คำเตือนจากเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยออกประกาศเตือนแก่ประชาชนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ว่า กลุ่มหัวรุนแรงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังกลับมาก่อการร้ายทางอินเทอร์เน็ตอีกครั้ง แต่จะเป็นในรูปแบบของการหาพรรคพวกหรือสมาชิกที่ต้องการร่วมอุดมการณ์ อีกทั้งเพื่อเรี่ยรายเงินสนับสนุนปฏิบัติการต่างๆ
นายโรฮัน กุนารัตนา หัวหน้าฝ่ายความร้ายแรงทางการเมืองและการก่อการร้าย จากสถาบันกลาโหมและการศึกษายุทธศาสตร์ของสิงคโปร์ ระบุว่า เครือข่ายกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่รู้จักกันดีอย่าง ญะมาอะห์ อิสลามิยะห์ หรือ เจไอ (Jemaah Islamiah) กำลังใช้อินเทอร์เน็ตเป็นสื่อในการเผยแพร่และเชิญชวนให้ผู้คนร่วมกระบวนการ
"กลุ่มผู้ก่อการร้ายอาจจะต้องใช้ระยะเวลานานพอควรที่จะทำให้มีศักยภาพในการโจมตี แต่การใช้อินเทอร์เน็ตเป็นสื่อในการเผยแพร่ ระดมพล และเรี่ยรายเงินเป็นสิ่งที่เราต้องร่วมกันแก้ไขและระมัดระวังเป็นอย่างดี กลุ่มเหล่านั้นไม่ได้โจมตีทางอินเทอร์เน็ต แต่กลับใช้อินเทอร์เน็ตในการโจมตีต่างหาก" กุนารัตนา กล่าว
สำหรับประวัติของกุนารัตนานั้น เคยอาศัยอยู่ในมาเลเซียเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ด้านการรักษาความปลอดภัยและความมั่นคงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และได้รับการฝึกฝนการป้องกันการก่อการร้ายเป็นอย่างดีจากสหรัฐอเมริกา รวมถึงการป้องกันการก่อการร้ายทางอินเทอร์เน็ตและการป้องกันเหตุระเบิดพลีชีพด้วย
เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันการก่อการร้ายของมาเลเซียรายหนึ่งระบุว่า ข้อมูลในการโจมตีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยใช้อินเทอร์เน็ตเป็นสื่อนั้นเป็นเรื่องจริง แต่ในเวลานี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าข้อมูลชนิดใดที่ส่อแววว่าจะถูกใช้เพื่อการโจมตี
"การเตรียมก่อการร้ายเป็นเรื่องจริง แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามานั่งตั้งคำถามว่าเป็นอย่างไรหรือเพราะอะไร ที่เราต้องให้ความสนใจคือว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไร" เยียน ยก เฮง หัวหน้าศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย กล่าว
"เราจำเป็นต้องมีการร่วมมือกันให้มากกว่าเดิม เพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้นในการป้องกันภัยก่อการร้ายทางอินเทอร์เน็ตจากบรรดาแฮ็กเกอร์ของกลุ่มก่อการร้ายด้วย"
ทางการมาเลเซียออกประกาศเมื่อเร็วๆ นี้ ว่าจะแบ่งงบประมาณส่วนหนึ่งเพื่อตั้งศูนย์ช่วยเหลือเหตุฉุกเฉินเมื่อเกิดการโจมตีทางอินเทอร์เน็ตทั้งในมาเลเซียและประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจหรือการค้าขายต่างๆ
ด้านนายอับดุลเลาะห์ อาห์หมัด บันดาวี นายกรัฐมนตรีแห่งมาเลเซีย กล่าวเพิ่มเติมว่า มีค่ายยักษ์ใหญ่หลายค่ายร่วมสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์ดังกล่าวแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ไซแมนเทค จากอเมริกา, เทรนด์ ไมโคร จากญี่ปุ่น, และแคสเปอร์สกี้ แล็บ จากรัสเซียเป็นต้น
สอดคล้องกับเหตุระเบิดที่บาหลี อินโดนีเซีย เมื่อปีที่ผ่านมา เมื่อมีนาย Noordin Mohammad ชาวมาเลเซียเป็นผู้ต้องสงสัยในการก่อเหตุ ซึ่งเขาก็มีรายชื่อเป็นสมาชิกอยู่ในกระบวนการเจไอด้วย
นายโรฮัน กุนารัตนา หัวหน้าฝ่ายความร้ายแรงทางการเมืองและการก่อการร้าย จากสถาบันกลาโหมและการศึกษายุทธศาสตร์ของสิงคโปร์ ระบุว่า เครือข่ายกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่รู้จักกันดีอย่าง ญะมาอะห์ อิสลามิยะห์ หรือ เจไอ (Jemaah Islamiah) กำลังใช้อินเทอร์เน็ตเป็นสื่อในการเผยแพร่และเชิญชวนให้ผู้คนร่วมกระบวนการ
"กลุ่มผู้ก่อการร้ายอาจจะต้องใช้ระยะเวลานานพอควรที่จะทำให้มีศักยภาพในการโจมตี แต่การใช้อินเทอร์เน็ตเป็นสื่อในการเผยแพร่ ระดมพล และเรี่ยรายเงินเป็นสิ่งที่เราต้องร่วมกันแก้ไขและระมัดระวังเป็นอย่างดี กลุ่มเหล่านั้นไม่ได้โจมตีทางอินเทอร์เน็ต แต่กลับใช้อินเทอร์เน็ตในการโจมตีต่างหาก" กุนารัตนา กล่าว
สำหรับประวัติของกุนารัตนานั้น เคยอาศัยอยู่ในมาเลเซียเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ด้านการรักษาความปลอดภัยและความมั่นคงภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และได้รับการฝึกฝนการป้องกันการก่อการร้ายเป็นอย่างดีจากสหรัฐอเมริกา รวมถึงการป้องกันการก่อการร้ายทางอินเทอร์เน็ตและการป้องกันเหตุระเบิดพลีชีพด้วย
เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันการก่อการร้ายของมาเลเซียรายหนึ่งระบุว่า ข้อมูลในการโจมตีในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โดยใช้อินเทอร์เน็ตเป็นสื่อนั้นเป็นเรื่องจริง แต่ในเวลานี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าข้อมูลชนิดใดที่ส่อแววว่าจะถูกใช้เพื่อการโจมตี
"การเตรียมก่อการร้ายเป็นเรื่องจริง แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามานั่งตั้งคำถามว่าเป็นอย่างไรหรือเพราะอะไร ที่เราต้องให้ความสนใจคือว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไร" เยียน ยก เฮง หัวหน้าศูนย์ต่อต้านการก่อการร้ายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย กล่าว
"เราจำเป็นต้องมีการร่วมมือกันให้มากกว่าเดิม เพื่อประสิทธิภาพที่ดีขึ้นในการป้องกันภัยก่อการร้ายทางอินเทอร์เน็ตจากบรรดาแฮ็กเกอร์ของกลุ่มก่อการร้ายด้วย"
ทางการมาเลเซียออกประกาศเมื่อเร็วๆ นี้ ว่าจะแบ่งงบประมาณส่วนหนึ่งเพื่อตั้งศูนย์ช่วยเหลือเหตุฉุกเฉินเมื่อเกิดการโจมตีทางอินเทอร์เน็ตทั้งในมาเลเซียและประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจหรือการค้าขายต่างๆ
ด้านนายอับดุลเลาะห์ อาห์หมัด บันดาวี นายกรัฐมนตรีแห่งมาเลเซีย กล่าวเพิ่มเติมว่า มีค่ายยักษ์ใหญ่หลายค่ายร่วมสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์ดังกล่าวแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ไซแมนเทค จากอเมริกา, เทรนด์ ไมโคร จากญี่ปุ่น, และแคสเปอร์สกี้ แล็บ จากรัสเซียเป็นต้น
สอดคล้องกับเหตุระเบิดที่บาหลี อินโดนีเซีย เมื่อปีที่ผ่านมา เมื่อมีนาย Noordin Mohammad ชาวมาเลเซียเป็นผู้ต้องสงสัยในการก่อเหตุ ซึ่งเขาก็มีรายชื่อเป็นสมาชิกอยู่ในกระบวนการเจไอด้วย