xs
xsm
sm
md
lg

ทีโอทียัน.เก็บค่าบริการ1133ไม่ผิดกม. หากยกเลิกต้องยุติบริการออดิโอเท็กซ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทีโอที โต้ กทช. ยันเก็บเงินบริการ 1133 สอบถามเลขหมายไม่ขัด พ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคม หากยกเลิกก็ต้องยุติบริการออดิโอเท็กซ์เอกชนด้วย

จากกรณีที่ พล.อ.ชูชาติ พรหมพระสิทธิ์ ประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) กล่าวยืนยันถึง บริษัท ทีโอที ที่ไม่สามารถเรียกเก็บเงินจากบริการสอบถามเลขหมาย 1133 ได้ เพราะถือเป็นบริการเพื่อสาธารณะ และบริการดังกล่าวไม่ถือเป็นออดิโอเท็กซ์ตามที่ทีโอทีกล่าวอ้าง ซึ่งการให้บริการใดๆของทีโอที ในฐานะผู้ได้รับใบอนุญาต โดยหลักการแล้วจะต้องขออนุญาตจากกทช.ก่อน ที่ภายในสัปดาห์นี้จะเชิญผู้บริหารทีโอทีมาหารือในเรื่องดังกล่าว

แหล่งข่าวผู้บริหาร บริษัท ทีโอที กล่าวว่า การเก็บค่าบริการสอบถามเลขหมาย 1133 ไม่ผิดกฎหมายหรือขัดต่อ พ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคมแต่อย่างไร เพราะเป็นไปตามประกาศของทีโอทีเมื่อปี 2542 แต่หาก กทช. ต้องการเหตุผล ทีโอที พร้อมที่จะชี้แจง และมีเอกสาร เพื่อยืนยันถึงข้อมูลที่แท้จริงจากอัตราราคาที่กำหนดไว้เดิม

“กทช. อ้างถึงการขัดต่อ พ.ร.บ.ประกอบกิจการโทรคมนาคมไม่ได้ เพราะบริการนั้นมีก่อน ที่จะมีกฎหมายมาบังคับใช้ ถึงแม้ที่ผ่านมา บริการ 1133 หรือ 13 เดิมนี้จะเป็นบริการให้สอบถามฟรี แต่เราได้วางอัตราค่าใช้จ่ายไว้เบื้องต้น เพราะเป็นบริการด้านข้อมูล หากทีโอที ไม่วางอัตราราคาไว้ก็ไม่สามารถที่ให้บริษัทเอกชน เปิดบริการสอบถามข้อมูล หรือบริการเลขหมายพิเศษ 1900 ได้”

ทั้งนี้ บริการ 1133 จะเป็นบริการสอบถามเลขหมายโทรศัพท์ แต่บริการดังกล่าวเป็นหนึ่งในการให้บริการด้านข้อมูล ที่สามารถเรียกเก็บค่าบริการได้ ซึ่งไม่ใช่ค่าบริการโทรศัพท์ ดังนั้นหาก กทช. จะยกเลิก หรือไม่ให้ ทีโอที ดำเนินการ จะต้องมีรูปแบบที่สามารถมาชดเชยต้นทุนจากการให้บริการนี้แทน เพราะที่ผ่านมาบริการ 1133 ทีโอที มีค่าใช้จ่ายที่สูงเฉลี่ยปีละกว่า 200 ล้านบาท และ กทช. ก็ควรที่จะต้องให้เอกชน ที่ให้บริการดังกล่าวยุติบริการในลักษณะนี้เช่นกัน เช่น บริการสอบถามเลขหมายโทรศัพท์หน้าเหลือง ที่มีการเรียกเก็บในอัตรา 3 บาท ต่อนาที

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ทีโอทีได้เจรจากับ คณะทำงาน กทช. เพื่อนำภาระค่าใช้จ่ายดังกล่าวไปหักลดหย่อนกับการจ่ายค่าธรรมเนียมใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมในส่วนของการให้บริการโทรคมนาคมพื้นฐานอย่างทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม (ยูเอสโอ) ซึ่งกทช.จัดเก็บในอัตรา 4% ของรายได้นั้น แต่ สำนักงาน กทช.ได้ตอบปฏิเสธที่จะให้นำไปหักลดหย่อน ทำให้ ทีโอทีต้องหาแนวทางะลดภาระค่าใช้จ่ายดังกล่าวเอง โดยการเรียกเก็บค่าบริการสอบถามเลขหมายดังกล่าว

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า การที่ กทช. จะนำกฎหมายขึ้นมาเป็นการบังคับ หรือ การยึดใบอนุญาต กทช. ควรที่จะต้องวางจุดยืนตัวเองให้ชัดเจน ไม่ควรที่จะใช้แนวทางกฎหมายมาควบคุมแต่เพียงอย่างเดียว กทช. ควรที่จะต้องเร่งการทำงานต่างๆ ให้เร็วกว่านี้ โดยเฉพาะเรื่องของกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่จะต้องทำให้เกิดการแข่งขัน กติกา อัตราบริการให้เร็วกว่านี้ ไม่เช่นนั้น บริการใหม่ๆ หรือบริการที่เปิดไปก่อนหน้านี้ หากมีการปรับปรุง ก็ไม่สามารถทำได้

“ทีโอที ทำอะไรก็ผิดอยู่ฝ่ายเดียว ทั้งๆ ที่เรามีต้นทุนการแข่งขันเหมือนเอกชนรายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นภาษีสรรพสามิต การลงทุนด้านบุคลากร โครงข่าย หรือระบบให้บริการ เหมือนเอกชนรายอื่นๆ ที่ตอนนี้เขาสามารถทำอะไรได้กว่าตั้งเยอะ แต่พอ ทีโอที เก็บเงิน ขึ้นมา ก็กลับกลายเป็นว่า เอาเปรียบ หรือไม่คิดถึงประชาชน หากจะให้ ทีโอที ให้บริการในรูปแบบบริการสาธารณะ ไม่เก็บค่าใช้จ่าย กทช. จะต้องหาทางช่วย มากว่าที่จะกดดันหรือสั่งยุติโดยที่ไม่คำนึงถึงต้นทุนจากการดำเนินงาน”

ทั้งนี้ นอกเหนือจาก กทช. ทั้ง 7 ท่านจะต้องเร่งปรับตัวแล้ว ส่วนบุคคลากร ที่เป็นเจ้าหน้าที่ที่เข้ามารับผิดชอบ ควรที่จะต้องเร่งการทำงานต่างๆด้วยเช่นกัน เพราะในขณะนี้ เรื่องที่ กทช. จะต้องสะสางหรือวางสิ่งที่มาให้เห็นไปรูปธรรม ในการสร้างการแข่งขัน ยังไม่มีออกมาอย่างชัดเจน ทั้งเรื่องค่าเชื่อมโยงโครงข่าย อัตราบริการพื้นฐาน เป็นต้น

พล.อ.ชูชาติ กล่าวว่า ทีโอที ควรที่จะระงับการเก็บเงินจากบริการดังกล่าวชั่วคราว ถึงแม้ในขณะนี้จะมีการเรียกเก็บแล้วก็ตาม ซึ่งในสัปดาห์นี้หากผู้บริหาร ทีโอที เจรจาหรือมีการแสดงข้อมูล กทช. อาจจะให้การช่วยเหลือได้ เพราะเรื่องนี้ กทช. ยังไม่เคยได้รับข้อมูลหรือมีการนำเอกสารเสนอต่อที่ประชุมบอร์ด กทช. แต่อย่างใด

“หากมีการเสนอเข้ามาเป็นเรื่องของบริการสาธารณะ กทช. ก็อาจจะนำไปพิจารณาได้ แต่ การเรียกเก็บค่าบริการโดยที่ กทช. ไม่ทราบ หรือรายงานมา ตรงนี้ก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย”

Company Related Links :
TOT
กำลังโหลดความคิดเห็น