ทีโอที ยันเก็บค่าบริการ 1133 ต่อไป ไม่สนมติบอร์ด กทช. ระงับเก็บชั่วคราว “ธีรวิทย์” เสนอทางออก ให้ลดค่ายูเอสโอหรือตั้งเลขหมายพิเศษใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย ด้านเลขา กทช.แจง หากจะเดินหน้าทำต่อให้เปลี่ยนเลขหมายใหม่ ย้ำบริการนี้เป็นบริการที่ผู้ให้บริการทุกรายต้องมี และไม่สามารถนำมาลดหย่อน ยูเอสโอได้ แถมประชาชนยื่นฟ้องศาลปกครองแล้ว
นายธีรวิทย์ จารุวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที กล่าวว่า ระหว่างนี้ ทีโอที จะยังคงเก็บเก็บค่าบริการสอบถามเลขหมาย 1133 ที่คิดค่าบริการจากประชาชนนาทีละ 3 บาท ถึงแม้สำนักคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทช. ยื่นหนังสือให้ระงับการเก็บค่าบริการนี้ไว้ และอ้างถึงการกระทำผิดทางกฏหมาย โดย ทีโอที ได้ชี้แจงไปแล้วว่าไม่เป็นการกระทำผิดกฎหมายแต่อย่างใด ซึ่งจะยึดตามประกาศที่ได้กำหนดอัตราบริการนี้ไว้เมื่อปี 2542
ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถหาข้อสรุปในเรื่องนี้ได้ชัดเจน แต่ ทีโอที จะยังคงเก็บค่าบริการต่อไป โดยทีโอทีจะดำเนินการไปตามประกาศเมื่อปี 2542และความจำเป็นในการระดมทุนเพื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์
“ทีโอทียินดีจะยกเลิกเก็บค่าบริการ หาก กทช.มีข้อเสนอที่ดี เช่น ใช้เป็นส่วนลดค่าบริการเพื่อสาธารณะ (ยูเอสโอ) และอาจจะมีการตั้งหมายเลขพิเศษขึ้นมาใหม่ เพื่อบริการสอบถามหมายเลขขึ้นมาอีกเบอร์ ในรูปแบบที่ไม่คิดค่าบริการ ซึ่งในส่วนของบริการ 1133 ก็ยังคงมีอยู่และจะเก็บค่าบริการต่อไป”
อย่างไรก็ตามการหาทางออกในเรื่องดังกล่าว ทีโอที จะต้องเร่งดำเนินการให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับการดำเนินธุรกิจของ ทีโอที เพราะที่ผ่านมาต้องแบกรับภาระการขาดทุนเดือนละ 100 ล้านบาท หรือประมาณ 1,000 ล้านบาทมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ลูกค้าที่ใช้บริการมีประมาณ 1.5 แสนราย
ด้านนายสุรนันท์ วงศ์วิทยะกำจร เลขาธิการ กทช. กล่าวว่า ที่ประชุมร่วมระหว่าง กทช. กับ ทีโอที ได้ข้อสรุปว่า ทีโอที จะยกเลิกการเก็บค่าบริการ 1133 แต่จะหาเลขหมายใหม่ เพื่อเปิดให้บริการด้านข้อมูลและสามารถเรียกเก็บค่าบริการได้ เพราะเลขหมายดังกล่าวเป็นเลขหมายที่ประชาชนคุ้นเคยอยู่ จึงไม่สมควรที่จะเรียกเก็บค่าบริการ ซึ่ง ทีโอที ควรยื่นขออนุญาตมาขอเลขหมายใหม่ มายังสำนักงาน กทช. โดยบริการสอบถามเลขหมาย ทีโอที ไม่ควรที่จะนำมาผูกโยงกับบริการด้านข้อมูล อีกทั้งการนำมาหักค่าบริการ ยูเอสโอนั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน เพราะในเรื่องนี้จะเป็นเรื่องของบริการพื้นฐาน ที่ผู้ให้บริการจะต้องให้บริการส่วนนี้รองรับอยู่แล้ว
“เรื่องนี้ไม่มีอะไรมาก หากมีการมาทำความเข้าใจกันอย่างชัดเจน ซึ่งในจุดนี้ ทีโอที ควรที่จะเข้าใจถึงปัญหาที่ประชาชนได้รับ ซึ่งในขณะนี้ได้มีประชาชน เข้ายื่นฟ้องต่อศาลปกครองแล้ว ที่จะเอาผิด ทีโอที ที่มีการเรียกเก็บค่าบริการจากการได้รับความเดือดร้อนที่จะต้องเสียค่าบริการโดยที่ไม่จำเป็น”
นายธีรวิทย์ กล่าวอีกว่า คดีค่าเชื่อมต่อโครงข่าย(แอ็คเซ็สชาร์จ) ที่บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น ชนะ ทีโอที ในมูลค่า 9,175 ล้านบาท กระทรวงการคลังเห็นด้วยที่จะให้ ทีโอที ยื่นเพิกถอนคำตัดสินของอนุญาโตตุลาการ โดยจะยื่นฟ้องต่อศาลปกครองในวันที่ 21 เมษายนนี้ ส่วนการยกเลิกสัญญาร่วมการงานของ ทรู ได้ส่งข้อมูลให้อัยการพิจารณารายละเอียดอย่างต่อเนื่องว่าเรื่องไหนเป็นการทำผิดสัญญาอย่างมีนัยสำคัญ หรือไม่อย่างไร เพื่อนำไปประกอบการดำเนินการว่าจะยกเลิกสัมปทานได้หรือไม่
“ทีโอทีเป็นหน่วยงานของรัฐ คงเข้าไปตัดสินใจกระทำการที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องกฎหมายไม่ได้ ต้องได้รับความเห็นชอบจากอัยการก่อน ทีโอทีมีหน้าที่เพียงแค่ดูข้อมูลว่าทรู ทำผิดในเงื่อนไขสัญญาสาระสำคัญใดบ้าง ซึ่งนำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณาประกอบกัน”
Company Related Links :
TOT
นายธีรวิทย์ จารุวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที กล่าวว่า ระหว่างนี้ ทีโอที จะยังคงเก็บเก็บค่าบริการสอบถามเลขหมาย 1133 ที่คิดค่าบริการจากประชาชนนาทีละ 3 บาท ถึงแม้สำนักคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทช. ยื่นหนังสือให้ระงับการเก็บค่าบริการนี้ไว้ และอ้างถึงการกระทำผิดทางกฏหมาย โดย ทีโอที ได้ชี้แจงไปแล้วว่าไม่เป็นการกระทำผิดกฎหมายแต่อย่างใด ซึ่งจะยึดตามประกาศที่ได้กำหนดอัตราบริการนี้ไว้เมื่อปี 2542
ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถหาข้อสรุปในเรื่องนี้ได้ชัดเจน แต่ ทีโอที จะยังคงเก็บค่าบริการต่อไป โดยทีโอทีจะดำเนินการไปตามประกาศเมื่อปี 2542และความจำเป็นในการระดมทุนเพื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์
“ทีโอทียินดีจะยกเลิกเก็บค่าบริการ หาก กทช.มีข้อเสนอที่ดี เช่น ใช้เป็นส่วนลดค่าบริการเพื่อสาธารณะ (ยูเอสโอ) และอาจจะมีการตั้งหมายเลขพิเศษขึ้นมาใหม่ เพื่อบริการสอบถามหมายเลขขึ้นมาอีกเบอร์ ในรูปแบบที่ไม่คิดค่าบริการ ซึ่งในส่วนของบริการ 1133 ก็ยังคงมีอยู่และจะเก็บค่าบริการต่อไป”
อย่างไรก็ตามการหาทางออกในเรื่องดังกล่าว ทีโอที จะต้องเร่งดำเนินการให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับการดำเนินธุรกิจของ ทีโอที เพราะที่ผ่านมาต้องแบกรับภาระการขาดทุนเดือนละ 100 ล้านบาท หรือประมาณ 1,000 ล้านบาทมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ลูกค้าที่ใช้บริการมีประมาณ 1.5 แสนราย
ด้านนายสุรนันท์ วงศ์วิทยะกำจร เลขาธิการ กทช. กล่าวว่า ที่ประชุมร่วมระหว่าง กทช. กับ ทีโอที ได้ข้อสรุปว่า ทีโอที จะยกเลิกการเก็บค่าบริการ 1133 แต่จะหาเลขหมายใหม่ เพื่อเปิดให้บริการด้านข้อมูลและสามารถเรียกเก็บค่าบริการได้ เพราะเลขหมายดังกล่าวเป็นเลขหมายที่ประชาชนคุ้นเคยอยู่ จึงไม่สมควรที่จะเรียกเก็บค่าบริการ ซึ่ง ทีโอที ควรยื่นขออนุญาตมาขอเลขหมายใหม่ มายังสำนักงาน กทช. โดยบริการสอบถามเลขหมาย ทีโอที ไม่ควรที่จะนำมาผูกโยงกับบริการด้านข้อมูล อีกทั้งการนำมาหักค่าบริการ ยูเอสโอนั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน เพราะในเรื่องนี้จะเป็นเรื่องของบริการพื้นฐาน ที่ผู้ให้บริการจะต้องให้บริการส่วนนี้รองรับอยู่แล้ว
“เรื่องนี้ไม่มีอะไรมาก หากมีการมาทำความเข้าใจกันอย่างชัดเจน ซึ่งในจุดนี้ ทีโอที ควรที่จะเข้าใจถึงปัญหาที่ประชาชนได้รับ ซึ่งในขณะนี้ได้มีประชาชน เข้ายื่นฟ้องต่อศาลปกครองแล้ว ที่จะเอาผิด ทีโอที ที่มีการเรียกเก็บค่าบริการจากการได้รับความเดือดร้อนที่จะต้องเสียค่าบริการโดยที่ไม่จำเป็น”
นายธีรวิทย์ กล่าวอีกว่า คดีค่าเชื่อมต่อโครงข่าย(แอ็คเซ็สชาร์จ) ที่บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น ชนะ ทีโอที ในมูลค่า 9,175 ล้านบาท กระทรวงการคลังเห็นด้วยที่จะให้ ทีโอที ยื่นเพิกถอนคำตัดสินของอนุญาโตตุลาการ โดยจะยื่นฟ้องต่อศาลปกครองในวันที่ 21 เมษายนนี้ ส่วนการยกเลิกสัญญาร่วมการงานของ ทรู ได้ส่งข้อมูลให้อัยการพิจารณารายละเอียดอย่างต่อเนื่องว่าเรื่องไหนเป็นการทำผิดสัญญาอย่างมีนัยสำคัญ หรือไม่อย่างไร เพื่อนำไปประกอบการดำเนินการว่าจะยกเลิกสัมปทานได้หรือไม่
“ทีโอทีเป็นหน่วยงานของรัฐ คงเข้าไปตัดสินใจกระทำการที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องกฎหมายไม่ได้ ต้องได้รับความเห็นชอบจากอัยการก่อน ทีโอทีมีหน้าที่เพียงแค่ดูข้อมูลว่าทรู ทำผิดในเงื่อนไขสัญญาสาระสำคัญใดบ้าง ซึ่งนำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณาประกอบกัน”
Company Related Links :
TOT