เนคเทค เผยผลการสำรวจกลุ่มผู้ใช้อินเทอร์เน็ตปี 2548 คนไทยนิยมฟังเพลงมากที่สุด และหันมาจองตั๋วชมภาพยนตร์และโรงแรมด้วย แต่ไม่ซื้อสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ต เพราะไม่เชื่อมั่น สำหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ADSL ขยายตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุด ในขณะที่ไวรัสคอมพิวเตอร์ยังคงเป็นปัญหาสำคัญ
ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) รายงานผลการสำรวจกลุ่มผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ปี 2548 เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลลักษณะพฤติกรรมและความคิดเห็นของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในด้านต่าง ๆ สำหรับใช้เป็นแนวทางเสนอแนะเชิงนโยบายเกี่ยวกับการพัฒนาอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยต่อไป โดยนายทวีศักดิ์ กออนันตกูล ผู้อำนวยการเนคเทค กล่าวว่า ปีนี้มีผู้เข้าร่วมตอบแบบสอบถาม 21,880 คน และมีคำถามพิเศษถึงการใช้บริการหลอมรวมสื่อ (convergence) สรุปได้ดังนี้ ด้านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ประชาชนใช้บริการ ADSL มีการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อม ๆ กับการลดลงของการเชื่อมต่อโดยใช้โมเด็มผ่านโทรศัพท์ (Dial up)
ส่วนการซื้อสินค้าและบริการบนอินเทอร์เน็ต มีสัดส่วนร้อยละ 30.7 ซึ่งไม่ต่างจากเดิมนัก แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า การสั่งจองบริการต่าง ๆ ผ่านอินเทอร์เน็ต เช่น ตั๋วภาพยนตร์ โรงแรม กลับได้รับความนิยมในอัตราที่สูงขึ้นอย่างชัดเจน ผู้ที่ตอบว่าไม่ซื้อสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ตให้เหตุผลว่า ไม่ไว้ใจผู้ขาย มีอัตราเพิ่มสูงเป็นร้อยละ 63.6 ต่างจากปีที่แล้วที่ให้ความสำคัญกับการไม่สามารถจับต้องสินค้าที่ขายผ่านอินเทอร์เน็ตได้ร้อยละ 50.7
สำหรับพฤติกรรมในการใช้อินเทอร์เน็ตยังไม่แตกต่างจากการสำรวจในปีก่อน ๆ กล่าวคือ ยังคงใช้อินเทอร์เน็ตจากบ้านมากที่สุด รองลงมาได้แก่ ที่ทำงาน และสถานศึกษา ตามลำดับ โดยช่วงเวลาที่ใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุดนั้น ยังอยู่ในช่วงเวลา 20.01 น. – 24.00 น. ปัญหาที่พบจากการใช้อินเทอร์เน็ต คือ ไวรัส ยังคงเป็นปัญหาที่สำคัญอันดับหนึ่ง รองลงมาคือ ความล่าช้าในการรับส่งข้อมูล และอีเมลขยะ ซึ่งมีลักษณะเช่นเดียวกับปีก่อน
พฤติกรรมในการใช้อินเทอร์เน็ตที่มีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย คือ กิจกรรมที่ทำบนอินเทอร์เน็ตมากที่สุด ยังคงใช้เพื่อการรับส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ รองลงมาคือ ค้นหาข้อมูล และเมื่อมีการแยกกิจกรรมที่ทำมากที่สุดตามอายุ พบว่ากลุ่มอายุต่ำกว่า 20 ปี มีแนวโน้มทำกิจกรรมด้านการบันเทิง เช่น การสนทนาออนไลน์ การเล่นเกม และการอ่านหรือเขียนเว็บบอร์ดมากกว่ากลุ่มอายุอื่น ๆ ทั้งนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ ร้อยละ 56.6 เห็นว่า ประเด็นเรื่องไวรัส และการรักษาความมั่นคงของเครือข่าย ควรให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ ที่จะแก้ไข
จากการสำรวจพฤติกรรมในการใช้บริการที่เกี่ยวข้องกับการหลอมรวมพบว่า ใช้รับชมทีวีออนไลน์มากที่สุด โดยเฉพาะรายการประเภทข่าว มากถึงร้อยละ 45.9 ของผู้ที่เคยชมทีวีออนไลน์ รองลงมาคือ รายการประเภทบันเทิงร้อยละ 43.7 ในขณะที่การฟังเพลงผ่านอินเทอร์เน็ต ผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 29.1 ระบุว่า ใช้บริการนี้มากกว่า 20 ครั้งต่อเดือน
สำหรับแนวโน้มในการใช้อินเทอร์เน็ตในปีหน้านั้น การขยายตัวของการใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงน่าจะยังคงมีอัตราเพิ่มมากขึ้นด้วยอัตราค่าบริการที่มีแนวโน้มลดลง บริการหลอมรวมสื่อ ยังเป็นประเด็นซับซ้อน ทั้งนี้ ภาครัฐจะต้องสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชนในการซื้อสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ต มีการแยกแยะเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ และไม่น่าเชื่อถือ มีการวัดระดับและให้ตราแห่งความเชื่อมั่น ซึ่งจำเป็นต้องออกกฎหมายมารองรับ นอกจากนี้ จะต้องดูแลให้เว็บไซต์ต่าง ๆ มีความมั่นคงของระบบ ส่งเสริมให้มีการดูแลปัญหาไวรัสคอมพิวเตอร์ในทุกหนทุกแห่ง โดยเนคเทคมีการศึกษาที่จะให้มีการพัฒนาฐานความั่นคงของระบบสารสนเทศมาแล้ว 2 ปี ศึกษา ISO 1799 BS และต้องการให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ให้ผ่านมาตรฐานดังกล่าว หรือมาตรฐาน ISO 27001
สำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุว่า ผลการสำรวจผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2548 พบว่ามียอดผู้ใช้รวม 7 ล้านคน ไม่เปลี่ยนแปลงจากปี 2547 มากนัก โดยเป็นผลจากการสำรวจผู้ใช้ที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป จำนวน 19 ล้านคน
ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) รายงานผลการสำรวจกลุ่มผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ปี 2548 เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลลักษณะพฤติกรรมและความคิดเห็นของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในด้านต่าง ๆ สำหรับใช้เป็นแนวทางเสนอแนะเชิงนโยบายเกี่ยวกับการพัฒนาอินเทอร์เน็ตในประเทศไทยต่อไป โดยนายทวีศักดิ์ กออนันตกูล ผู้อำนวยการเนคเทค กล่าวว่า ปีนี้มีผู้เข้าร่วมตอบแบบสอบถาม 21,880 คน และมีคำถามพิเศษถึงการใช้บริการหลอมรวมสื่อ (convergence) สรุปได้ดังนี้ ด้านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ประชาชนใช้บริการ ADSL มีการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อม ๆ กับการลดลงของการเชื่อมต่อโดยใช้โมเด็มผ่านโทรศัพท์ (Dial up)
ส่วนการซื้อสินค้าและบริการบนอินเทอร์เน็ต มีสัดส่วนร้อยละ 30.7 ซึ่งไม่ต่างจากเดิมนัก แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า การสั่งจองบริการต่าง ๆ ผ่านอินเทอร์เน็ต เช่น ตั๋วภาพยนตร์ โรงแรม กลับได้รับความนิยมในอัตราที่สูงขึ้นอย่างชัดเจน ผู้ที่ตอบว่าไม่ซื้อสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ตให้เหตุผลว่า ไม่ไว้ใจผู้ขาย มีอัตราเพิ่มสูงเป็นร้อยละ 63.6 ต่างจากปีที่แล้วที่ให้ความสำคัญกับการไม่สามารถจับต้องสินค้าที่ขายผ่านอินเทอร์เน็ตได้ร้อยละ 50.7
สำหรับพฤติกรรมในการใช้อินเทอร์เน็ตยังไม่แตกต่างจากการสำรวจในปีก่อน ๆ กล่าวคือ ยังคงใช้อินเทอร์เน็ตจากบ้านมากที่สุด รองลงมาได้แก่ ที่ทำงาน และสถานศึกษา ตามลำดับ โดยช่วงเวลาที่ใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุดนั้น ยังอยู่ในช่วงเวลา 20.01 น. – 24.00 น. ปัญหาที่พบจากการใช้อินเทอร์เน็ต คือ ไวรัส ยังคงเป็นปัญหาที่สำคัญอันดับหนึ่ง รองลงมาคือ ความล่าช้าในการรับส่งข้อมูล และอีเมลขยะ ซึ่งมีลักษณะเช่นเดียวกับปีก่อน
พฤติกรรมในการใช้อินเทอร์เน็ตที่มีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย คือ กิจกรรมที่ทำบนอินเทอร์เน็ตมากที่สุด ยังคงใช้เพื่อการรับส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ รองลงมาคือ ค้นหาข้อมูล และเมื่อมีการแยกกิจกรรมที่ทำมากที่สุดตามอายุ พบว่ากลุ่มอายุต่ำกว่า 20 ปี มีแนวโน้มทำกิจกรรมด้านการบันเทิง เช่น การสนทนาออนไลน์ การเล่นเกม และการอ่านหรือเขียนเว็บบอร์ดมากกว่ากลุ่มอายุอื่น ๆ ทั้งนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ ร้อยละ 56.6 เห็นว่า ประเด็นเรื่องไวรัส และการรักษาความมั่นคงของเครือข่าย ควรให้ความสำคัญเป็นลำดับต้นๆ ที่จะแก้ไข
จากการสำรวจพฤติกรรมในการใช้บริการที่เกี่ยวข้องกับการหลอมรวมพบว่า ใช้รับชมทีวีออนไลน์มากที่สุด โดยเฉพาะรายการประเภทข่าว มากถึงร้อยละ 45.9 ของผู้ที่เคยชมทีวีออนไลน์ รองลงมาคือ รายการประเภทบันเทิงร้อยละ 43.7 ในขณะที่การฟังเพลงผ่านอินเทอร์เน็ต ผู้ตอบแบบสอบถามร้อยละ 29.1 ระบุว่า ใช้บริการนี้มากกว่า 20 ครั้งต่อเดือน
สำหรับแนวโน้มในการใช้อินเทอร์เน็ตในปีหน้านั้น การขยายตัวของการใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงน่าจะยังคงมีอัตราเพิ่มมากขึ้นด้วยอัตราค่าบริการที่มีแนวโน้มลดลง บริการหลอมรวมสื่อ ยังเป็นประเด็นซับซ้อน ทั้งนี้ ภาครัฐจะต้องสร้างความเชื่อมั่นต่อประชาชนในการซื้อสินค้าผ่านอินเทอร์เน็ต มีการแยกแยะเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ และไม่น่าเชื่อถือ มีการวัดระดับและให้ตราแห่งความเชื่อมั่น ซึ่งจำเป็นต้องออกกฎหมายมารองรับ นอกจากนี้ จะต้องดูแลให้เว็บไซต์ต่าง ๆ มีความมั่นคงของระบบ ส่งเสริมให้มีการดูแลปัญหาไวรัสคอมพิวเตอร์ในทุกหนทุกแห่ง โดยเนคเทคมีการศึกษาที่จะให้มีการพัฒนาฐานความั่นคงของระบบสารสนเทศมาแล้ว 2 ปี ศึกษา ISO 1799 BS และต้องการให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ให้ผ่านมาตรฐานดังกล่าว หรือมาตรฐาน ISO 27001
สำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุว่า ผลการสำรวจผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทย ในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2548 พบว่ามียอดผู้ใช้รวม 7 ล้านคน ไม่เปลี่ยนแปลงจากปี 2547 มากนัก โดยเป็นผลจากการสำรวจผู้ใช้ที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป จำนวน 19 ล้านคน