 21,260 บาท และ 14,900 บาท ตามลำดับ ซึ่งโทรศัพท์ในกลุ่มนี้ได้พัฒนาแตกต่างในด้านการรองรับด้านเสียงเพลงโดยเฉพาะ ทั้งส่วนการเล่น การควบคุม และขนาดพื้นที่จุเพลง ซึ่งมีคุณสมบัติสำคัญได้แก่ ปุ่มพิเศษสำหรับการใช้งานด้านเสียงเพลงโดยเฉพาะ Nokia PC Suite และซอฟต์แวร์ใหม่ในการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์และการบริหารเสียงเพลง
“การเปิดตัวโนเกียมิวสิคโฟน ถึง 6 รุ่นครั้งนี้ ทางโนเกียเอง ต้องการให้โทรศัพท์สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ใทุกๆกลุ่มทั้งเรื่องราคา เทคโฯโลยี และไลฟ์สไตล์ใช้งาน ซึ่งเป็นการแสดงถึงการมุ่งมั่นในการแข่งขันในตลาดกลุ่มมิวสิคโฟน ที่สามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์”
เขากล่าวอีกว่า ในปีหน้า โนเกียได้มีแผนเพิ่มศูนย์บริการหลังการขาย หรือโนเกียแคร์ ขึ้นอีก เพื่อเป็นการเข้ามารองรับการเติบโตของลูกค้า ประกอบกับเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดี โดยที่ผ่านมาโนเกียแคร์ บางพื้นที่ประสบปัญหาการรองรับการใช้บริการลูกค้าในด้านอัพเกรดซอฟต์แวร์ การซ่อมบำรุง จากการขยายตัวในธุรกิจและผลสำเร็จทางการตลาดที่เติบโตขึ้นกว่า20% ถึงแม้ในปัจจุบันจะมีจุดรองรับบริการอยู่ทั่วประเทศและมีศูนย์บริการหลักอยู่ 7 แห่งแล้วก็ตาม โดยแผนดังกล่าว โนเกียจะทำการขยายสาขา การเพิ่มส่วนจำแนกส่วนบริการซ่อมบำรุง ตามประเภท ชนิดของเครื่องและรุ่น ตามระดับความยาก ง่าย เพื่อให้ลูกค้ามีความพึงพอใจในการเข้าใช้บริการ
Company Related Links :
Nokia