สมาร์ทการ์ดแนวโน้มล่ม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเล่นโยนกลองไม่กล้ารับผิดชอบ หลังผลการทดสอบของเนคเทคระบุชัดบัตรใช้งานไม่ได้ ด้านนายกฯ โยนให้กระทรวงไอซีทีตัดสินใจ
แหล่งข่าวจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) เปิดเผยว่า โครงการบัตรประชาชนอเนกประสงค์หรือสมาร์ทการ์ดขณะนี้เริ่มมีปัญหา หลังผลการทดสอบของศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (Nectec) ระบุว่า ระบบความปลอดภัยภายในบัตรเป็นระบบปฏิบัติการระบบปิด หรือเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของบริษัทผู้ชนะการประมูล ซึ่งไม่สอดคล้องกับมาตรฐานจาวาซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการสากล ทำให้บัตรดังกล่าวไม่เหมาะที่จะรองรับการใช้งานแบบสมาร์ทการ์ด
จากปัญหาดังกล่าวทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่กล้ารับรองความถูกต้องของบัตรเปล่าฝังชิปจำนวน 12 ล้านใบที่กิจการร่วมค้าซีเอสที7 เป็นผู้ผลิต
ส่วนปัญหาความล่าช้าของโครงการสมาร์ทดการ์ดนั้นเกิดจากความขัดแย้งระหว่างกระทรวงไอซีทีกับผู้รับผิดชอบในการประมูลบัตรเปล่าฝังชิปและกระทรวงมหาดไทย ซึ่งทำหน้าที่บรรจุข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล โดยทางกระทรวงมหาดไทยอ้างว่า ซอฟต์แวร์ระบบบริหารจัดการภายในบัตร หรือซีเอ็มเอส (Card Management System) ที่มีอยู่ของมหาดไทย ไม่สามารถอ่านบัตรเปล่าฝังชิปที่กระทรวงไอซีทีประมูลได้ จึงไม่ยอมรับมอบบัตรจำนวน 12 ล้านใบที่ไอซีทีผลิตขึ้น จนกระทั่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามาตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว
แหล่งข่าวย้ำว่าการที่คณะกรรมการตรวจรับมอบบัตรไม่กล้าดำเนินการใดๆ นั้น เท่ากับเป็นการปล่อยให้ปัญหาบานปลายไปเรื่อยๆ เนื่องจากเอกชนผู้ชนะการประมูลสามารถฟ้องร้องได้ เพราะยังไม่ได้รับเงินค่าผลิต แต่หากเซ็นรับรองก็จะต้องรับผิดชอบ หากบัตรใช้งานไม่ได้จริงตามที่เนคเทคระบุ ทำให้ปัญหานี้ไม่มีทางออกใดๆ เป็นเหตุให้ต้องล่าช้าจากกำหนดออกไปเรื่อยๆ
ด้านนายคณวัฒน์ วศินสังวร ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที กล่าวว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้มอบอำนาจให้ทางไอซีทีเป็นฝ่ายตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป โดยให้นำผลการตรวจสอบจากเนคเทคมาพิจารณาประกอบกันทั้งหมด ซึ่งหากพิจารณาแล้วว่าใช้งานไม่ได้จริง คงต้องยกเลิกการประมูลครั้งนี้ไป
นายธนพล เจิมประไพ กรรมการผู้จัดการ กิจการร่วมค้าซีเอสที กล่าวว่า เทคโนโลยีของชิปในบัตรนั้นเป็นเทคโนโลยีล่าสุดที่สามารถประยุกต์เข้ากับเทคโนโลยีอื่นๆ ได้ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นอาจเป็นความเข้าใจที่ไม่ตรงกันของทางเนคเทค ส่วนจะมีการดำเนินการฟ้องร้องหรือไม่หากโดนล้มประมูลนั้น รอการตัดสินใจของกระทรวงไอซีทีก่อน
สำหรับโครงการสมาร์ทการ์ด เป็นหนึ่งในโครงการรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ หรืออี-กัฟเวิร์นเมนต์ ที่ต้องการให้ประชาชนทั่วประเทศสามารถติดต่อกับหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐได้ ซึ่งในอนาคตประชาชนจะสามารถใช้งานบัตรสมาร์ทการ์ดผ่านตู้บริการประชาชนอเนกประสงค์ (Multiple Machine:MPM) ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายตู้เอทีเอ็มของธนาคาร โดยขณะนี้ได้เริ่มทดลองใช้แล้วจำนวน 2 ตู้ และอยู่ระหว่างการของบประมาณเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาตู้ดังกล่าว ราคาตู้ละ 2 แสนบาท โดยรัฐบาลมีแผนที่จะนำไปตั้งไว้ที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ทุกแห่งทั่วประเทศ
Company Related Links :
ICT
Nectec
แหล่งข่าวจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) เปิดเผยว่า โครงการบัตรประชาชนอเนกประสงค์หรือสมาร์ทการ์ดขณะนี้เริ่มมีปัญหา หลังผลการทดสอบของศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (Nectec) ระบุว่า ระบบความปลอดภัยภายในบัตรเป็นระบบปฏิบัติการระบบปิด หรือเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของบริษัทผู้ชนะการประมูล ซึ่งไม่สอดคล้องกับมาตรฐานจาวาซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการสากล ทำให้บัตรดังกล่าวไม่เหมาะที่จะรองรับการใช้งานแบบสมาร์ทการ์ด
จากปัญหาดังกล่าวทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่กล้ารับรองความถูกต้องของบัตรเปล่าฝังชิปจำนวน 12 ล้านใบที่กิจการร่วมค้าซีเอสที7 เป็นผู้ผลิต
ส่วนปัญหาความล่าช้าของโครงการสมาร์ทดการ์ดนั้นเกิดจากความขัดแย้งระหว่างกระทรวงไอซีทีกับผู้รับผิดชอบในการประมูลบัตรเปล่าฝังชิปและกระทรวงมหาดไทย ซึ่งทำหน้าที่บรรจุข้อมูลเกี่ยวกับบุคคล โดยทางกระทรวงมหาดไทยอ้างว่า ซอฟต์แวร์ระบบบริหารจัดการภายในบัตร หรือซีเอ็มเอส (Card Management System) ที่มีอยู่ของมหาดไทย ไม่สามารถอ่านบัตรเปล่าฝังชิปที่กระทรวงไอซีทีประมูลได้ จึงไม่ยอมรับมอบบัตรจำนวน 12 ล้านใบที่ไอซีทีผลิตขึ้น จนกระทั่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามาตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว
แหล่งข่าวย้ำว่าการที่คณะกรรมการตรวจรับมอบบัตรไม่กล้าดำเนินการใดๆ นั้น เท่ากับเป็นการปล่อยให้ปัญหาบานปลายไปเรื่อยๆ เนื่องจากเอกชนผู้ชนะการประมูลสามารถฟ้องร้องได้ เพราะยังไม่ได้รับเงินค่าผลิต แต่หากเซ็นรับรองก็จะต้องรับผิดชอบ หากบัตรใช้งานไม่ได้จริงตามที่เนคเทคระบุ ทำให้ปัญหานี้ไม่มีทางออกใดๆ เป็นเหตุให้ต้องล่าช้าจากกำหนดออกไปเรื่อยๆ
ด้านนายคณวัฒน์ วศินสังวร ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงไอซีที กล่าวว่า ขณะนี้นายกรัฐมนตรีได้มอบอำนาจให้ทางไอซีทีเป็นฝ่ายตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป โดยให้นำผลการตรวจสอบจากเนคเทคมาพิจารณาประกอบกันทั้งหมด ซึ่งหากพิจารณาแล้วว่าใช้งานไม่ได้จริง คงต้องยกเลิกการประมูลครั้งนี้ไป
นายธนพล เจิมประไพ กรรมการผู้จัดการ กิจการร่วมค้าซีเอสที กล่าวว่า เทคโนโลยีของชิปในบัตรนั้นเป็นเทคโนโลยีล่าสุดที่สามารถประยุกต์เข้ากับเทคโนโลยีอื่นๆ ได้ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นอาจเป็นความเข้าใจที่ไม่ตรงกันของทางเนคเทค ส่วนจะมีการดำเนินการฟ้องร้องหรือไม่หากโดนล้มประมูลนั้น รอการตัดสินใจของกระทรวงไอซีทีก่อน
สำหรับโครงการสมาร์ทการ์ด เป็นหนึ่งในโครงการรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ หรืออี-กัฟเวิร์นเมนต์ ที่ต้องการให้ประชาชนทั่วประเทศสามารถติดต่อกับหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐได้ ซึ่งในอนาคตประชาชนจะสามารถใช้งานบัตรสมาร์ทการ์ดผ่านตู้บริการประชาชนอเนกประสงค์ (Multiple Machine:MPM) ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายตู้เอทีเอ็มของธนาคาร โดยขณะนี้ได้เริ่มทดลองใช้แล้วจำนวน 2 ตู้ และอยู่ระหว่างการของบประมาณเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาตู้ดังกล่าว ราคาตู้ละ 2 แสนบาท โดยรัฐบาลมีแผนที่จะนำไปตั้งไว้ที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ทุกแห่งทั่วประเทศ
Company Related Links :
ICT
Nectec